พิมพ์หน้านี้ - แม่น้ำลำคลอง - ถนนในวันวาน

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

นานาสาระ => ย้อนอดีต-ของโบราณ => ข้อความที่เริ่มโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 01, 2011, 07:43:03 am



หัวข้อ: แม่น้ำลำคลอง - ถนนในวันวาน
เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 01, 2011, 07:43:03 am
http://www.baanpud.net/swfupload/upload/uploads/hifias215s.swf

(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=1174&DMSCALE=47.61905&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=12&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)
คลองแสนแสบ....ยุคขวัญ-เรียม
อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดั่งหนามยอกแปลบๆ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน

(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=1168&DMSCALE=47.35596&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=13&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)

คลองบางยี่ขัน....ตามรอยสุนทรภู่
ถึงโรงเหล้า เตากลั่น ควันโขมง
มีคันโยง ผูกสาย ไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรม น้ำนรก เจียวอกเรา
ให้มัวเมา เหมือนหนึ่งบ้า เป็นน่าอาย
ไม่เมาเหล้า แล้วเรา ยังเมารัก
สุดจะหัก ห้ามจิต คิดไฉน
ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป
แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืน

(http://www.thailandoutdoor.com/GunStory/2continents/manwithnoland/oOPAOecN1.jpg)

คลองบางกอกน้อย....พายเรือตามหาบัวลอย
"โถเจ้าว่ายน้ำไม่เป็น
ยังลงว่ายเล่น เพียงเห็นชื่นเย็นนิดหน่อย
น้ำเชี่ยวยิ่งเหลือ เจ้าจึงเป็นเหยื่อคลองบางกอกน้อย
จิตใจพี่ให้เศร้าสร้อย ถึงบัวลอยแม่จอมขวัญ"
เพลงนี้เคยดังในอดีต.....
น่าสงสารบัวลอย....จมน้ำแล้วยังมีคนสมน้ำหน้าอีก
ว่ายน้ำไม่เป็น.....แล้วลงไปเล่นน้ำทำไม

(http://img822.imageshack.us/img822/7518/bang.jpg)


คลองมหานาค
(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=949&DMSCALE=47.43083&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=17&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)

ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ถ่ายเมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1952
(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=788&DMSCALE=46.87500&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=7&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)

เยาวราช
(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=1154&DMSCALE=47.20692&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=3&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)

สะพานหัน
(http://collections.lib.uwm.edu/cgi-bin/getimage.exe?CISOROOT=/agsphoto&CISOPTR=1152&DMSCALE=47.09576&DMWIDTH=600&DMHEIGHT=600&DMX=0&DMY=0&DMTEXT=&REC=2&DMTHUMB=1&DMROTATE=0)

(http://www.bansongthai.com/images/stories/EasternHouse36.jpg)
เรือนแพในสยามประเทศ มีมาตั้งแต่ในช่วงรัชกาลที่ ๑ มาแล้ว
มักนิยมสร้างบ้านอยู่บนแพใช้ทั้งพักอาศัยและค้าขาย
ในอดีตแม่น้ำถือเป็นเส้นทางคมนาคมหลัก
ทำให้สายน้ำคือชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน เกิดและอาศัยอยู่ในเรือ
ซึ่งสัญจรขนส่งสินค้า ล่องไปตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ แม้คนที่มาจากต่างเมือง
แล้วเข้ามาค้าขายในเมืองบางกอก ก็นิยมสร้างเรือนแพเพราะไม่ต้องมีที่ดินเป็นของตนเอง
การล่องเรือนำสินค้าไปขายยังต่างเมืองก็สะดวกมากนั่นเอง
จนมักเรียกชาวสยามในอดีตว่าเป็นชาวน้ำ
เพราะความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำนั้นแนบแน่นจนแยกกันไม่ขาด

เรือนแพหมายถึงเรือนที่สร้างอยู่ในน้ำ อยู่บนแพทั้งหลัง
โดยมีลักษณะและส่วนประกอบโดยทั่วไปเหมือนกับเรือนไทยเดิม
เพียงแต่การลอยอยู่ในน้ำอาศัยแพ ที่เป็นทุ่นลอยน้ำ เรือนแพจึงแยกได้เป็นสองส่วน
คือส่วนตัวเรือน และส่วนแพที่เป็นทุ่นลอยน้ำ แพเป็นส่วนสำคัญที่รับน้ำหนักของเรือน
ส่วน ใหญ่จะใช้แพไม้ไผ่ ต่อมาใช้ถังน้ำมัน และวิวัฒนาการเป็นเรือเหล็กหนุน ซึ่งจะคงทนและรับน้ำหนักได้มากกว่า แพไม้ไผ่แบบเดิม ซึ่งเป็นไม้ไผ่ที่มัดรวมกันเป็นฟ่อนๆ ถ้าเป็นลูกบวบขนาดเล็ก ฟ่อนหนึ่งจะมี 40-50 ลำ หากเป็นลูกบวบขนาดใหญ่ จะมีประมาณ 60-100 ลำ ลูกบวบทำหน้าที่เป็นทุ่นให้แพ ลอยได้เหมือนเรือโป๊ะแต่ราคาถูกกว่ามากในขณะเดียวกันก็มีอายุการใช้งานไม่ ยาวนัก

ส่วนลักษณะและโครงสร้างของเรือนแพคล้ายกับเรือนไทย ฝามีหลายแบบ เป็นฝากระแชงอ่อน หรือฝาขัดแตะ ซึ่งมีน้ำหนักเบาสามารถเปิดบานกระทุ้งได้ ส่วนด้านสกัดของเรือนเรียกฝาถัง ใช้ไม้กระดานเป็นแผ่นหน้ากว้างตั้งขึ้นเป็นฝา แต่ทำเป็นลิ้นเข้าไม้สนิทเสมือนเป็นแผ่นเดียวกันแบบจีน พบได้ในเรือนแพส่วนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ขโมยที่อาจพายเรือเข้ามาเทียบแพงัดฝาได้ง่าย หลังคาจะมุงจาก เนื่องจากน้ำหนักเบา ทนต่อการสั่นไหวจากคลื่น ถ้าใช้กระเบื้องคงจะหนักและร่วงหล่นได้ง่าย


เพลงเรือนแพ....เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องเรือนแพ
ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔
คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

เรือนแพ...
สุขจริงอิงกระแสธารา
หริ่งระงมลมพลิ้วมา
กล่อมพฤกษาดังว่าดนตรี

   หลับอยู่ในความรัก
   รับความชื่นชั่ววันและคืนเช่นนี้
   กลิ่นดอกไม้รัญจวน
   ยังอบอวนยวนยี
   สุดที่จะพรรณนา

เรือนแพ...
ล่องลอยคอยความรักนานมา
คอยน้ำค้างกรุณา
หยาดมาจากดาราแหล่งสวรรค์

   วิมานน้อยลอยริมฝั่ง
   ถึงอ้างว้างเหลือใจรำพัน
   หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน
   ชีวิตกลางน้ำสุขสันต์
   โอ้สวรรค์ในเรือนแพ


(http://img81.imageshack.us/img81/9720/1205303454.jpg)

(http://img387.imageshack.us/img387/5516/1205303504c.jpg)

(http://img244.imageshack.us/img244/7108/1205303092.jpg)

Credit :   http://www.baanpud.net/forum/viewtopic.php?f=28&t=709