หัวข้อ: คนไทยอ่วม! พ.ค.-ส.ค. นี้ ค่าไฟขึ้นอีก 30 สตางค์ เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 25, 2012, 04:22:42 pm (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/04/25/255616/hr1667/630.jpg)
วันนี้ (25 เม.ย.) ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค.55 เป็น 30 สตางค์/หน่วย จากเดิมที่ติดลบ 6 สตางค์/ หน่วย หลังต้นทุนค่าเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เผยปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศร้อน และราคาเชื้อเพลิง ส่งผลให้ค่าเอฟทีในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 55 ปรับขึ้น 57.45 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็น 1) ต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้า 38.40 สตางค์ต่อหน่วย และ 2) ค่าเชื้อเพลิงและค่ารับซื้อไฟฟ้าเดิมที่ กฟผ. รับภาระอยู่ก่อนแล้ว จำนวน 19.05 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ จากมาตรการที่ กกพ. ขอความร่วมมือให้ประชาชนลดการใช้พลังงานในช่วงระหว่างวันที่8 - 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีการใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าประมาณการฯ และนำมาเป็นส่วนลดค่าเอฟทีได้จำนวน 2.64 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีเท่ากับ 54.81 สตางค์ต่อหน่วย นอกจากนี้ กกพ.ได้ขอให้ กฟผ.พิจารณารับภาระในค่าเชื้อเพลิงและค่ารับซื้อไฟฟ้าเดิมที่ กฟผ.รับภาระอยู่ก่อนแล้ว จำนวน 19.05 สตางค์ต่อหน่วย ต่อไปอีกเป็นการชั่วคราว ทำให้ค่าเอฟทีเหลือเท่ากับ 35.76 สตางค์ต่อหน่วย และ กกพ. จะนำเงินจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้า ระหว่างปี 2551 - 2553 มาช่วยลดผลกระทบในค่าเอฟทีอีก ดังนั้น จะเหลือค่าเอฟทีเรียกเก็บ สุดท้ายจำนวนเท่ากับ 30 สตางค์ต่อหน่วย พร้อมกำหนดเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผ่าน www.erc.or.th ก่อนประกาศค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในเดือน พ.ค.- ส.ค. ต่อไป ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.เปิดเผยภายหลังการประชุม “การประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บในเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2555” ว่า กก พ. คำนึงถึงภาระค่าเอฟทีที่ส่งผ่านไปยังประชาชนต้องสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ที่แท้จริง ในขณะเดียวกันเป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าว่า การใช้พลังงานอย่างประหยัดในขณะที่ราคาค่าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูง ขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยที่ประชุม กกพ. มีมติให้ปรับขึ้นค่าเอฟทีรอบดังกล่าวเพียงบางส่วน จำนวน 30 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งต่ำกว่าการคำนวณของ กฟผ. กว่าร้อยละ 47 โดย กฟผ. คำนวณค่าเอฟทีในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2555 ในอัตรารวมทั้งสิ้น 57.45 สตางค์ต่อหน่วย ประกอบด้วยต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้า จำนวน 38.40 สตางค์ต่อหน่วย และค่าเชื้อเพลิงและค่ารับซื้อไฟฟ้าที่รับภาระอยู่ก่อนแล้วอีกชั่วคราว จำนวน 19.05 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับปัจจัยที่ทำให้ผลการคำนวณค่าเอฟที ในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2555 เพิ่มขึ้นนั้น สาเหตุหลักเกิดจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือน ช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2555 ที่ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ภาคการผลิตเพิ่งเริ่มจะฟื้นตัว นอกจากนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนสูงผิดปกติ ส่งผลให้การใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับราคาเชื้อเพลิงใช้ผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น โดย - อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่จะใช้ เท่ากับ 30.92 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย - ประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 - ราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปรับเพิ่มขึ้น 8.63 บาท/ล้านบีทียู เป็น 301.28 บาทต่อล้านบีทียู หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.95 - ราคาน้ำมันเตา ปรับเพิ่มขึ้น 1.08 บาทต่อลิตร เป็น 25.87 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.36 - ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้น 0.92 บาทต่อลิตร เป็น 28.19 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.37ดังนั้น ค่า Ft ในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2555 สำหรับการเรียกเก็บจากประชาชนจึงเท่ากับ 30 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับมติดังกล่าว กกพ.จะนำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเผยแพร่ผ่าน www.erc.or.th เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2555 จนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 ก่อนที่จะนำผลการรับฟังฯ มาพิจารณา และประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบ ดังกล่าว อย่างเป็นทางการต่อไป "การพิจารณาค่าเอฟที กกพ.มีการพิจารณาบนพื้นฐานของความเป็นธรรมต่อทั้งผู้ใช้ไฟฟ้า และผู้ประกอบการ โดยจะพิจารณาถึงต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ค่าซื้อไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงจากค่าไฟฟ้าฐาน พร้อมทั้งอัตราแลกเปลี่ยน และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนก่อนประกาศใช้ค่าเอ ฟทีในแต่ละงวด ในขณะเดียวกัน ค่าเอฟทีที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น การส่งสัญญาณไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าว่า การใช้พลังงงานอย่างประหยัดในขณะที่ราคาค่าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูง ขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยที่ผ่านมา กกพ. ได้มีการพิจารณาค่าเอฟที ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงครั้งนี้ รวม 15 ครั้ง โดยได้มีการให้นำเงินส่วนลดการลงทุนที่ต่ำกว่า แผนของทั้ง 3 การไฟฟ้า จำนวนกว่า 9,500 ล้านบาท มาบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของค่าเอฟทีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา" ดร.ดิเรกฯ กล่าว http://www.thairath.co.th/content/eco/255616 cry2!! หัวข้อ: อะจึ๊ย...ตับแลบแน่ กฟน.จะหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า 25-29 เมษานี้ เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 26, 2012, 08:55:54 am ประกาศการไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้านครหลวง มีความจำเป็นต้องทำงานเกี่ยวกับสายป้อนไฟฟ้าแรงสูง ทั้งนี้เพื่อพัฒนาและบำรุงรักษาระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิด ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การไฟฟ้านครหลวง จึงจำเป็นต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราวบางพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวดังต่อไปนี้ วันพุธที่ 25 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร เวลา 09.00 - 11.00 น. - บริเวณก่อสร้างปั๊มแก๊ส ซอยไอซีดี ถนนเจ้าคุณทหาร วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร เวลา 09.00 - 11.00 น. - บริเวณปากซอยวชิรธรรมสาธิต 3 เวลา 09.00 - 13.00 น. - บริเวณคลองบางเลา, คลองหลอแหล ถนนราษฎร์พัฒนา และบริเวณโรงเรียนสามแยกหลอแหล วันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร เวลา 09.00 - 15.30 น. - บริเวณหมู่บ้านสุภาวัลย์ ซอยรามคำแหง 176 ถนนรามคำแหง วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร เวลา 08.00 - 12.00 น. - บริเวณซอยพระรามเก้า 6 (ดับตลอดซอย) เวลา 08.30 - 15.30 น. - บริเวณถนนเพชรบุรี 38/1 ถึงแยกอโศก เวลา 08.30 - 16.30 น. - บริเวณซอยอ่อนนุช 17 แยก 17, 19 และ 20 นนทบุรี เวลา 08.30 - 15.30 น. - ซอยข้างโรงงานหอม - กระเทียม ถนนเลียบคลองนาหมอน - ซอยสุเหร่ายามาลุดดีน ถนนบางกรวย - ไทรน้อย - บริเวณชุมชนหลังวัดไชยทิศ ถนนจรัญสนิทวงศ์ วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 กรุงเทพมหานคร เวลา 08.00 - 15.30 น. - บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 43 ถนนจรัญสนิทวงศ์ เวลา 08.00 - 16.30 น. - ตั้งแต่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 78 ถึง ซอยสุขสวัสดิ์ 78 แยกซอย 2 (ดับตลอดซอย) เวลา 08.30 - 15.00 น. - บริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 43 (ดับตลอดซอย) เวลา 08.30 - 15.30 น. - ตั้งแต่ซอยจันทน์ 7, 9, 11, 13, 15 ถนนจันทร์ - บริเวณตั้งแต่ปากซอยลำกอไผ่ ถึง สน.ฉลองกรุง และ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง - ตั้งแต่วัดใหม่พิเรนทร์ ถึง หน้าโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ถนนอิสรภาพ - บริเวณตั้งแต่สี่แยกประดิษฐ์มนูธรรม (ศูนย์ฮอนด้า)ถนนพระรามเก้า (ฝั่งทิศเหนือ) ถึง สี่แยกรามคำแหง(ซอยทองประเสริฐ) - บริเวณซอยเพชรบุรี 35 ถึง ซอยเพชรบุรี 37 เวลา 08.30 - 16.30 น. - บริเวณซอยอ่อนนุช 17 แยก 13 ,15 และ 18 นนทบุรี - ถนนเลียบคลองลากค้อน ด้านวัดลากค้อนแยกจาก ถนนตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ฝั่งขาเข้า - ตั้งแต่คลองตาคล้าย ถึง คลองเจ๊ก ถนนบางกรวย - ไทรน้อย เฉพาะฝั่งหมู่บ้านชวนชม - หมู่บ้านพฤกษ์ภิรมย์รีเจนท์ ซอยวัดใหญ่สว่างอารมณ์ - บริเวณซอยสันติธรรม 1 และ 2, ซอยเทศบาลตำบลบางม่วง, คลองโสนน้อย, ถนนบางม่วง - บางคูลัด ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟจากสายป้อนไฟฟ้าแรงสูงตาม ถนน ซอย และคลองที่แยกจากที่แจ้งข้างต้น จะไม่มีกระแสไฟฟ้าตามวันและเวลาดังกล่าว การไฟฟ้านครหลวง จึงขออภัยท่านผู้ใช้ไฟฟ้ามา ณ โอกาสนี้ หากท่านมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่การไฟฟ้านครหลวงทุกเขต ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ด้านหลังใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้าหรือสามารถสอบถามผ่าน Call Center ของการไฟฟ้านครหลวง หมายเลขโทรศัพท์ 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงและนอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบประกาศดับไฟฟ้าล่าสุดได้จาก www.mea.or.th undecided2 หัวข้อ: คนไทยอ่วม! ไฟเขียวขึ้น ค่ารถ-ค่าไฟฟ้า เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 26, 2012, 09:48:04 am http://www.youtube.com/v/i5p5eRQrboM?version=en&fs=1&autoplay=1&loop=1=th_TH" type="application/x-shockwave-flash
(25 เม.ย.) คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง พิจารณารายละเอียดการปรับขึ้นค่าโดยสารรถพร้อมกันทุกหมวด ตั้งแต่หมวด 1 คือ รถที่วิ่งในกรุงเทพมหานคร จนถึงรถหมวด 4 โดยพิจารณาจากต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันดีเซล และก๊าซ ซึ่งมีราคาแพงขึ้นและมีราคาแตกต่างกัน สำหรับอัตราค่าโดยสารใหม่ ที่มีการลงมติให้ปรับขึ้น ประกอบด้วย รถสองแถว ปรับจาก 5.50 บาท เป็น 7 บาท รถมินิบัส ปรับจาก 6.50 บาท เป็น 8 บาท รถ บขส.และ รถร่วม บขส. ปรับขึ้นสูงสุด กม.ละ 4 สตางค์ รถ ขสมก. และ รถร่วม ขสมก. สามารถปรับขึ้นอีก 1 บาทได้ ก็ต่อเมื่อจ่ายค่าก๊าซ NGV ที่ราคา 9.50 บาท/กก. นอกจากนี้ ทางด้าน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้พิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟทีงวดใหม่ ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนรอบเดือน พฤษภาคม ถึง สิงหาคม ซึ่งที่ประชุมมีมติเรียกเก็บค่าเอฟทีงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2555 เพิ่มขึ้นอีก 30 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ค่าเอฟทีปรับเพิ่มขึ้นรวม 57.45 สตางค์ต่อหน่วย โดยแบ่งเป็นต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้า 38.40 สตางค์ต่อหน่วย ค่าเชื้อเพลิงและค่ารับซื้อไฟฟ้าเดิมที่ กฟผ.รับภาระอยู่ 19.05 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่ง กกพ.ได้ขอให้ กฟผ.แบกรับค่าเชื้อเพลิง และค่ารับซื้อไฟฟ้าออกไปอีก 1 งวด คิดเป็นระยะเวลา 4 เดือนนับจากนี้ undecided2 |