หัวข้อ: สุดยอดวิธีรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มหัวข้อโดย: kittanan_2589 ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 05:31:49 pm ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโตขึ้นกลุ่มของ เส้นเลือด และ เนื้อเยื่อ บริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ที่เรียกว่า hemorrhoidal tissue
คน ปกติมีริดสีดวงหรือไม่ เนื่อเยื่อนี้มีหน้าที่อะไร ในคนปกติ จะมีริดสีดวง(hemorrhoidal tissue)ทุกคน โดยจะอยู่บริเวณ ส่วนล่างของ ทวารหนัก เนื้อเยื่อ ริดสีดวงจะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ (ลองนึกภาพ ถ้าเรานอนหงายแล้วกางขาออก เหมือนท่าคนจะคลอดลูก เปรียบเทียบกับ นาฬิกาด้านหน้า เป็น 6 นาฬิกา ด้านหลังเป็น 12 นาฬิกา ด้านซ้ายเป็น 3 นาฬิกา ด้านขวาเป็น 9 นาฬิกา (ค่อยๆนึกครับ วาดรูปประกอบก็ได้) เนื้อเยื่อริดสีดวงปกติจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง คือ ที่ 3 , 7 , และ 11 นาฬิกา (ที่บอกมี 3 หัวอะไรทำนองนี้ครับ) เนื่อเยื่อริดสีดวงมีหน้าที่อะไร? หน้าที่ปกติ จะมีหน้าที่ ป้องกัน กล้ามเนื้อของทวารหนัก รวมทั้งหูรูด ระหว่าง ถ่ายอุจจาระ และช่วยให้ ทวารหนักปิดได้สนิท ในขณะที่เราอยู่เฉย โรคริดสีดวงทวารเกิดจากอะไร? ริดสีดวง เกิดจากการโตขึ้น ของ เนื้อเยื่อ Hemorrhoid ซึ่งสาเหตุแบ่งง่ายๆ เป็น 2 อย่างคือ 1.เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น 2.เกิดจากการเพิ่ม ความดัน ต่อ กำบังลมด้านล่าง(Pelvic Floor) นานๆ ซึ่งการเพิ่มความดัน ดังกล่าว เกิดได้จาก การเบ่งอุจจาระบ่อยๆ จากท้องผูก การยกของหนัก การยืนนานๆ รวมทั้งการตั้งครรภ์ จากการที่มีเด็กอยู่ ทำให้ เลือดไหลกลับไม่สะดวก จากสาเหตุดังกล่าวทำให้ กลุ่มเส้นเลือดดังกล่าว โตและ ยืดออก ซึ่งการที่มีเลือดออกนั้นเกิดจาก การที่มี การบาดเจ็บของเส้นเลือด บริเวณดังกล่าว(Local Injury) ที่เจอบ่อยๆเกิดจาก อุจจาระที่แข็งมากๆ ร่วมกับ การเบ่งนานๆ ทำให้จะมีเลือดสดๆ ไหลออกจากทวารหนัก โรคริดสีดวงมีกี่ชนิด? เราแบ่งโรคนี้ออกเป็น 2 ชนิด คือ 1.ริดสีดวงภายใน คือริดสีดวง ที่อยู่เหนือ เส้นสมมุติที่เรียกว่า dentate line(บริเวณแถวๆ รอยที่หยักๆครับ)จะมีลักษณะที่สังเกตง่ายๆ คือ -จะคลุมด้วยเยื่อบุของทวารหนัก ไม่ใช่ผิวหนัง ด้านนอก -จะไม่เจ็บ ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน -ส่วนใหญ่มักเป็นอันนี้กัน ริดสีดวงภายใน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 1.ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก 2.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ และหดกลับเข้าไปได้เอง 3.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ แต่ไม่หดกลับเข้าไปต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป 4.มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถใช้มือดันเข้าไปได้ 2.ริดสีดวงภายนอก คือริดสีดวงที่อยู่ใต้เส้น Dentate line สังเกตง่ายๆคือ -จะเป็นก้อนทีอยู่ข้างนอก -ส่วนที่คลุมก้อน จะเป็นผิวหนัง มักมีอาการคัน และ เจ็บมากกว่า ริดสีดวงภายใน -หลังจากอาการหายไป บางครั้ง ติ่งผิวหนังนั้นอาจยังอยู่ กลายเป็นติ่งเนื้อที่เรียกว่า Skin Tag อาการของโรคริดสีดวง มีอะไรบ้าง? อาการของโรคนี้ที่มีพบแพทย์ มี 3 อาการ 1.ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ลักษณะจะเป็นดังนี้คือ จะถ่ายอุจจาระออกมาก่อน ( ระหว่างถ่ายอาจจะเจ็บหรือไม่ก็ได้) จากนั้นจะมีเลือดสดๆ หยดออกมา ตามหลังจากอุจจาระ เลือดจะเป็นเลือดสดจริงๆ มักไม่มีมูกเลือดปน 2.มีก้อนออกมาระหว่างถ่ายอุจจาระ ขณะที่เบ่งอุจจาระ จะมีก้อนยื่นออกมา หรือ มีก้อนออกมาตลอดเวลา ขึ้นกับ ระยะที่เป็น 3.เจ็บบริเวณ ทวารหนัก ปกติ ริดสีดวงจะไม่เจ็บ จะเจ็บในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน(Thrombosis) หรือ มีเนื้อเยื่อตาย(Necrosis) เคริต:คุณ Technicial lsv-smile หัวข้อ: Re: สุดยอดวิธีรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มหัวข้อโดย: พรเทพ-LSV team♥ ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 06:27:29 pm วิธีรักษาอยู่ไหนครับ embarrassed7
หัวข้อ: Re: สุดยอดวิธีรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มหัวข้อโดย: Nattawut-LSV Team ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 06:31:56 pm shocked2
หัวข้อ: Re: สุดยอดวิธีรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มหัวข้อโดย: พี่ตุ้ม ♥300 ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 06:41:30 pm วิธีรักษาอยู่ไหนครับ embarrassed7 ;D สงสัยการรักษาคือ อย่าเป็นมั๊งครับ 8) :Dหัวข้อ: Re: สุดยอดวิธีรักษาริดสีดวงทวาร เริ่มหัวข้อโดย: kittanan_2589 ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 10:04:36 pm สงสัยจะมีอะไรผิดพลาดนิดหน่อยนะครับ
วิธีรักษาริดสีดวงทวาร 1. ขมิบก้นทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ครั้งละ 5 - 10 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณทวารแข็งแรง สามารถควมคุมเส้นเลือดไม่ให้โป่งพอง การขมิบก้นนี้มีประโยชน์มากทั้งผู้ชายและผูหญิง 2. รับประทานผักบุ้งแดง ที่ใช้แกล้มส้มตำอย่างน้อยวันละ 10 ยอด เพราะเป็นยารักษาโรคริดสีดวงมาแต่ครั้งโบราณ 3. ดื่มน้ำรักษาโรคแบบจีนที่ผมได้เขียนไว้ที่www.fortunestars.com 4. ลดปริมาณการรับประทานอาหารลงจะทำให้ลำใส้ทำงานน้อยลง หากรับประทานมากลำใส้จะทำงานคล้ายรถยนต์ที่ติดกันแน่นอยู่บนถนน เศษอาหารก็เช่นกันจะเคลื่อนตัวได้ช้าในลำใส้ ถ้าเป็นคนรับประทานมากไม่สามารถลดได้ต้องถ่ายให้ได้วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น 5. รับประทานข้าวกล้อง ผัก ผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยอาหารให้ร่างกาย และลดปริมาณเนื้อสัตว์ลง สังเกตุอุจจาระจะไม่เป็นก้อนแข็งแน่น 6. งดของหวานเพราะเป็นตัวแสบที่ทำให้อุจจาระแข็ง ให้สังเกตุดูว่าถ้างดไป 2 วันอุจจาระจะนิ่มกว่าช่วงที่ทานของหวาน ทั้งเครื่องดื่ม อาหารหวานๆ ขนม น้ำอัดลม ถ้าอยากหาย ควรงดไว้ก่อน หรือทานให้น้อยที่สุด 7. ในช่วงที่เกิดการอักเสบให้เหน็บยาร่วมด้วยช่วยกันจนกว่าจะหาย |