หัวข้อ: ความลับต้องจับตา "โภชนาริมทาง" เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ พฤษภาคม 02, 2011, 07:18:03 am http://www.vcharkarn.com/varticle/42705
ผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉย เรียกว่า “ไฮเปอร์” เลยก็ว่าได้ ครั้งหนึ่งได้ทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนสัมภาษณ์ ดร.ซาฮี ฮาวาส ผู้เป็นปราชญ์ด้านมัมมี่วิทยาที่โลกรู้จักดี และได้ทราบเรื่องอันเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย มีเรื่องหนึ่งน่าสนใจ คือได้มีโอกาสพบกับมหาดเล็กห้องเครื่องเลยได้ทราบว่าพระกระยาหารของควีนกับ ดยุคนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารเรียบง่าย แต่สิ่งพิเศษอยู่ที่ถ้าเมื่อใดสมเด็จทรงรู้สึกว่าเครื่องเสวยนั้นโอชารสก็จะ ทรง "หยุด" ไม่เสวยต่อสิ่งนี้เองครับที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลักอายุรวัฒน์ง่ายๆ สั้นๆ ดีคือ "ไม่ติดรส" เมื่อไรรู้สึกอร่อยก็ให้เตือนตัวเอง อาจไม่ถึงกับต้องรวบช้อนส้อมเลยก็ได้ คล้ายกับผู้ที่กินง่ายดูกินสิ่งใดก็น่าอร่อย คนรอบข้างเห็นแล้วยังอร่อยแทน แต่การกินง่ายเช่นนั้นก็เป็นเสมือนดาบสองคมโดยเฉพาะถ้ากับอาหารข้างทางที่บางสิ่งก็ต้องรอบคอบพอดู ไม่ใช่ว่าบุษบาริมทางจะต้องบริสุทธิปลอดสารเป็นมายแฟร์เลดี้เสมอไป ซึ่งถ้าให้รอบคอบที่สุดก็ของให้หยุดจับตาดูบ้างดังนี้ 1) ของร้อน เงินร้อน สมบัติร้อนยังไม่ดีแล้วนี่ยิ่งของร้อนที่ต้องล่วงเข้าปากเราไม่ว่าจะบะหมี่ เกี๊ยวร้อนๆ, ขนมจีบควันฉุย, เต้าหู้ทอดร้อน,หมูปิ้ง, ไก่ย่าง, คอหมูย่างและอีกมากตามรายทางล้วนมีสิทธิ"ปล่อยพิษ"PAHs(Polycyclic aromatic hydrocarbon)" ที่เป็นปุยเร่งมะเร็งให้งอกงามได้ 2) น้ำมัน ของทอดของมันรวมถึง "ไขมันซ่อน" เช่นจากเนยเทียม,ครีมเทียมรวมถึงวิปครีมและขนมเค้กคุกกี้เบเกอรี่ทั้งหลายที่กินง่ายทั่วไปมีสิทธิได้ "ทรานส์แฟท (Transfat)" หรือไขมันมรณะไม่แพ้ของกินเล่นอย่างอื่นเลย 3) น้ำตาล ธาตุหวานที่ไม่แท้อย่าง"ขัณฑสกร(Saccharin)" เป็นของกินที่เสี่ยงอันตราย รวมถึงน้ำหวานสีสวย อีกทั้งกาแฟและชาตามรถเข็นจะเป็นแบบโบราณหรือชาชักแต่ถ้าหนักน้ำตาลไปก็ทำให้คนกินชักเพราะเบาหวานกำเริบได้ 4) เค็ม ธาตุเค็มเขย่าโลกทำให้โรคความดันถามหา มีอยู่ในผลไม้ดอง,ของกินเล่น, ขนมปัง, น้ำสลัดข้นไปจนเบเกอรี่คุกกี้ที่กินสะดวกข้างทางเป็นที่ตั้งแห่งโรคความดันสูง, หัวใจวายและกลายเป็นอัมพาตได้แค่กินเกินวันละ 2ช้อนชาเท่านั้น 5) สี ไม่ต้องสงสัยในเรื่องความปลอดภัยเพราะสีในอาหาร กินง่ายมีอยู่หลากหลายบางชนิดกินแล้วปัสสาวะออกมายังมีสีอยู่ต้องระวังการได้สีที่ไม่ถูกโฉลกกับสุขภาพเช่นใช้สีย้อมกระดาษหรือย้อมผ้ามาผสมทำให้ไตคนที่ไม่ใช่แฟชั่นเกาหลี ต้องมีสิทธิ"เสื่อมไปได้เพราะในสีเหล่านี้มี "โลหะหนัก" ปนอยู่ 6) สารกันบูด รวมถึงดินประสิวกลุ่มไนไตรท์ที่ช่วยให้เกิดผิวสีแดงบนเนื้อ, ไส้กรอก, แฮม, หมูแผ่น, หมูสวรรค์, เนื้อเค็มและของกินชนิดที่ว่ารมควันหอมยั่วน้ำลายนั้นกลายเป็นอาหารก่อภูมิแพ้และก่อมะเร็งได้โดยเฉพาะใน"เด็ก" 7) ผงชูรสเทียม โซเดียมเมตาฟอสเฟตคือชื่อของมันเป็นอันตรายมหันต์ในราคาที่ถูกกว่าผงชูรสจริงไม่มาก แต่ผู้ขายที่อยากลดต้นทุนก็พร้อมจะเสี่ยงชีวิต (ลูกค้า) เพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรสูงสุด การหยุดกินอาหารข้างทางบ่อยไปก็อาจได้ลิ้มรสผงชูรสเทียมกลายๆ โดยไม่มีสิทธิ"รู้ก่อนเลย แค่เจ็ดอย่างก็อานแล้วนะครับสำหรับอาหารสกัดดาวรุ่งที่ยุ่งตั้งแต่ใกล้ตัว น่ากลัวตรงที่หากินง่ายนี่แหละครับ บางทีอุตส่าห์ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดีมีค่าเทอมแพงหูฉี่แต่กลับมาบ้านป่วย ออดแอด เจ็บคอท้องเสียด้วยอาหารสะดวกกินหน้าโรงเรียน เปลี่ยนเป็นตกม้าตายตอนจบ"อร่อยเมื่อไรให้หยุด" เพราะจุดนั้นจะทำให้เราฝึกห้ามตัวเองได้ง่ายขึ้น ย้ำหลักสำคัญไว้ว่าอย่าให้อร่อยจนติด ping! |