LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

 เวลาช่างล้างแอร์ แล้ว เช็ดน้ำยาแอร์ บอกว่าขาด ก้อจะเติม ให้ทันที โดยคิด ปอนละ 10-30 บาท แล้วแต่เจ้า
 ทีนี้ ที่ผมได้ยินและ จำมา คือ ระบบ แอร์ บ้าน หรือ รถ ก้อตาม เป็นระ บบ ปิด คือ  หาก ไม่รั่ว ก้อไม่ต้องเติม ตลอดชีวิต  หาก น้ำยาแอร์ ขาด  ต้องหา รอยรั่วให้เจอ ก่อนจึง ค่อยเต็ม แต่ช่าง มัก จะ ไม่หา
  อย่างนี้ช่างมัก ง่าย หรือ เรา เข้าใจผิด ครับ  จาก คนไม่รู้จริงๆๆ ครับ

มี 2 อย่างครับ
1.น้ำยาขาดจริง
2.โดนช่างหลอก สังเกตุดูถ้าแอร์เราเย็นดีอยู่แล้ว
น้ำยาไม่ขาดหรอก ถ้าแอร์ไม่ค่อยเย็นเป็นได้ที่น้ำยาขาด
แต่มันไม่ขาดบ่อยๆหรือทุกครั้งหรอก ถ้าขาดบ่อยๆแสดงว่า
มีการรั่ว การเติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปช่วยได้วันเดียว

ส่วนมากจะเป็น อย่างข้อที่ 2 ครับ อย่างที่อาจารย์วรเทพแนะนำ
เราต้องให้ช่างเช็ครอยรั่วให้ด้วย ไม่ใช่เติมน้ำยาอย่างเดียว  lsv-smile

ถ้าล้างเสร็จแล้วทั้งคอล์ยเย็นและคอล์ยร้อน    เปิดแอร์แล้วใช้ความรู้สึกว่าเย็นไหม ถ้าเย็นแล้วไม่ต้องเติม
ถ้าไม่เย็นพอ ก็เติม น้ำยา เป็นไปได้อาจเกิดจากการสั่นสะเทือนในการทำงานแต่ละครั้งน่ะครับ และกวดข้อต่อต่างๆให้แน่นครับแต่ไม่น่าเกิดขึ้นบ่อยครับ lsv-smile

ระบบแอร์เป็นระบบปิดก็จริง แต่มันมีข้อต่อหลายจุด ซึ่งมักจะหรืออาจจะมีการรั่วซึมแบบไม่มากเช่น ปีละนิดหน่อย ตรงนี้ นานวันมันก็ลดลงซึ่งหาจุดรั่วยากแบบนี้ ครั้นช่างเขาจะมาทำการกวดขันหรือเช็คขั้วต่อใหม่ก็จะยุ่งยาก และอาจจะต้อง มีการ ปล่อยน้ำยาทิ้ง เจ้าของคงจะรับไม่ค่อยได้ใหญ่เลย การล้างแอร์แล้วต้องเติมน้ำยาใหม่ ย่อมมีบ้างแต่ไม่มากนักเพราะถ้าเติมเยอะนั่นแสดงว่า มันรั่วเยอะต้องแก้ไขแล้ว เมื่อล้างเสร็จแล้วทำการทดสอบ เช็คน้ำยาแล้วว่ามันขาดจริง เขาก็จะเติ่มเพื่อให้มันเย็นเป็นปกติ    มันมีความจริงอยู่ในความจริงอีก  เอาเป็นว่าถ้าหลอกก็มี แต่ จริงก็มี
  อย่ามันใจนักว่าระบบปิดจะไม่มีรั่วซึม มันไม่เหมือนตู้เย็นที่ปิดจริงๆ ทุกจุดต่อเชื่อมปิดเลย แต่แอร์ไม่ใช่ ยิ่งรถยนต์ด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาศรั่วซึมเป็นอย่างมาก

ของผมที่บ้านเติมทุกเดือน มันรั่วแต่ยังไม่มีเวลาซ่อม ซ่อมแต่ของคนอื่น ;D ;D