หัวข้อ: นักวิชาการ จี้เตือนภัยร้านขายยาเร่งปรับตัวรับ AEC ก่อนเจ๊ง เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มกราคม 05, 2013, 10:44:02 pm (http://www.leksound.net/UBMTHAI/wp-content/uploads/2013/01/drugstore.jpg)
นักวิชาการ จี้ ร้านขายยาเร่งปรับตัวรับ เออีซี มิเช่นนั้นจะถูกร้านยาต่างชาติกลืน ซ้ำรอยกิจการโชห่วยที่ถูกร้านสะดวกซื้อดูดลูกค้าไปหมด เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน2555ที่ผ่านมา มีการจัดอภิปรายในประเด็น ผลกระทบเออีซีต่อผู้ประกอบการร้านขายยา ภายใต้โครงการ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านขายยาแห่งประเทศไทย โดย ภก.ดร.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี กรรมการอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) กำลังจะเปิดใน พ.ศ. 2558 แต่ธุรกิจร้านขายยาเป็นธุรกิจที่ยังไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐทุกกรณี จึงทำให้ทางรัฐมีข้อมูลเกี่ยวกับร้านยาที่ไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การเปิดเออีซี จะส่งผลกระทบต่อร้านขายยาในประเทศไทย 2 ส่วนด้วยกัน ดังนี้ 1. ยาจากต่างประเทศจะถูกนำมาขายในไทยมากขึ้น ในราคาที่อาจจะเทียบเท่าหรือถูกกว่า เนื่องจากได้รับการละเว้นภาษีนำเข้า มีเพียงต้นทุนค่าขนส่งเท่านั้น ขณะที่ยาในประเทศต้องเสียภาษีนำเข้าวัตถุดิบและสารสำคัญของยาร้อยละ 2-5 อีกด้วย ทั้งนี้ การที่มียาไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น ทางร้านขายยาต้องมีหน้าที่คัดกรองยาที่จะนำมาขายเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องคุณภาพ ราคา ความปลอดภัย เป็นต้น 2. ร้านยาจากประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนจะมาเปิดแข่งกับร้านยาไทยมากขึ้น แม้ว่าตามกฎหมายไทยจะให้ชาวต่างชาติถือหุ้นในกิจการได้ร้อยละ 49 ก็ตามที แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีคนไทยถือหุ้นแทนกันได้ นอกจากนี้ยังมีร้านขายยาแบบแฟรนไชส์ ที่เป็นคู่แข่งขันร้านขายยาไทยอีก 1 รายด้วย ส่วนสาเหตุที่ต่างชาติเจาะตลาดร้านขายยาไทย เป็นเพราะคุ้มค้าและได้กำไรมากกว่าการส่งออกเพียงอย่างเดียว ขณะที่ นายวิชัย อรุณรักษ์รัตนะ ประธานชมรมร้านยาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเปิดเออีซีแล้ว แต่ร้านขายยาในไทยยังไม่มีการตื่นตัวในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างเร่งด่วนด้วย มิเช่นนั้น ก็จะเกิดภาวะคล้ายคลึงกับร้านขายของชำ ร้านค้าปลีก ค่อย ๆ ปิดกิจการ เนื่องจากสู้ทุนจากต่างชาติไม่ไหว นอกจากนี้ นายวิชัย ยังเสนอวิธีการรับมือของร้านขายยาไทยด้วยว่า ต้องรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น เพื่อเพิ่มอำนาจในการแข่งขัน เช่น เรื่องการพัฒนาร้านขายยาให้ได้มาตรฐาน รวมถึงการร่วมมือกันจัดซื้อยาให้ได้ราคาถูก เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากปัจจุบันเป็นร้านยาเดี่ยว ต่างคนต่างซื้อ ไม่สามารถต่อรองราคาให้ถูกลงได้มากเท่าที่ควร ส่วนเรื่องร้านขายยาในไทย จะไปบุกตลาดต่างประเทศหรือไม่ คงยังไม่มีช่องทาง เพราะศักยภาพยังไม่เพียงพอ http://www.leksound.net/UBMTHAI/?p=3473 |