LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

คือผมไปซื้อแอร์ ซัยโจ จากแมคโคร แล้วเรียกช่างจากร้านข้างบ้านมาติด ติดเสร็จโอเคใช้ได้ก็ปิดใว้ตอนกลางคีนกะจะเปิดแอร์นอนให้เป็นสุข แอร์กลับไม่เย็นซะอย่างนั้น  สังเกตว่าพัดลมคอยร้อนก็ติดแต่ไม่เย็นเลย โทรหาร้านติดตั้งเขาบอกว่าไม่เกี่ยวกับการติดตั้งเกิดจากแอร์เสียแอร์ยี้ห้อนี้เป๊นประจำเจอบ่อยเขาบอกคอมไม่สตาร์ท ต้องแจ้งศูนย์ใหญ่  ตอนนี้ผมแจ้งศูนย์แล้วนัด วันที่ 29 จะให้ช่างมาดู  ขอถามว่าผมจะเชื่อร้านติดตั้งพูดได้ไหม แล้วควรจะทำอย่างไรต่อไป :D

ถ้าเป็นช่างข้างบ้านก็น่าจะเชื่อถือได้นะครับ  อย่างน้อยก็น่าจะคุ้นเคยกันในฐานะเพื่อนบ้าน   เวลานี้สิ่งที่ดีที่สุดก็คือรอช่างจากศูนย์บริการครับ  เพราะเครื่องอยู่ในประกัน  จะได้ไม่เสียตังค์ซ้ำซ้อน

ถ้าเป็นแอร์ใหม่ๆ ไม่น่าเสียไว มีใบรับประกันไหม  อันดับแรก ให้ช่างที่ติดตั้งมาตรวจเช็คเบื้องต้นก่อน สายไฟอาจหลวมหรือต่อระบบไม่ถูกต้อง  ถ้าคอมเดินและพัดลมหมุน ลองเช็คน้ำยาถ้าไม่มีหรือมีน้อย ท่อทางเดินน้ำยารั่ว บานแฟร์ไม่ดี หรือเชื่อมไม่ดี หากไม่มั่นใจให้ช่างเจ้าอื่นเข้าไปตรวจเช็คซิครับ จะได้รู้ ถ้าไม่ซ่อมค่าตรวจเช็ค300บาท  เพราะถ้าช่างศูนย์มาตรวจเช็คพบว่า ผิดพลาดในการติดตั้ง ต่อระบบไฟฟ้าผิดหรือ ท่อทางเดินน้ำยารั่ว ท่านก็ต้องเสียค่าบริการให้ช่างศูนย์นะครับ  เพราะไม่ได้ผิดพลาดของสินค้าและการผลิตครับ ลองคิดดูดีๆนะครับ lsv-smile

ขอถามต่ออีกนิดครับ ตอนที่ช่างมาติดแอร์ สังเกตว่าช่างไม่ได้แวคอากาศออก ถามเขา เขาบอกแอร์รุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแวคแล้ว เท็จ จริงอย่างไรครับ

จริงครับ

จริงหรือครับ ไม่ต้องแวค ได้ข้อมูลมาจากไหน ขอหลักฐานยืนยันหน่อยครับ  คู่มือการติดตั้งระบุต้องแวคและห้ามปล่อยน้ำยาไล่ระบบ  แต่ช่างบางคนก็ ปล่อยน้ำยาในระบบไล่อากาศในท่อ ทั้งที่คู่มือติดตั้งห้าม ให้ดีสุดๆต้องแวคนะครับ ถ้าไม่แวคอากาศที่อยู่ภายในท่อจะเอามันออกได้อย่างไรครับ

 undecided2  ขออภัยครับ ที่ให้ข้อมูล ผิดๆ   โทรสอบถามพักพวกที่รับติดตั้งให้แล้ว  ครับ พอดีผมติดตั้งแอร์ที่บ้าน2ตัว ไม่เห็นเขาจะทำหรือว่าเวลาเขาทำ ผมไม่อยู่  เลยโทรถาม ให้หายสงสัยซะเลย  ยังไงขออภัยอีกทีครับ

  การแว็คคั่มนี่สำคัญนะครับเพราะถ้าอากาศออกไม่หมดเมื่อ ไอน้ำในอากาศที่ตกค้างเกิดการควบแน่นจากความเย็นที่เกิดขึ้นในระบบรวมกับอ็อกซิเจนที่มีอยู่ก็จะทำให้เกิดเป็นอ็อกไซด์ เมื่อนั้นแหละเป็นเรื่องเลย และการแว็คคั่มก็เป็นการทดสอบรอยรั่วไปในตัวด้วยนะครับ

     ผมอยู่หาดใหญ่ก็ได้ยินเรื่องเ่ช่นนี้อยู่เหมือนกันครับ  ผมก็ยังสงสัย  แต่ไม่กล้าลองต่อให้รีีบแค่ไหน  ยังไงก็ขอบคุณด้วยครับ ping!

   ผมได้คุยกับเพื่อนผมที่ทำแอร์อยู่  มันบอกว่ามันทำมาแล้ว  ประมาณว่ารีบ  ไม่ได้แวกก็ปล่อยน้ำยาเข้าระบบไปซะอย่างนั้น  มันบอกว่าก็เย็นเหมือนกันน่ะ  ....   แต่เย็นไม่ฉ่ำเท่าที่ควร  !   อืมหืมทำไปได้  จรรยาบรรช่าง...หนาวแทน ju_ju!!

เห็นมาเยอะจริงๆ ชินแล้ว.
แต่ผมต้องแวค.

ไม่เป็นไรหรอกครับ เรามาแลกเปลี่ยนความรู้ พูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ความชำนาญของแต่ละท่านไม่เท่ากันหรือเก่งคนละด้านครับ  ความรู้ไม่เท่ากันครับ มาแบ่งปันหรือแลกเปลี่ยนความรู้ให้กันละกันครับผม

อย่างนี้ผมจะสรุปว่า  ไม่แวคก็ได้ แวคก็ดี ได้ไหมครับผม

ผมเคยติดแอร์ ที่ไม่ต้องแวคครับ(ไม่มียี่ห้อ) จุดสังเกตุที่ตัวแอร์คือ

- มีเซอร์วิสวาล์ว ที่คอยล์ร้อน
- มีแรงดันทางด้าน โลว์ (อีแวปปอเรเตอร์)โดยต่อเกจวัดแรงดัน(ขั้นตอนการต่อเกจมีการไล่อากาศ)

วิธีติดตั้ง คือไล่น้ำยาออกจากระบบปกติ แต่ที่ช่างติดตั้งทำแล้วมีปัญหาคือไล่น้ำยาย้อนทาง กับฟิลเตอร์ไดเออร์ หรือไล่ไม่คลอดท่อ(ไล่แค่ปากท่อ)

ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้ปกติครับ ปัญหาการติดตั้งแอร์ส่วนมากมาจากผู้ติดตั้งหรือบริการ เช่น ล้างแอร์แล้วใส่น๊อตไม่ครบ ใส่น๊อตผิดขนาดยาวเกินปลายสกรูไปชนกับท่อน้ำยาเมื่อใช้นานๆ เครื่องสั่นก็เจาะท่อน้ำยารั่ว เป็นต้น

ยินดีที่ได้ร่วมแชร์ความรู้จากประสบการณ์ครับ

ตามความเห็นส่วนตัวน่ะครับ เมื่อเราประกอบท่อดูด อัด เสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำยาที่เขาให้มาจะอยู่ใน
coil ร้อนทั้งหมด ซึ่งภายในท่อดูดและอัด ก็น่าจะมี แต่อากาศและอาจมีฝุ่นละอองต่างๆอยู่ภายใน
ซึ่งถ้าเราทำการvaccum ส่วนหนึ่งอาจทำให้ฝุ่นผงหลุดออกไปทำให้ท่อสะอาดขึ้น และยังเป็นการเช็ครั่วได้ด้วย แต่การใช้น้ำยาไล่อากาศนั้น เราก็ต้องเสียน้ำยาไปกับการไล่อากาศ และเราจะทราบได้อย่างไรว่าอากาศที่ไล่หมดแล้ว  ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ

การแวคคั่ม ไม่ใช่การดุดสิ่งสกปรกออกครับ แต่เป็นการลดแรงดันในท่อน้ำยา ทำให้น้ำที่อยุ่ภายในสามารถเดือดเป็นไอในอุณภูมิภายนอกปกติ และถูกดูดออกผ่านเครื่องแวคคั่มครับ

แอร์ตัวด้านบนที่คอยร้อนมีน้ำยาถูกปั๊มดาวน์เก็บไว้ ส่วนคอยล์เย็น อัดแรงดันน้ำยาไว้(ปกติที่เคยเจอจะเป็นไนโตรเจน ถ้ารั่วเมื่อเปิดจุกออกจะไม่มีแรงดันออกมา)

การต่อท่อ ไม่ได้ใช้แบบเชื่อม แต่ใช้เครื่องมือบานแฟร์กับดัดท่อครับ

ถ้าไล่อากาศไม่เป็นถึงจะแวคคั่มดีเท่าไหร่ อากาศก็จะเข้าได้ตอนต่อสายเกจครับ  การไล่อากาศปกติก็ใช้น้ำยาอยู่แล้ว ไม่ถือว่าเปลืองหรือเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใดครับ ถ้าไม่ไล่น้ำยา หรือใช้อย่างอื่นแทนน้ำยาจะแปลกกว่าครับ

ถามต่อครับ...

การไล่อากาศโดยใช้น้ำยาไล่จะรู้ได้อย่างไรว่าไล่ความชื้นออกไปด้วย

แต่แวคคั่ม ดูดทั้งอากาศและความชื้นออกไปด้วยนะครับ

เพราะฉะนั้นอย่าประหยัดเวลานิดหน่อยโดยการไม่แวคคั่มเลย

ถ้าดีจริงบริษัทแอร์ใหญ่ๆจะติดสติ๊กเกอร์มาทำไมว่าให้แวคคั่มและไม่ให้ปล่อยน้ำยาออก

เพราะว่าเค้าคำนวณมาแล้วโดยการเติมน้ำยาเป็นกิโลกรัมแต่ของเรา เราเช็คตามจำนวนปอนด์เท่านั้นเอง

บางยี่ห้อก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน การตัดสินใจบางครั้งก็อยู่ที่หน้างานว่าทำได้หรือไม่ ตัวอย่าง จะเติมน้ำยาตามสเปคโรงงานก็เอากิโลไปชั่งน้ำยาตอนเดิมก็ได้(ผมก็ไม่เคยชั่ง) จะดูแรงดันน้ำยาก็ได้ จะดูกระแสคอมฯก็ได้ ส่วนมากก็จะดูแรงดันทางด้านดูด 

การไล่อากาศ ถึงจะแวคคั่มเต็มระบบก็ยังต้องมีครับ อย่างน้อยสุดก็ต้องไล่น้ำยาที่สายเกจวัดน้ำยา  แต่ไม่ใช่ว่าแอร์ทั้งระบบมาท่อใสๆ เอามาเชื่อมท่อใช้น้ำยาไล่อากาศโดยไม่แวคคั่ม ความชื้นที่อยู่ในระบบถ้ายังไม่หมดฝืนเดินเครื่องเติมน้ำยาแปปเดียวไม่ฟิลเตอร์ก็แคปทิวป์ตันแล้วครับ

แอร์ที่มีน้ำยาในคอยล์ร้อน(ปั๊มดาวน์จากโรงงาน)และคอยล์เย็นมาจากโรงงานแล้ว ผมไม่ได้เดรนน้ำยาออกแล้วแวคคั่มใหม่ครับ น้ำยาก็เติมเพิ่มเข้าไปนิดเดียว หรือแทบไม่ได้เติมเลย ไม่ได้ประหยัดเวลาครับเพราะมันแทบจะเต็มตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องแล้วครับ

จะแวคคั่มในระบบที่มีแรงดันสูง ปั๊มแวคคั่มจะพ่นน้ำมันและทำให้พัง ก่อนแวคต้องลดแรงดันก่อนเพื่อป้องกันความเสียหาย ไม่ใช่เอาแต่ประหยัดเวลาอย่างเดียว

จะบอกว่าช่างคนนั้นคนนี้เก่ง สามารถติดตั้งแอร์ทั้งระบบโดยไม่ต้องแวคคั่ม ก็ต้องดูโจทย์ครับว่าเพราะอะไร

วันก่อนช่างจากศูนย์บริการมาตรวจดูแล้วพบว่าการติดตั้งไม่ดีครับ [ขันน๊อตไม่แน่น]ทำให้น้ำยารั่วจนหมดผมว่าถ้าช่างติดตั้งเขาแวคอากาศสักนิดคงไม่พลาดเรื่องแค่นี้  แต่ที่แปลกใจคือช่างจากศูนย์บริการแค่ขันน๊อตให้แน่นแล้วเติมน้ำยาก็ไม่แวคอากาศเหมือนเดิมครับ ช่างบอกเครื่องประกัน 1 ปีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร แต่เอาใบแจ้งซ่อมมาให้ผมเซ็นชื่อผมทำใจอยู่นาน  คือแจ้งเปลี่ยนหลายรายการมากเป๊นเงินเกือบ 5000 บาท ทำไมช่างหากินอย่างนี้ จริงอยู่มันไม่ใช่เงินของผมหลอก  แต่ผมก็มีส่วนร่วมด้วยโดยปฎิเสธไม่ได้ ทำกันอย่างนี้สังคมจะดีได้อย่างไร embarrassed7

น้ำยารั่วหมดระบบอย่างไรซะก็น่าจะต้องแวคนะครับ แปลกใจว่ามีเปลี่ยนอุปกรณ์เพิ่ม เต็มที่ก็เปลี่ยนฟิลเตอร์ไดเออร์ค่าใช้จ่าย(ถึงจะไม่ต้องจ่าย) ก็ไม่น่าเกือบ 5,000  embarrassed7

หาคนที่ซื่อสัตย์กับอาชีพยากจริงๆครับ ผมทำงานเป็นงานซ่อมเองในบริษัทไม่ใช่บริการลูกค้า ทุกครั้งที่ทำงานเองแล้วมีปัญหา สิ่งที่จะตามมาคือทำให้งานมากขึ้นแต่เงินเดือนเท่าเดิม แตกต่างจากการบริการลูกค้ายิ่งมากก็ยิ่งมีรายได้มาก วางยาหรือเลี้ยงไข้ เป็นไปได้ต้องไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดเป็นดีที่สุดครับ

- หลังติดตั้งเสร็จเดินเครื่องแล้วอย่าเพิ่งให้ช่างที่ติดตั้งกลับจนกว่าคอมเพรสเซอร์หยุดทำงานเพราะอุณหภูมิในห้องเย็นแล้วและรอให้คอมทำงานอีกครั้งจึงให้กลับ (ส่วนมากจะบอกว่ารีบมีงานอื่นต่อ)ผู้ซื้อมีสิทธิ์ไม่เซ็นต์รับเครื่องหรืออุปกรณ์ใดๆได้ เพราะถือว่าการติดตั้งยังไม่เสร็จเรียบร้อย

- ตรวจเช็คงานที่ช่างทำด้วยตนเอง เช่น ท่อน้ำยาต้องไม่มีน้ำมันรั่วออกมาบริเวณส่วนที่ขันหรือเชื่อมต่อ,การเดินสายไฟ,ประกอบน๊อตเข้าเครื่องครบถ้วน แม้กระทั่งส่วนที่อยู่ภายนอกอาคารผู้ซื้อเองส่วนมากจะเซ็นต์รับโดยที่ไม่ได้ออกไปดู(ช่างที่มีความรับผิดชอบจะตรวจเช็คความเรียบร้อยโดยรอบก่อนส่งมอบ)

เส้นทางมิชฉาชีพ

- ปล่อยน้ำยาให้ลีคออกทีละน้อย เพื่อต้องการมาบริการในภายหลัง
- นำอุปกรณ์ที่ติดมากับเครื่องขายซ้ำอีกครั้ง ถ้าผู้ซื้อต้องการจะต้องจ่ายเพิ่ม ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย
- ขันสายไฟหลวม ใช้ไปนานๆ อุปกรณ์เสีย ต้องเรียกเข้ามาบริการ
- ครั้งแรกที่เข้ามาบริการอาการเสียระบบน้ำยา ไม่นานก็เสียระบบไฟฟ้า ให้สงสัยไว้ว่าโดนวางยา เพราะผู้บริการจะรับประกันการซ่อมระบบที่แจ้งเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากอาการที่แจ้งก่อนหน้าจะมีค่าใช้จ่าย
- ล้างแอร์โดยไม่ใช้ถุงคลุมตอนล้างน้ำ


ปัญหาหลังการติดตั้ง ส่วนมากผู้จะเข้ามาซ่อมให้ก็คือชุดเดียวกับชุดที่ติดตั้ง ถ้าผู้ติดตั้งทำงานไม่รอบคอบปัญหาก็แก้ไม่จบ

   ผมสงสารลูกค้าที่เจอกับช่างพวกนี้จังครับ ทำไมถึงไม่ซื่อสัตว์กับอาชีพของตัวเองเลยแล้วอย่างนี้ชีวิตจะมีความสุขเหรอ ถึงได้เงินมามันก็ไม่น่าจะมีความสบายใจนะครับ สำหรับผมบอกทุกเรื่องและแนะนำลูกค้าทุกเรื่องจนเขาหมดคำถามแล้วเราก็จะได้คำว่าปากต่อปากมาตอนนี้ผมไม่ได้เปิดร้านแต่ก็มีงานซ่อมเข้ามาเรื่อยและก็ลูกค้าทุกคนเขาก็พอใจที่จะรอเพราะผมก็บอกเขาว่าถ้ารอได้ก็จะทำให้แต่ถ้ารอไม่ได้ก็ให้คนอื่นทำไปก่อนเพราะผมทำงานบริษัทว่างก็วันอาทิตย์หรือตอนเย็นเท่านั้นถ้าจะให้ทำให้ก็ต้องรอทำอย่างนี้แล้วลูกค้าก็โอเค เราก็สบายใจด้วย

ผมเตือนท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟังคำแนะนำ จุดจบก็เป็นแบบนี้ครับ ความผิดไม่ใช่ ช่างศูนย์บริการที่ผิด แต่ผิดที่ช่างไปติดตั้ง ทำไว้ไม่ดี ผมก็ให้มาแก้งานท่านก็ไม่เอา  เรียกช่างศูนย์บริการเค้าก็คิดค่าบริการซิครับ แต่ถ้าชิ้นส่วนหรืออะไหล่ชำรุดอยู่ในเวลาที่รับประกัน ฟรีหรือเรียกเก็บแต่ค่าแรงเท่านั้นครับ  จดจำไว้เป็นบทเรียนราคาแพง สรุป เอาบิลไปเก็บกับช่างที่ติดตั้งให้เค้าจ่ายซิครับ เพราะเป็นความผิดผลาดของช่างติดตั้ง ถ้าเค้าไม่รับผิดชอบก็ต้องประจานครับ

เรียนท่าน H933  คือว่าผมได้แจ้งร้านติดตั้งแล้วครับตั้งแต่วันวันที่เกิดปัญหาแต่ร้านไม่เคยให้ช่างมาดูเลยกลับยืนยันว่าเป็นความรับผิดชอบของทางบริษัทแอร์ ไม่เกี่ยวกับการติดตั้งเขาติดตั้งดีแล้ว แล้วทางร้านติดตั้งก็จัดการแจ้งศูนย์ใหญ่ให้  ส่วนทางศูนย์บริการเขาไม่ได้เรียกเก็บเงินจากผมหรอกครับแต่เขาเอาบิลเท็จมาให้ผมเซ็นมี
cap  com           535
assy  pbc           650
mainboard       1980
assy display       350
thermistor          161
น้ำยาเคมี                 25
defrost sonsor     161
relay                   749
รวม                    4611   บาท
เขาแจ้งเปลี่ยนทั้งหมด 8 รายการทั้งที่จริงเขาแค่ขันน๊อตให้แน่นขื้น แล้วเติมน้ำยาใหม่  แสบใหมครับช่างศูนย์