LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

หากการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI ของท่านทำงานไม่ถูกต้อง อย่าเพิ่งตื่นตกใจ ปัญหานั้นอาจเป็นเรื่องที่ค้นหาและแก้ไขได้ง่ายดายตราบใดที่ท่านยังใจเย็นและเข้าถึงสถานการณ์นั้นๆ อย่างมีแบบแผน

เคล็ดลับของการค้นหาจุดที่ทำให้เกิดปัญหาก็คือการพิจารณาจากหลักฐานที่ท่านมี รวบรวมข้อมูลเท่าที่ทำได้ และขจัดความเป็นไปได้ไปทีละข้อ โดยส่วนใหญ่แล้ว ที่มาของปัญหาก็จะปรากฏให้เห็นชัดเจนในไม่ช้า

ตัวอย่างเช่น หาก Creative Sound Blaster AudioPCI ทำงานเป็นปกติเมื่อท่านเคลื่อนย้ายการ์ดอื่นๆ ทั้งหมดออกจากคอมพิวเตอร์ของท่าน แต่จะหยุดทำงานเมื่อท่านแทนที่ด้วยแฟ็กซ์-โมเด็ม แสดงว่าจะต้องมีความขัดแย้งระหว่างการ์ดเสียงกับแฟ็กซ์-โมเด็ม (เช่น ที่อยู่ของพอร์ท หรือ IRQ)

ปัญหาต่างๆ บ่อยครั้งเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว อาจจะเป็นแค่สายไฟเสีย, ไม่ได้เสียบปลั๊กส่วนประกอบหรือไม่ได้เปิดเครื่อง ฯลฯ ให้ตรวจสอบสิ่งที่เห็นชัดเจนเป็นอันดับแรก

การใช้การ์ดเสียง 2 การ์ดในระบบ

การมีการ์ดเสียงอีกการ์ดหนึ่งในระบบของท่านนอกเหนือจากการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI จะเพิ่มโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีความขัดแย้งในระบบ ขอแนะนำให้ท่านถอดถอนอุปกรณ์เสียงอื่นๆ และไดรเวอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Windows 9x ของอุปกรณ์เหล่านั้นออกก่อนติดตั้งการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI

ส่วนประกอบมัลติมีเดีย (อาทิ Media Player)

หากท่านติดตั้งการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI หลังจากที่ติดตั้ง Windows 9x แล้ว Windows 9x จะไม่ติดตั้งยูทิลิตี้เสียงที่ท่านคาดว่าจะพบ เช่น คุณสมบัติ Audio CODEC, Media Player และ Microsoft Mixer อาจจะไม่มีปรากฏอยู่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้การ์ดเสียงของท่านไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าจะติดตั้งไดรเวอร์แล้วก็ตาม หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น จะต้องติดตั้งโปรแกรมประยุกต์เหล่านี้เข้าสู่ระบบจากชุดติดตั้ง Windows 9x หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูทิลิตี้และคุณสมบัติมัลติมีเดีย ดูในเอกสาร Windows 9x ของท่าน

ปัญหาเกี่ยวกับเสียง

หากท่านแน่ใจว่าติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ Creative Sound Blaster AudioPCI อย่างถูกต้องแล้ว แต่ท่านไม่ได้ยินเสียงเลย ปัญหาอาจอยู่ที่ขั้วต่อสายเสียง ขอแนะนำให้ทำดังนี้:

ลองเล่นทั้งไฟล์ .WAV และไฟล์ .MID เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีเสียงใดๆ ออกจากลำโพงเลย หากท่านได้ยินเสียงจากไฟล์หนึ่งแต่อีกไฟล์หนึ่งไม่ได้ยิน แสดงว่าเป็นปัญหาภายใน และไม่เกี่ยวข้องกับระบบเสียงของท่าน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าต่อเชื่อมการ์ดเสียงเข้ากับระบบลำโพงอย่างถูกต้อง (สายเคเบิลมินิ-โฟน ขนาด 1/8 นิ้ว ควรจะเดินสายจากขั้วต่อ Line Out สีเขียวของ Creative Sound Blaster AudioPCI ไปยังสายอินพุทบนระบบลำโพง) หากต้องการขจัดข้อสงสัยว่าสายเคเบิลเสียหรือไม่ ให้ลองเสียบปลั๊กหูฟังเข้าที่แจ็ค Line Out ของ Creative Sound Blaster AudioPCI และฟังว่าท่านได้ยินเสียงออกมาหรือไม่

ตรวจดูให้แน่ใจว่าระบบลำโพงของท่านติดตั้งไว้อย่างถูกต้อง ให้ลองต่อเข้ากับแหล่งกำเนิดเสียงอื่นๆนอกเหนือจาก Creative Sound Blaster AudioPCI เช่น เครื่องเล่นซีดี และดูว่าสามารถได้ยินเสียงหรือไม่

การบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟน

เพื่อให้การติดตั้งทำได้โดยง่าย ขอแนะนำให้ท่านใช้ไมโครโฟนขนาดย่อ ซึ่งจะต้องการการติดตั้งน้อยที่สุด ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้เพื่อให้แน่ใจว่าท่านติดตั้งซอฟท์แวร์สำหรับอินพุทไมโครโฟนอย่างถูกต้อง:

ที่ toolbar ถัดจากนาฬิกา ให้ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Windows Mixer

เมื่ออยู่ในแผงหน้าปัด Recording ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือกที่ช่อง Mic ไว้แล้ว

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลื่อน Mic อยู่ที่ระดับสูงสุด และไม่ได้เลือกช่องตัวเลือก Mute ไว้

ในเมนู Options เลือก Save Options Now

หากท่านพบว่ามีเสียงเพี้ยนในไดนามิค Mic ให้ปรับระดับเสียงของ Microphone และอุปกรณ์เสียง Master

กระแสไฟ BIAS 5-โวลต์ จะถูกจ่ายไปที่อินพุท Mic สีแดงเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของไมโครโฟนคอนเดนเซอร์

เสียงจาก CD  

หาก Creative Sound Blaster AudioPCI ไม่เล่นเสียงจาก CD หรือเสียงที่ถูกบรรจุด้วยแม่เหล็ก ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้มั่นใจว่าท่านกำหนดค่าฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์อย่างถูกต้อง

ประการแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเสียง CD ใน Windows Mixer เปิดไว้แล้ว

เคล็ดลับอีกประการคือการนำสายต่อสเตอริโอขนาด 1/8-นิ้ว และต่อเชื่อมปลายข้างหนึ่งเข้ากับช่องเสียบหูฟังที่ด้านหน้าของไดร์ฟ CD-ROM และเสียบปลายอีกด้านเข้ากับช่องอินพุทสีดำ Aux ที่ด้านหลังของการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปุ่มหมุนปรับความดังเสียงหูฟังบนไดร์ฟ CD-ROM หมุนดังสุดแล้ว ปรับตัวเลื่อน Aux และ Master บน Windows Mixer ยกเลิกการเลือกที่ช่อง Mute บนแผงหน้าปัด Master และ Aux ของ Windows Mixer แล้วลองเล่น CD ท่านควรจะได้ยินเสียงเพลงกำลังเล่นอยู่ หากสายเคเบิลภายในของท่านหายไปหรือมีความบกพร่อง ให้ติดต่อผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ของท่านเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสายเคเบิลเส้นใหม่

หากท่านยังคงไม่ได้ยินเสียงดนตรี ท่านจะต้องตรวจสอบว่าต่อเชื่อมสายเคเบิลต่อภายในระหว่างไดร์ฟ CD ROM ของท่าน และอินพุท CD ของการ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI card แล้วหรือไม่ สายดังกล่าวโดยทั่วไปจะเป็นขั้วต่อขนาดเล็กที่มีสายไฟ 4 เส้นโยงออกมา หากมีการต่อเชื่อมไว้แล้วแต่ยังคงไม่ทำงาน ลองถอดปลั๊กออกและเสียบเข้าไปใหม่ที่ขั้วต่อ Aux-in) อย่าลืมใช้ตัวควบคุมตัวเลื่อน Aux-in บน Windows Mixer เพื่อปรับระดับเสียง หากทำเช่นนี้แล้วยังไม่ได้ผล อาจเป็นไปได้ที่สายเคเบิลต่อจะขาดหรือบกพร่อง

ปัญหากับเกมส์

หากระงับการทำงานของ Creative Sound Blaster AudioPCI Legacy Device ใน Windows 9x ไว้ Creative Sound Blaster AudioPCI จะถูกระงับการทำงานในโหมด MS-DOS ด้วย ก่อนกำหนดรูปแบบระบบของเกมในโหมด MS-DOS หรือ MS-DOS Prompt ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Creative Sound Blaster AudioPCI Legacy Device ได้รับการติดตั้งและทำงานอย่างเหมาะสมแล้ว

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านมีเกมที่ติดตั้งตัวเลือกดนตรีที่สนับสนุน Creative Sound Blaster AudioPCI ดูในหัวข้อ Installing Games for Creative Sound Blaster AudioPCI เพิ่มเติม

อย่าลืมว่าการกำหนดฮาร์ดแวร์ Creative Sound Blaster AudioPCI สามารถทำได้ 2 ทาง ค่าที่กำหนดจะแสดงโดย apconfig.exe ในโหมด MS-DOS หรือในแถบ DOS Application Settings ของกรอบโต้ตอบ Creative Sound Blaster AudioPCI Legacy Device ใน Windows 9x

หากการติดตั้งเกมหรือโปรแกรมไม่ได้ให้ตัวเลือกเสียงเฉพาะที่ท่านทราบว่าเกมสนับสนุน (อาทิ คู่มือและกล่องของเกมระบุว่าสนับสนุน MT-32 แต่การติดตั้งเกมไม่สนับสนุนระบบนี้) ให้ลองเรียกใช้การติดตั้งเกมหรือโปรแกรมอีกครั้ง

หากเกมนั้นต้องใช้ DirectX หรือ DirectSound ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านมีไดรเวอร์ DirectX รุ่นล่าสุดจาก Microsoft แล้ว

หากท่านมีปัญหากับจอยสติ๊กหรือเกมแพดที่ต่อภายนอก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สั่งการทำงานของพอร์ทจอยสติ๊กของ Creative Sound Blaster AudioPCI แล้ว และโหลดไดรเวอร์เกมพอร์ท จอยสติ๊ก Windows 9x ไว้แล้ว และทำงานอย่างเหมาะสมใน Device Manager

หากต้องการใช้จอยสติ๊ก 2 ชุด ท่านจำเป็นจะต้องใช้ขั้วต่อรูปตัว Y ที่เข้ากันได้กับ Sound Blaster (เช่น Radio Shack หมายเลขประจำสินค้า 26-380) หรือใช้ชุดจอยสติ๊ก MIDI มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้สามารถต่อเชื่อมจอยสติ๊กคู่โดยตรงได้อย่างเหมาะสม

เสียงรบกวนและเสียงที่ไม่ต้องการ

เสียงรบกวนและเสียงที่ไม่ต้องการอาจเกิดจากการ์ดวีดิโอ 'ยึดครองบัส' ทั้งนี้ การ์ดวีดิโอ PCI ส่วนใหญ่เมื่อส่งออกจากโรงงานจะได้รับการปรับค่าเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในทุกๆ ระบบ การ์ดนี้จะเขียนข้อมูลไปยังบัส PCI (ซึ่งเป็นบัสหลักด้วย) อย่างต่อเนื่อง และใส่ข้อมูลลงในบัส โดยไม่อนุญาตให้อุปกรณ์อื่นถ่ายหรือรับข้อมูลจาก CPU ได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงมีผลถ่วงประสิทธิภาพของอุปกรณ์อื่นในระบบซึ่งต้องพึ่งพิงทรัพยากรจาก CPU หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายการ์ดวีดิโอของท่าน ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็น การแบ่งใช้ PCI; การพยายามใช้บัสอัตโนมัติ หรือการตรวจสอบคิว

ไดรเวอร์ MS-DOS  

การ์ด Creative Sound Blaster AudioPCI Sound สนับสนุน MS-DOS ผ่านทาง Win98 โดยขั้นแรกให้เปิดเครื่องเพื่อเข้าสู่ Windows จากนั้นจึงปิดการทำงานโดยเลือก MS-DOS prompt ยูทิลิตี้ DOS เหล่านี้ได้รับการติดตั้งไว้โดยอัตโนมัติพร้อมกับไดรเวอร์ Windows

ไม่สามารถได้ยินเสียงจาก DVD หรือ CD

ตรวจสอบภายในมิกเซอร์ว่าตัวปรับระดับเสียง CD-ROM และ Aux-in volumes ไม่ได้ปิดหรือกำหนดไว้ที่ระดับต่ำเกินไป ทั้งไดร์ฟ CD-ROM และ DVD จะส่งสัญญาณเสียงไปยัง Creative Sound Blaster AudioPCI ผ่านทางสายเคเบิลอนาล็อกเข้าใน PC ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเคเบิลภายใน PC ต่อเชื่อมไว้อย่างถูกต้อง (CD-ROM จะติดเข้ากับขั้วต่อ CD-ROM, DVD จะต่อเชื่อมกับ CD-ROM หรือกับ Aux-in หาก DVD เป็นไดร์ฟที่สองในระบบ)

เสียงสังเคราะห์ FM ไม่ถูกต้อง

เกมคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆ บางเกมที่ Sound Blaster สนับสนุน ที่จริงแล้วเขียนขึ้นสำหรับการ์ดเสียงที่มีชิป OPL (ประเภทหนึ่งของ FM) หรือ FM (frequency modulation) บนบอร์ด การ์ด Sound Blaster มีชิปเหล่านี้อยู่ การจำลอง Sound Blaster ของ Creative จะกระทำผ่านทางซอฟท์แวร์ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ จึงไม่มีชิป FM อยู่บนบอร์ด Creative จะใช้การสังเคราะห์ wavetable เพื่อสร้างเสียง ดังนั้น เมื่อเสียงประเภทหนึ่งเล่นผ่านการ์ด Soundscape สิ่งที่จะได้ยินคือการแสดงของ wavetable หรือเสียง FM ดั้งเดิมที่ "ใกล้เคียงที่สุด" ดังนั้น ท่านอาจได้ยินเสียงรัวกรอง แทนที่จะเป็นเสียงชนกระแทก สิ่งนี้เป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์ และวิธีเดียวที่จะได้ยินเสียงที่ถูกต้องก็คือการใช้การ์ดเสียงที่มีชิป FM


การต่อเชื่อมอุปกรณ์ MIDI เข้ากับการ์ดเสียง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเคเบิล MIDI ที่ใช้อยู่กับสายประเภท Y ซึ่งปลายด้านหนึ่งเสียบเข้ากับพอร์ทจอยสติ๊ก และแยกออกไปที่ขั่วต่อ MIDI-in และ MIDI-out หากสายเคเบิลต่อผ่านกล่องอแดปเตอร์ กล่องนี้อาจไม่สามารถเข้ากันได้กับการ์ด หากท่านต้องการสายเคเบิลประเภท Y ที่เข้ากันได้กับการ์ด ให้ติดต่อ Pacific Interconnections ที่ 1-800-706-0510

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแป้นพิมพ์อยู่ในโหมด MIDI ทั่วไป (หากมีอยู่) และกำลังโอนไปยังช่อง 1 ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าต่อเชื่อมขั้วต่อ in และ out เข้ากับแป้นพิมพ์อย่างถูกต้องเหมาะสม

เมื่อส่งสัญญาณจากแป้นพิมพ์ไปยังคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ที่อยู่ในลำดับควรจะติดตั้ง MIDI ดังนี้: "In" คือ Creative Sound Blaster AudioPCI MIDI-in และ "Out" คือ Creative Sound Blaster AudioPCI MIDI synth

ในบางครั้ง ปัญหาใน MIDI-in เป็นผลมาจาก IRQ (ความขัดแย้งในอินเตอร์รัพท์) ระหว่าง Creative Sound Blaster AudioPCI และอุปกรณ์อื่นบางประเภท พยายามเปลี่ยนแปลง IRQ ของ Creative Sound Blaster AudioPCI หากวิธีการอื่นไม่ได้ผลแล้ว และท่านไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนนี้ ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ของท่าน

ด้านล่างนี้เป็นเคล็ดลับเล็กน้อยเพิ่มเติมในการทำให้แป้นพิมพ์ดนตรีทำงานกับการ์ดเสียง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าต่อเชื่อมสายเคเบิล MIDI-in เข้ากับแป้นพิมพ์อย่างถูกต้อง ฉลากที่ช่อง in และ out บนอแดปเตอร์ MIDI และสายเคเบิลมักจะผิดพลาด

ใน control panel ใน multimedia ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากำหนดค่า MIDI ไว้ที่ MIDI out หรือ external synth ไม่ใช่ internal synth

โปรแกรม MIDI หลายโปรแกรม เช่น Cakewalk จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกรูปแบบระบบ MIDI ของท่านได้ ในการใช้งานและอุปกรณ์ภายนอก ให้เลือก MIDI out

ตรวจสอบแป้นพิมพ์เพื่อให้แน่ใจว่าท่านติดตั้งให้ส่งและรับข้อมูล MIDI แป้นพิมพ์หลายๆ ประเภทจะต้องกำหนดให้อยู่ในโหมด multi เพื่อให้สามารถส่งและรับข้อมูล MIDI ได้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องสัญญาณ MIDI ที่กำลังส่งข้อมูล MIDI ตรงกับช่องสัญญาณในซอฟท์แวร์

ไม่มีการ์ดเสียงสนับสนุนใน MS-DOS  

เพียงแค่เลือก Start-->Shut Down-->Restart in MS-DOS Mode แล้วสลับไปที่ไดเรกทอรี่ sbpci (อาทิ cd\sbpci) และพิมพ์ aptest ทำตามคำสั่งบนจอภาพ ท่านจะได้ยินเสียงทดลองเล่น .WAV จากนั้นจะเป็นไฟล์ .MID สั้นๆ เล่นเสียงเปียโน หากท่านได้ยินเสียงทั้งคู่ แสดงว่า Creative Sound Blaster AudioPCI กำลังทำงานอย่างถูกต้อง

เครื่องหมายเตือนสีเหลืองใน Device Manager  

ส่วนใหญ่แล้วสิ่งนี้มักเกิดจากความขัดแย้งของช่วง Input/Output โดยสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่แถบ Resource ของ Creative Sound Blaster AudioPCI Properties ใน Sound, Video, Game controllers

ยกเลิกการเลือกใน Use Automatic Settingsเลือกช่วง I/O range แล้วคลิก Change Settings, และใช้ปุ่มลูกศรเลื่อนไปตามช่วงที่แตกต่างกันจนกว่าจะปรากฏช่วงที่แสดงว่า

การเพิ่ม Waveset

การเพิ่ม Waveset ต้องใช้แผ่น CD การติดตั้ง Creative Sound Blaster AudioPCI ไฟล์ *.ecw จะไม่เปลี่ยนแปลงระหว่างการปรับรุ่นไดรเวอร์ ดังนั้นอายุของ CD จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ การเพิ่ม Waveset ใน Windows 98 ให้ปฏิบัติดังนี้:

ไปที่ Start > Settings > Control Panel, System > Device Manager
เลือก Sound, Video and Game Controllers
เลือก Creative Sound Blaster AudioPCI
คลิกที่ Properties
ไปที่ Settings Tab
คลิก Add Waveset
จากนั้นเลือกไปยังไดเรกทอรี่ที่ Waveset ชุดใหม่ตั้งอยู่ แล้วคลิก OK
ถึงตอนนี้ Waveset ชุดใหม่ควรจะมีอยู่แล้ว

การเปลี่ยน Legacy IRQ  

ไปที่ Start > Settings > Control Panel, System > Device Manager
เลือก Sound, Video and Game Controllers
เลือก Creative Sound Blaster AudioPCI
คลิกที่ Properties
ไปที่ Settings Tab
ยกเลิกการเลือก Enable LPT interrupt sharing
เมื่อท่านเริ่มต้นระบบปฏิบัติการใหม่ Legacy IRQ ก็จะย้ายไปยัง IRQ ที่ต่างออกไป

ได้ยินเสียงจากลำโพงเพียงข้างเดียว

บางสิ่งอาจเป็นสาเหตุให้เสียงออกจากลำโพงด้านซ้ายหรือด้านขวาเท่านั้น ขั้นแรกให้เปิด Creative Sound Blaster AudioPCI mixer และตรวจสอบว่าตัวเลื่อนปรับความสมดุลสำหรับอุปกรณ์การเล่นเสียงทั้งหมดอยู่ที่ตำแหน่งกลาง จากนั้นตรวจสอบว่าปลั๊กลำโพงทั้งหมดเสียบเข้ากับแจ๊คแต่ละตัวแน่นแล้วและไม่หลวม จากนั้นลองเล่นเสียงประเภทต่างๆ รวมถึง .WAV, .MID, และเสียงจาก CD หากขั้นตอนทั้งหมดนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ลองเสียบปลั๊กหูฟังที่ใช้การได้เข้ากับ Creative Sound Blaster AudioPCI แทนที่ลำโพง หากปัญหายังคงมีอยู่ ขั้วแจ๊คที่ Creative Sound Blaster AudioPCI อาจจะหลวม ให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของตัวแทนจำหน่ายระบบของท่านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่หากหูฟังมีเสียงออกมาปกติ แสดงว่าลำโพงทำงานไม่ถูกต้อง กรุณาติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายลำโพงเพื่อแจ้งปัญหานี้

ขอบคุณ Creative Support (http://support2.jp.dell.com/docs/ACC/0396P/th/trouble.htm)