พิมพ์หน้านี้ - ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => บุคคลดีเด่นงานเกษตรและแนวคิดพัฒนา => ข้อความที่เริ่มโดย: b.chaiyasith ที่ มกราคม 18, 2011, 10:32:24 am



หัวข้อ: ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร
เริ่มหัวข้อโดย: b.chaiyasith ที่ มกราคม 18, 2011, 10:32:24 am
มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี 76คนดีแทนคุณแผ่นดิน ปี53ปราจีนบุรี - เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าเภสัชกร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี

       

       ผู้พัฒนาการแพทย์ –ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง

       

       76คนดีแทนคุณของแผ่นดิน จ.ปราจีนบุรี ต่อไปนี้เป็นผู้โดดเด่นการนำทรัพยากรธรรมชาติ – ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยกลับคืนสู่สังคมไทย “หมอต้อม” หรือที่คนทั่วไปรู้จักคือ เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าเภสัชกร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี

       

       ความโดดเด่นแห่งผลงาน เธอคือผู้พลิกฟื้นการแพทย์แผนไทยให้หวนคืนกลับสู่สังคม ทั้งตำรับยาไทยที่กำลังสูญหาย รวมทั้งการนำหมอพื้นบ้านผู้นำสมุนไพรไทย - ผู้นำชุมชนเป่ามนต์ให้กำลังใจ – สายแห่งการนวด ประคบ อบสมุนไพรไทยอภัยภุเบศร สู่ชาวโลกในปัจจุบัน อันเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นรูปธรรม

       

       ประวัติส่วนตัว ที่มีผลจากการดำเนินชีวิตพื้นฐานมาจากครอบครัว เภสัชกร ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เกิดในครอบครัวชาวนา พ่อ-แม่ให้ลูกคือการศึกษา โดยสอนลูกเสมอ ในหลักพุทธศาสนา เมตตาธรรม ความดี ความชั่ว การถือศีล 5 โดยพ่อ จะทำวัตรเช้า –เย็น ในการเป็นผู้นำด้านศาสนาเป็นมัคทายก ในงานพิธีต่าง จนเป็นพื้นฐาน ตอนเช้าไปถูศาลาวัด ใส่บาตรพระ เพราะรู้สึกได้บุญ

       

       การศึกษา จบ ป.4 โรงเรียนวัดบางไทร มานั้นมาเรียนต่อ ที่เทศบาลศรีเมืองนครนายก จบ ป7 จากนั้นตามพ่อ-แม่พาเข้าเรียนหนังสือที่กทม. ที่ รร.สตรีวรนารถ จากนั้นสอบเข้า ปริญญาตรีคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล- เข้าทำงาน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จากนั้นปี 40 เรียนต่อปริญญาโทด้านพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐาน ปี 42 ปริญญาเอกสังคมศาสตร์-มนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

       

       การเรียนเภสัชกรเป็นการเรียนรู้ทคนิคทำยา สูตรยา การจ่ายยา การเรียนด้านมนุษยศาสตร์ทำให้ทราบการทำยาคืออะไร ทำไปเพื่อใคร ทำให้มองสังคมกว้างไกลขึ้น โดยพื้นฐานเรียน ได้รับการปลูกฝังจาก ม.มหิดลตอนเรียน เห็นภาพรุ่นพี่นักกิจกรรมเสียสละ บางคนปลอมเป็นคนงาน ในการหาข้อมูลสารก่อมะเร็งที่ทำงานเพื่อสังคม

       

       ขณะจบการศึกษา ได้มาทำงานรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปี 26 ได้มีโอกาสมาสอนชาวบ้านเรื่องสมุนไพร พบชาวบ้านปราจีนบุรี ผู้เฒ่าผู้แก่ มีความรู้มากมายด้านการใช้ยาสมุนไพร ที่คณะเภสัชศาสตร์ไม่เคยสอนหรือสอนเพียง 200 -300 ตัว

       

       มาเห็นภาพ ครูคนแรกชาวกบินทร์บุรี ท่านทักต้นไม้เหมือนทักคน ทำให้รู้สึกว่าบ้านเราเป็นภูมิปัญญา ต้นไม้มีชื่อตามประโยชน์ใช้งานเรียกขาน เช่น เครือด่าง ขี้กลาก นำใบมารักษากลาก หรือหญ้าขี้กลาก สรรพคุณรักากลากเกลื้อน ทำให้รู้สึกว่านั่นคือความยิ่งใหญ่ ทำให้รู้ว่าความรู้เทคโนโลยีมีประโยชน์

       

       แต่ถ้าด้านสมุนไพรเป็นขุมทรัพย์จะพัฒนาเป็นยา-อาหารเป็นเครื่องดื่ม เป็นเอกลักษณ์ของชาติ-สังคม จึงทดลองนำทำยาเสลดพังพอนตัวเมีย มาเป็นครีม ตั้งแต่ปี 26 ทดลองรักษางูสวัด – เริม จนกระทั่งยาเหล่านี้ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 42 ได้พัฒนาเปิดตัวสู่ภายนอก มีการสาธิตสมุนไพรอภัยภูเบศรครบวงจร จน โรงพยาบาลเปิดตัวสู่ภายนอก ในการแพทย์แผนไทยจนได้รับรางวัลสำนักนายกรัฐมนตรี ในเรื่องผลิตภัณฑ์การแพทย์แผนไทยเป็นที่รู้จักกว้างขวางต่อมาเป็นยอดน้ำแข็งโผล่ขึ้นมา

       

       เก็บรวบรวมความรู้ อนุรักษ์ตำรายาโบราณ หมอยาพื้นบ้านอนุรักษ์ป่า นำมาใช้จริง ในรูปผลิตภัณฑ์และบริการการศึกษาวิจัย พร้อมบริการใช้ได้จริง อาทิ ยาทาแผลจากเปลือกมังคุด ฟ้าทะลายโจร ในการป้องกันรักาไข้หวัด และอีกหลายอย่าง ที่นำภูมิปัญญากลับคืนมาสู่สังคมแพร่หลาย เช่นดอกอัญชัญ รู้จักแพร่หลายเป็นเครื่องดื่มรับแขก

       

       ผลงานที่เป็นที่ยอมรับทางสังคมก่อนหน้า หมอต้อม หรือเภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ได้นำเด็กและเยาวชนรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลกเข้าค่ายสิ่งแวดล้อม ในการรักษ์ธรรมชาติ ในการศึกษาระบบนิเวศน์ป่าไม้ สมุนไพร การอนุรักษ์ เป็นผุ้เคลื่อนไหวขับเคลื่อนกระตุ้นจิตสำนึกกิจกรรมรำลึกช้างป่า กรณีครอบครัวช้างป่าตกเหวนรกตายขณะข้ามธารน้ำตก การวิจัยไม้หอม การวิจัยสมุนไพรในธรรมชาติ ได้รับรางวัลคนดีศรีปราจีนบุรีปี 2536 ขับเคลื่อนหมู่บ้านสมุนไพรไร้สารพิษผลิตจากปุ๋ยอินทรีย์หมู่บ้านดงบังสู่หมู่บ้านโอท็อปวิลเลจด้านสมุนไพรในการผลิตสมุนไพรสู่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ผลักดันการก่อตั้งวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร

       

       โดยเฉพาะวิทยาการ การแพทย์แผนไทยในวันนี้ ที่ปราจีนบุรีไม่ใช่รอวันสูญหาย แต่กำลังได้รับการพลิกฟื้นคืนสู่สังคมจากพลังคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังของแผ่นดิน คนคนนี้ ที่ผ่านการศึกษา วิจัย ถ่ายทอดผ่านสถาบันการแพทย์แผนไทย “หมอต้อม”
http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=112765