หัวข้อ: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: stupidman ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 01:05:01 pm :(คือผมอยากถามว่าไอ้ แชลนอลที่อยู่ในขยายรถยนต์คือไรคร้าบผม
2. ผมมีขยายรถยนต์ 1 ตัว 800 วัตต์ ดูท่าว่าจะขับทั้งเสียงกลาง และ ซัพวูพเฟอร์ กลาง 200 วัตต์ ซัพ 500 วัตต์ แต่ผมสงกะสัยว่าทำไมมันดังไม่แรงเวลาเปิดดังมากๆ เสียงมันจะซัว(เสียงแตก) แล้วมันก็ตัดไป แล้วเปิดใหม่มันก็ติด ? ที่มันดังไม่แรงเป็นเพราะขยายน้อยหรือลำโพงอ่ะครับ ? ถ้าเป็นเพราะขยาย ผมต้องเพิ่มขยายเป็นขับแยกกันใช่ไหมครับ เช่น อันหนึ่งขับกลาง อันหนึ่งเบส ถึง จะดังแรงใช่ ไหม ครับ :D :D :D :D หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: Nimit( Un ) ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 01:15:51 pm ;) เข้าใจหลักการ
หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: BenQ ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 01:19:04 pm ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยครับ ว่าหน้าตามันเป็งยังไง......................... :P
อ้างถึง เสียงแตกพร่าอาจเกิดจาก - กระแส และแรงดันไม่พอ ( เช็คแบต ) - ลำโพง Watt ต่ำไปรับไม่ไหว ( เช็คลำโพง ) - เกิดจาก IC ขยาย หรือ Power Transister, Mosfet ( เช็คอุปกรณดังกล่าว ) - จุดบัดกรีหลุดหลวม, จุดขั้วต่อหลุดหลวม ( เช็คจุดดังกล่าว ) หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: Nimit( Un ) ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 01:29:16 pm คือผมอยากถามว่าไอ้ แชลนอลที่อยู่ในขยายรถยนต์คือไรคร้าบผม พูดง่ายๆ คือช่องสัญญาณ ซ้าย-ขวา (ช่องซ้าย-ช่องขวา) 2. ผมมีขยายรถยนต์ 1 ตัว 800 วัตต์ ดูท่าว่าจะขับทั้งเสียงกลาง และ ซัพวูพเฟอร์ กลาง 200 วัตต์ ซัพ 500 วัตต์ แต่ผมสงกะสัยว่าทำไมมันดังไม่แรงเวลาเปิดดังมากๆ เสียงมันจะซัว(เสียงแตก) แล้วมันก็ตัดไป แล้วเปิดใหม่มันก็ติด ที่มันดังไม่แรงเป็นเพราะขยายน้อยหรือลำโพงอ่ะครับ ใช่ ไหม ครับ :D :D :D :D คาดว่าขยายท่านกำลังวัตต์ไม่พอที่จะขับลำโพงนั้นๆ เมื่อถึงจุดสูงสุดเครื่องจึงตัดการทำงาน :( ? ถ้าเป็นเพราะขยาย ผมต้องเพิ่มขยายเป็นขับแยกกันใช่ไหมครับ เช่น อันหนึ่งขับกลาง อันหนึ่งเบส ถึง จะดังแรงใช่ ไหม ครับ :D :D :D :D ตามหลักพื้นฐานแล้ว 1.เพาเวอร์แอมป์ 1 ตัว แบบ 2 แชนแนล จะขับ กลาง-แหลม 2.หากจะขับดอกซับ ต้องใช้เพาเวอร์อีก 1ตัว กำลังวัตต์ต้องสูง 3.หากใช้เพาเวอร์แอมป์ แบบ 4 แชนแนล ก็อาจจะใช้แค่ตัวเดียวพอ อธิบายคร่าวๆ นะครับ เดี๋ยวท่านที่อธิบายเก่งๆ จะมาแนะนำต่อครับ หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: BenQ ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 01:39:58 pm ศัพท์เครื่องเสียง เอาไว้ศึกษานะท่าน..................... :P
อ้างถึง AC-3 ดู dolby digital Active Crossover อุปกรณ์ซึ่งต้องการกระแสไฟฟ้าในการทำงาน มีหน้าที่ตัดแบ่งความถี่ของสัญญาณเสียง ออกเป็นช่วง ก่อนนำไปขยายโดย Power Amplifier ADC (or A/D, analog-to-digital converter) อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนสัญญาณแบบ analog ให้เป็น digital เพื่อสามารถนำไปปรับแต่ง แบบ digital ได้ Amplifier อุปกรณ์ขยายระดับความแรงสัญญาณโดยเพิ่ม voltage หรือ กระแสไฟฟ้าของสัญญาณดั้งเดิมเพื่อนำไปขับลำโพง analog สัญญาณไฟฟ้าที่มีความถี่และขนาดเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องสัมพันธ์กับคลื่นเสียง AWG (American Wire Gauge) เพื่อใช้บอกขนาดของสายไฟ ค่ายิ่งมาก สายไฟยิ่งมีขนาดเล็ก bass คลื่นเสียงช่วงความถี่ต่ำ â´ÂปกตÔáÅéǨÐต่ำกว่า 200 Hz. bass reflex ตู้ลำโพงแบบมีช่องหรือท่อ ที่เปิดให้อากาศไหลเข้า-ออกได้ เพื่อช่วยชดเชยเสียงความถี่ต่ำ bit ส่วนย่อยขั้นพื้นฐานของข้อมูลแบบ digital ซึ่งแสดงในรูปเลขฐาน 2 bitstream วิธีการหนึ่งในการเปลี่ยนข้อมูลจากสัญญาณแบบ digital ให้เป็นสัญญาณแบบ analog โดยเปลี่ยนทีละ bit ซึ่งเร็วกว่าการเปลี่ยนแบบ multibit ซึ่งเปลี่ยนทีละกลุ่มสัญญาณ bridging กระบวนการใช้กำลังขับ จากสองช่องสัญญาณของ amplifier ร่วมกันแบบ phase ตรงข้ามกัน เพื่อขับลำโพง โดยทางทฤษฎี จะเพิ่มแรงดันสัญญาณขาออก เป็นสองเท่า CCC (Continuous Cast Copper) เทคโนโลยีการผลิตตัวนำทองแดง ด้วยการหล่อขึ้นรูปเป็นเส้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความสม่ำเสมอของเนื้อทองแดง และส่งถ่ายสัญญาณเสียงได้ดี CD ตัวย่อของ compact disc CD-RW แผ่น CD ที่เก็บบันทึกข้อมูลได้ center stage สภาวะเสียงแบบสมดุลจากด้านหน้าและหลังผู้ฟัง ทำให้รู้สึกว่าเสียงวิ่งผ่านและล้อมรอบผู้ฟัง channel seperation (crosstalk) การต่อต้านการรั่วไหลของสัญญาณ ระหว่างช่องสัญญาณในระบบ stereo (ระหว่างซ้ายกับขวา) มีหน่วยเป็น dB ค่า channel seperation ยิ่งมาก แสดงว่า มีการแยกช่องสัญญาณที่ดี clipping สภาวะที่ amplifier ทำงานเกินกำลังขับ ส่งผลให้เกิดความเพี้ยนของเสียง และอาจทำให้ลำโพงเสียหายได้ coaxial speaker ลำโพงที่จัดวางตำแหน่งแบบซ้อนทับร่วมแกนกัน โดยลำโพงขนาดเล็กซ้อนอยู่ บนลำโพงขนาดใหญ่กว่า crossover frequency ค่าความถี่ที่ crossover network ตัดแบ่งสัญญาณเสียง crossover network อุปกรณ์ที่ตัดแบ่งความถี่ของสัญญาณเสียงออกเป็นช่วง มี 2 ประเภท คือ active crossover กับ passive crossover crosstalk ดู channel seperation D DAC (Digital-to-analogue converter) อุปกรณ์เปลี่ยนสัญญาณแบบ digital เป็น analog ซึ่งใช้สร้างสัญญาณเสียง มีอยู่ในเครื่องเล่น cd ทั่วไป การเพิ่ม DAC ภายนอกสามารถเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นได้ damping การใช้ความต้านทานทางไฟฟ้าหรือแรงทางกล เพื่อหยุดการเคลื่อนที่ที่ไม่ต้องการ หรือการสั่นค้าง ของกรวยลำโพง หลังจากที่ไม่มีสัญญาณเสียงส่งมา จาก amplifier แล้ว damping factor เป็นคุณสมบัติของ amplifier ที่มาจาก อัตราส่วนของ ความต้านทานไฟฟ้ากระแสสลับของโหลด (ลำโพง) ต่อ ความต้านทานไฟฟ้ากระแสสลับ ด้านขาออกของแอมป์ บอกถึงความสามารถของ amplifier ในการควบคุมการเคลื่อนที่ ของกรวยลำโพงที่เกิดขึ้น หลังจากสัญญาณขาเข้า หมดไปแล้ว ซึ่งหมายถึง ความกระชับของเสียง bass ค่า damping factor ยิ่งสูง แสดงว่าความสามารถในด้านนี้ยิ่งดี damping material วัสดุชนิดหนึ่งที่มีความหนาแน่นสูง มีลักษณะเป็นแผ่นหนา 3 ถึง 5 มิลลิเมตร ไม่ดูดซึมน้ำ สามารถดูดซับคลื่นเสียงได้ดี เมื่อยึดติดกับแผ่นโลหะแล้ว จะช่วยลดการสั่นสะเทือนของเนื้อโลหะ DAT (Digital Audio Tape) ระบบการบันทึกเสียงแบบ digital ลงบนแถบแม่เหล็กของเทปบันทึกเสียง ชนิดพิเศษ ใช้หลักการคล้ายกับ หัวบันทึกภาพของวีดีโอ dB เป็นตัวย่อของหน่วยการวัดแบบ decibel DCC (Digital Compact Cassette) ระบบการบันทึกเสียงแบบ digital ลงบน แถบแม่เหล็กของเทปบันทึกเสียงชนิดพิเศษ คิดค้นโดย Philips DDD พิมพ์บนปกของแผ่น CD หมายถึง การบันทึกเสียง จัดทำต้นฉบับ และบันทึกลงบนแผ่น CD แบบ digital decibel หน่วยการวัดแบบอัตราส่วนของระดับเสียง ระดับกำลัง ค่าความต่างศักย์ และปริมาณอื่น 1 decibel = 20.log (power) digital output สัญญาณขาออกแบบ digital ซึ่งต้องใช้ DAC แปลงเป็นสัญญาณ analog เพื่อใช้งานในระบบเสียง DIP จุดต่ำสุดในกราฟการตอบสนองทางความถี่ของระบบ DIY ย่อมาจากคำว่า do-it-yourself หมายถึงงานอดิเรกต่างๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับเครื่องเสียง dolby B, C + S การลดสัญญาณรบกวน โดยเพิ่มสัญญาณที่สงบราบเรียบขณะบันทึก และตัดสัญญาณนี้ออกไป ในขณะที่เล่นเทป ซึ่งกำจัดเสียงซ่าลงได้ dolby digital / AC-3 ระบบเสียงของ home theater ที่ใช้ช่องสัญญาณเสียงแบบ digital 5 ช่อง (หน้าซ้าย- หน้ากลาง- หน้าขวา- หลังซ้าย- หลังขวา) กับอีก 1 ช่องสัญญาณเสียงของ subwoofer dolby HX Pro วิธีการบันทึกเสียงที่เพิ่มข้อมูลของเสียงความถี่สูง โดยไม่มีความผิดเพี้ยน dolby surround การใส่รหัสสัญญาณเสียงเพิ่ม เพื่อความสมจริง ของเสียงในช่องสัญญาณด้านหลัง (rear channels) ซึ่งต้องการตัวถอดรหัสเสียง เพื่อให้ได้เสียงแบบรอบทิศทาง dolby pro-logic ระบบเสียงที่เพิ่มลำโพงเสริมตรงกลาง ในช่องสัญญาณด้านหน้า เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ ของการสนทนา dolby 3 stereo ระบบใน amplifier ของโรงภาพยนตร์ ทำหน้าที่ ขยายสัญญาณเสียงรอบทิศทาง ในช่องสัญญาณด้านหน้า และสร้างช่องสัญญาณเสียงตรงกลาง (center channel) driver หมายถึงตัวให้กำเนิดเสียงหรือตัวลำโพง DSP (digital signal processing) เทคโนโลยีในการปรับแต่งสัญญาณเสียง เพื่อจำลองเสียงในบรรยากาศต่างๆกัน DTS (Discrete-channel home cinema digital sound system) เทียบเท่ากับ dolby digital dual mono การต่อระบบเครื่องเสียงที่ใช้ amplifier สองตัวแยกขยายสัญญาณ ซ้าย-ขวา เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนกัน ระหว่างช่องสัญญาณ DVD ระบบ video ชนิดหนึ่งที่ออกแบบเพื่อความบันเทิงในบ้าน DVD-ROM เครื่องอ่านข้อมูลจากแผ่น DVD DVD-R แผ่น DVD ที่สามารถบันทึกข้อมูลลงไปได้เพียงครั้งเดียว เก็บข้อมูลได้ 3.95 gigabyte บนแผ่นแบบหน้าเดียว และ 7.9 gigabyte บนแผ่นแบบสองหน้า DVD-RW แผ่น DVD ที่ลบและบันทึกซ้ำได้ มีความจุอย่างน้อย 3 gigabyte กำลังพัฒนาโดย Sony, Philips and Hewlett-Packard dynamic range ช่วงขอบเขตระหว่างขนาดสัญญาณใหญ่ที่สุดกับเล็กที่สุด มีหน่วยเป็น dB E electronic crossover เหมือนกับ active crossover electrostatic speaker ลำโพงที่ทำงานโดยใช้สนามแม่เหล็ก เหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ ของแผ่นโลหะบางๆสองแผ่น ที่มีแผ่น dielectric อยู่ตรงกลาง equalization การเพิ่มและลดขนาดสัญญาณเสียงในความถี่ต่างๆ ด้วยวิธีการทางไฟฟ้า equalizer อุปกรณ์ที่เพิ่มและลดขนาดสัญญาณเสียงในความถี่ต่างๆ ด้วยวิธีการทางไฟฟ้า F fiber optics ดู cable frequency ความถี่, ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงของกระแส หรือความต่างศักย์ไฟฟ้า ของสัญญาณไฟฟ้า หรือของความดันอากาศ ในสัญญาณเสียง frequency response ช่วงขอบเขตของความถี่ ที่อุปกรณ์ หรือระบบเครื่องเสียงให้กำเนิด front end แหล่งกำเนิดสัญญาณในระบบ เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องเล่น cd และเครื่องรับวิทยุ front stage การจัดระบบเสียง ให้มีเวทีเสียงอยู่ด้านหน้าผู้ฟัง เหมือนกับการฟังเพลงตามปกติ ที่ต้องหันหน้าฟัง front stage - rear fill ระบบเสียง front stage ที่มีเสียงเสริมจากด้านหลัง เพื่อความสมบูรณ์ของ sound stage G gain อัตราการขยายสัญญาณของ amplifier , เครื่องรับวิทยุ , วงจร preamp มีหน่วยเป็น dB H HDCD (High Definition Compatible Digital) ระบบการบันทึกเสียงลง CD ชนิดหนึ่งคิดค้นโดย Pacific Microsonics ซึ่งใส่รหัสเพิ่มในสัญญาณเพื่อให้คุณภาพเสียงดีขึ้น ต้องการตัวถอดรหัสเพื่อการฟังเสียงที่สมบูรณ์ hertz จำนวนรอบต่อวินาที ใช้เป็นหน่วยการวัดสำหรับความถี่ ตัวย่อคือ Hz HLCD (Horn-Loaded Compression Driver) ดู horn speaker horn speaker ลำโพงที่เพิ่มส่วนปากแตรเพื่อเพิ่มระดับความดังเสียงและควบคุมการกระจายของเสียงได้ Hz ดู hertz I IASCA (International Auto Sound Challenge Association) สมาคมที่จัดตั้งขึ้นในอเมริกาเพื่อควบคุมและจัดการแข่งขันประกวดเครื่องเสียงทั่วโลก Input sensitivity รายละเอียดของ amplifier ที่บอกระดับสัญญาณขาเข้า เพื่อขยายให้ได้ระดับสัญญาณขาออกที่ระบุไว้ K kick panel ตำแหน่งผนังที่อยู่ด้านข้างของที่วางขาคนนั่งด้านหน้าในรถยนต์ มักใช้เป็นที่ติดตั้งลำโพง woofer แบบ on axis L LCD (liquid crystal display) ชนิดจอแสดงผลที่ผลิตจากวัสดุที่การสะท้อนและการส่งผ่านแสงเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเกิดสนามไฟฟ้า LED (light emitting diode) อุปกรณ์แสดงผลที่เป็นสารกึ่งตัวนำซึ่งกำเนิดแสงได้เมื่อ มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน line level อธิบายถึงระดับสัญญาณขาเข้าของ amplifier ซึ่งไม่ต้องการการขยายใดๆก่อนเข้า amplifier M mid-bass สัญญาณเสียงความถี่ต่ำซึ่งหูคนรับรู้ได้ mid-range ช่วงขอบเขตความถี่ระหว่าง 400-5kHz. MiniDisc แผ่นบันทึกเสียงแบบ digital มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 64 มิลลิเมตร คิดค้นโดย sony mono ระบบเสียงที่มีช่องสัญญาณ 1 ช่อง จึงไม่มีความแตกต่างของช่องสัญญาณซ้าย-ขวา mp3 (mpeg layer3) เป็นรูปแบบข้อมูลแบบใหม่ซึ่งประหยัดเนื้อที่จัดเก็บ มีคุณภาพเสียงที่ดี ต้องการเครื่องอ่านข้อมูลเฉพาะแบบ O octave 1.ในทางสัญญาณเสียง คือ ระยะห่างระหว่างความถี่สองค่าซึ่งมีอัตราส่วนความถี่ 2 ต่อ 1 เช่น 20Hz, 40Hz, 80Hz 2.ในทางดนตรี คือ ความแตกต่างของความถี่เสียงบนบันไดเสียง 8 ระดับ OFC (Oxygen Free Copper) ทองแดงที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตเพื่อให้บริสุทธิ์และปลอดออกซิเจน ใช้งานได้ยาวนาน ไม่เกิดออกไซด์ได้ง่าย off axis การจัดวางตำแหน่งลำโพงให้มีทิศทางกระจายเสียงไม่มุ่งเข้าหาหูของคนฟังโดยตรง แต่ทำมุมเอียงเป็นองศา on axis การจัดวางตำแหน่งลำโพงให้มีทิศทางกระจายเสียงมุ่งเข้าหาหูของคนฟังโดยตรง oversampling กรรมวิธีในระบบ DAC โดยเพิ่มความถี่ของสัญญาณ เพื่อทำให้ง่ายต่อการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงสัญญาณเสียง P parametric equalizer equalizer ที่ปรับแต่งสัญญาณได้หลายด้านในแต่ละย่านความถี่ ค่าที่ปรับ ได้แก่ ระดับสัญญาณ ค่ากลางของความถี่ และช่วงกว้างของความถี่ (bandwidth) passive crossover อุปกรณ์ซึ่งไม่ต้องการกระแสไฟฟ้าในการทำงาน มีหน้าที่ตัดแบ่งความถี่ของสัญญาณเสียงที่ออกจาก amplifier ออกเป็นช่วง ก่อนนำไปขับลำโพงแต่ละขนาด peak จุดสูงสุดของกำลังขาออกชั่วขณะหนึ่งของอุปกรณ์หรือระบบเครื่องเสียง phase อธิบายถึงการเปรียบเทียบความแตกต่างของตำแหน่งระหว่างสัญญาณหรือคลื่นเสียง 2 คลื่น มีหน่วยเป็น องศา (degree) phono stage สัญญาณขาออกของหัวอ่านในเครื่องเล่นแผ่นเสียง มีระดับความแรงต่ำกว่าสัญญาณจากเครื่องเล่น CD หรือ เทปเพลงมาก ต้องการการขยายสัญญาณเพิ่มเติมก่อนเข้า amplifier pink noise เสียงที่มีระดับความดังเท่ากันในทุกความถี่ PLL (Phase-Locked Loop) ชนิดของวงจรไฟฟ้าที่เพิ่ม channel seperation และลดความเพี้ยนตลอดช่วงความถี่เสียง PMPO (peak music power) กำลังขาออกในชั่วขณะหนึ่ง มักใช้โฆษณาอุปกรณ์เพื่อให้ดูมีกำลังสูงเกินความจริง polarity คุณสมบัติของการมีสองขั้วไฟฟ้าที่ตรงข้ามกัน ในกรณีไฟฟ้ากระแสตรง หมายถึงขั้วไฟฟ้าบวกและลบ power amplifier amplifier ที่ออกแบบให้ใช้ในระบบเครื่องเสียงเพื่อขับลำโพงและมี power handling capability สูง power handling capability ปริมาณสูงสุดของกำลังขาออกซึ่งอุปกรณ์ทำงานได้อย่างปลอดภัย ขึ้นอยู่กับความถี่ของสัญญาณและระยะเวลาใช้งาน pre-amplifier ส่วนของระบบเครื่องเสียงที่ปรับปรุงสัญญาณก่อนเข้า amplifier processor (signal) อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าที่แก้ไขปรับปรุงสัญญาณ pro-logic ดู dolby R RCA (aka phono jack or pin jack) ขั้วต่อสายสัญญาณแบบ unbalance ซึ่งคิดค้นโดย The Radio Corporation of America (RCA) ในปี 1930 ได้รับความนิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากราคาถูกและต่อสายสัญญาณได้ง่าย RDS (Radio Data System) ระบบการเก็บบันทึกชื่อสถานีวิทยุซึ่งสามารถเรียกกลับมาเพื่อฟังได้รวดเร็ว reactance อัตราส่วนของความต้านทานไฟฟ้ากระแสสลับ (เปลี่ยนตามความถี่) ต่อความต้านทานไฟฟ้ากระแสตรง (เกิดจากการเก็บและคายพลังงาน) real time analyser (RTA) เครื่องมือที่ใช้วัดระดับความถี่เสียงแยกแต่ละความถี่ และแสดงผลเป็นแผนภูมิในขณะทำการวัด rear stage การจัดระบบเสียงให้มีเวทีเสียงอยู่ด้านหลังผู้ฟัง โดยไม่มีการรบกวนจากด้านหน้าและระหว่างกลาง resistance ความต้านทานการไหลผ่านของกระแสไฟฟ้า resonance ปรากฎการณ์ที่มีระดับเสียงดังสูงสุดเกิด ณ resonant frequency ของลำโพง resonant frequency รายละเอียดของอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่บอกถึงค่าความถี่ในกราฟความถี่ตอบสนองที่เกิดความต้านทานไฟฟ้ากระแสสลับสูงสุด RMS (Root Mean Square) กรรมวิธีทางคณิตศาสตร์ที่คำนวณกระแสไฟฟ้าหรือความต่างศักย์ของไฟฟ้ากระแสสลับ บางครั้งใช้อ้างถึงกำลังขาออกแบบต่อเนื่องของ amplifier ซึ่งไม่ถูกต้องนักทางทฤษฎี RTA ดู real time analyser S S/N ดู signal-to-noise ratio sampling rate อัตราความเร็วในการสุ่มตัวอย่างสัญญาณ เพื่อนำไปเก็บบันทึกหรืออ่านข้อมูล ค่า sampling rate บอกถึงความถี่สูงสุด ที่ระบบรองรับได้ CD, DCC และ MiniDisc ใช้ความเร็วที่ 44.1kHz (44,100 ตัวอย่างต่อวินาที) ในขณะที่ DAT ใช้ 48kHz หรือ 44.1kHz อุปกรณ์ DAC จำเป็นต้องทำงานได้ในความเร็วทั้งสาม signal (audio signal) สัญญาณเสียง signal-to-noise ratio อัตราส่วนของ ระดับสัญญาณเสียง ต่อระดับสัญญาณรบกวน ของอุปกรณ์เครื่องเสียง ค่า signal-to-noise ratio ยิ่งมาก สัญญาณรบกวนยิ่งน้อยเมื่อเทียบกับสัญญาณเสียง มีหน่วยเป็น dB SNR ดู signal-to-noise ratio sound frequency ความถี่ของเสียงในช่วงที่คนได้ยิน (อยู่ในช่วง 20-20,000 Hz) แยกได้เป็น เสียงร้อง bass (เสียงต่ำของผู้ชาย) ความถี่หลัก 70-380 Hz ความถี่รอง(หางเสียง) 380-10000 Hz baritone (เสียงระหว่างต่ำกับสูงของผู้ชาย) ความถี่หลัก 90-400 Hz ความถี่รอง 400-10000 Hz tenor (เสียงสูงของผู้ชาย) ความถี่หลัก 130-500 Hz ความถี่รอง 500-10000 Hz alto (เสียงต่ำของผู้หญิง) ความถี่หลัก 160-950 Hz ความถี่รอง 950-10000 Hz soprano (เสียงสูงของผู้หญิง) ความถี่หลัก 210-1200 Hz ความถี่รอง 1200-10000 Hz เสียงเครื่องดนตรีชนิดดีด,สี,ตี bass viola ความถี่หลัก 30-210 Hz ความถี่รอง 210-15000 Hz cello ความถี่หลัก 50-650 Hz ความถี่รอง 650-15000 Hz viola ความถี่หลัก 130-1200 Hz ความถี่รอง 1200-15000 Hz violin ความถี่หลัก 180-4000 Hz ความถี่รอง 4000-15000 Hz เสียงเครื่องดนตรีชนิดเป่า bass tuba ความถี่หลัก 40-380 Hz ความถี่รอง 380-16000 Hz bassoon ความถี่หลัก 45-500 Hz ความถี่รอง 500-10000 Hz bass clarinet ความถี่หลัก 80-500 Hz ความถี่รอง 500-10000 Hz french horn ความถี่หลัก 120-800 Hz ความถี่รอง 800-16000 Hz trumpet ความถี่หลัก 140-850 Hz ความถี่รอง 850-9000 Hz clarinet ความถี่หลัก 160-1600 Hz ความถี่รอง 1600-16000 Hz oboe ความถี่หลัก 240-1600 Hz ความถี่รอง 1600-16000 Hz flute ความถี่หลัก 240-2200 Hz ความถี่รอง 2200-16000 Hz piccolo ความถี่หลัก 500-7000 Hz ความถี่รอง 7000-16000 Hz เสียงเครื่องดนตรีชนิดเคาะ piano ความถี่หลัก 25-7000 Hz sound pressure level ระดับพลังงานของเสียงที่ได้จากการวัด โดยทั่วไปเรียกว่า ความดัง sound stage เวทีเสียงซึ่งแสดงถึงตำแหน่งแบบสามมิติที่เสมือนเป็นจุดกำเนิดของเสียงเพลง source แหล่งกำเนิดสัญญาณในระบบ เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องเล่น cd และเครื่องรับวิทยุ speaker sensitivity ค่าความไวในการตอบสนองของลำโพงวัดจาก sound pressure level ของลำโพงเมื่อจ่ายกำลังขับปริมาณหนึ่งให้ ค่า speaker sensitivity ต้องระบุระยะที่ทำการวัด และปริมาณกำลังขับ ที่จ่ายให้ลำโพง ขณะทำการวัด SPL ตัวย่อของ sound pressure level standing wave(s) สภาวะทางเสียงที่เกิดโดยปรากฎการณ์ resonance ของคลื่นเสียง ที่สะท้อนระหว่างขอบเขตที่ขนานกัน สภาวะนี้เป็นได้ทั้งการเสริม และหักล้างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของคลื่นที่ชนกัน stereo ระบบเสียงที่มีสองช่องสัญญาณที่แตกต่างกัน (ซ้าย-ขวา) stereo separation อัตราส่วนของ กำลังของสัญญาณเสียงในช่องสัญญาณที่ใช้งาน ต่อกำลังของสัญญาณที่รั่วไหลออกไปยังช่องสัญญาณอื่น มีหน่วยเป็น dB sub-bass ความถี่เสียงที่ต่ำที่สุดที่คนได้ยิน กรณีทั่วไปคือ ต่ำกว่า 50 Hz sub-harmonic ค่าความถี่เสียงที่กลมกลืนเข้ากันได้ หาค่าได้โดยนำความถี่พื้นฐาน หารด้วย ค่าความเข้ากันที่ต้องการ เช่น sub-harmonic ของ 500 Hz คือ 250 Hz subsonic ความถี่ต่ำกว่าที่คนได้ยิน (ต่ำกว่า 20 Hz) subwoofer ตัวลำโพงที่ออกแบบเพื่อให้กำเนิดเสียงความถี่ต่ำโดยเฉพาะ โดยทั่วไปคือ 20-100 Hz surround sound ระบบเสียงรอบทิศทาง คนฟังรู้สึกเหมือนร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง T THD (total harmonic distortion) ความผิดเพี้ยนรวมของอุปกรณ์ที่วัดด้วยวิธีเฉพาะหนึ่งๆ ซึ่งปัจจุบันใช้น้อย THD+N (total harmonic distortion plus noise) ความผิดเพี้ยนรวมของอุปกรณ์ที่วัดจากสัญญาณขาออก เทียบกับสัญญาณขาเข้าแบบ sine wave ซึ่งขึ้นอยู่กับความถี่ ระดับสัญญาณ และ ช่วงกว้างความถี่ ที่ใช้ขณะทำการวัด THX มาตรฐานที่คิดค้นโดย LucasFilm เพื่อใช้รับรองคุณภาพของระบบ dolby pro-logic titanium วัสดุชนิดหนึ่งที่มีความแข็งแรงสูงมาก เมื่อนำมาใช้ทำลำโพงเสียงความถี่สูง จึงให้กำเนิดเสียงได้คมชัด ฉับไว มีความผิดเพี้ยนต่ำ tonal balance คุณสมบัติของอุปกรณ์ที่สัญญาณขาออกมีระดับความดังของทุกความถี่เสียงสมดุลเท่ากัน เมื่อป้อนสัญญาณขาเข้าที่มีระดับความดังเท่ากันในทุกความถี่ (pink noise) เข้าไป toroidal transformer หม้อแปลงชนิดหนึ่งที่มีเสถียรภาพดีและความสูญเสียสนามแม่เหล็กไฟฟ้าต่ำ total harmonic distortion ดู THD tweeter ตัวลำโพงขนาดเล็กที่ออกแบบเพื่อให้กำเนิดเสียงความถี่สูง U ultrasonic ความถี่เสียงที่สูงเกินกว่าที่คนได้ยิน V vent ข่องหรือท่อที่เปิดให้อากาศไหลเข้า-ออกตู้ลำโพง เพื่อช่วยชดเชยเสียงความถี่ต่ำ W woofer ตัวลำโพงที่ออกแบบเพื่อให้กำเนิดเสียงตั้งแต่ความถี่ต่ำถึงความถี่กลาง โดยทั่วไป คือ 20 ถึง 5000 Hz wow and flutter การวัดความเปลี่ยนแปลงของความเร็วขณะเล่นเทป ซึ่งมีผลต่อคุณภาพเสียง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ค่า wow and flutter ยิ่งน้อย ก็ยิ่งเล่นเทปได้ความเร็วเที่ยงตรง ขอบคุณ http://www.mnsound.com/tip.html หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: Chath ที่ พฤษภาคม 30, 2007, 02:29:13 pm ยอดเยี่ยมทั้ง 2 ท่านเลยครับ :-X
หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: Drum ที่ มิถุนายน 07, 2007, 07:31:49 pm หรือกระแสไฟอาจไม่พอ อาจต้องหาคาปา หรือแบตมาใส่เพิ่มครับ :(
หัวข้อ: Re: ~~เรื่องของเรื่องคือขยายครับมันไม่ดัง%% เริ่มหัวข้อโดย: rittichai.l. ที่ มิถุนายน 08, 2007, 08:05:28 am ถ้าดับมันไม่ใช่ไม่พอแล้วละท่าน มันตัดไปเลย โหลดอาจเกิน หรือโหลดต่ำเกินตัวมันจะรับได้ ควรแยก ตัวขับน่าจะดีขึ้นได้ส่วนหนึ่งครับ
|