LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

 :-*สวัสดีสมาชิกทุกท่าน แอร์ที่บ้านผมยี่ห้อ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ดิวตี้  9000 BTU  เย็นไม่ฉ่ำ ตั้งอุณหภูมิ 25 C  ได้ความรู้สึกแค่เย็น ให้ช่างแอร์มาล้างแอร์ เช็ด น้ำยาแล้วปกติ ::) :-[ :(

 ;D   ห้องใหญ่เกินไปหรือเปล่า ครับ
 ;D   ปิดช่องที่ทำให้แอร์ออกหมดหรือเปล่า
 ;D    :(

ช่างส่วนใหญ่ ไม่ค่อยใส่ใจ กับตัว Compesser ที่อยู่นอกบ้าน การติดตั้งที่ดีควรจะอยู่ห่างจากๆผนังประมาณ

20-30 เซนติเมตร ( ผิดยังไงรบกวนพี่จุ๋มแก้ไขด้วยครับ ) เพื่อการระบายความร้อนที่ดี หากการระบายความร้อนไม่ดี

ส่งผลให้แอร์ของท่านไม่เย็นตามไปด้วย บ้านผมก็เปิด 25 องศา ทุกห้อง บอกตรงๆ เยือกเลย สั้นๆ......................... :P

แนะนำ สำหรับผู้ที่จะติดตั้งแอร์ตัวใหม่ เวลาช่างมาติดตั้งกรุณา เฝ้าดูการทำงานของช่างด้วย เราสามารถบอกช่างได้เลย

ว่าจะติดยังไง ห่างจากฝนังเท่าไหร่ หากเราไม่รู้ ช่างเค้าก็จะทำในแบบที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นแหละครับ............. 8)

อ้อ.......ผมแนะนำ ให้ถอดแผ่นฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาด 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง ประโยชน์ของแผ่นฟิลเตอร์ที่สะอาด

นอกจากจะได้อากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ตัวคอล์ยเย็นด้านในก็ไม่สกปรก ไม่ตันด้วย แต่ยังไงก็แล้วแต่ ควรล้างระบบแอร์

ปีละ 1 ครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้ ครึ่งปีต่อ1 ครั้ง สามารถล้างด้วยตัวเองได้ครับ หากไม่เข้าใจวิธีล้างด้วยตนเอง ถามได้

เดี๋ยวผมบอกหมดเปลือก................................  ;D ;D ;D

ตอนนี้ แถวบ้านผมยังคิดค่าล้างแอร์เครื่องละ 1000 บาทอยู่ ลองคิดดู บ้านผมมี 3 เครื่อง ก็ตก 3000 บาท

แล้วปกติบ้านผมจะใส่ใจเรื่องการล้างแอร์มาก ดังนั้น ปีนึงจะล้าง 2 ครั้ง ก็รวมเป้นเงิน 6000 บาท

ดังนั้นหันมาล้างเองดีกว่าครับ นอกเสียจากน้ำยาแอร์รั่ว ซึ่งคงต้องให้ช่างเค้าทำครับ

ในการหาว่าเราจะต้องใช้แอร์ขนาดเท่าไหร่ให้เหมาะสมกับห้อง  โดยใช้วิธีการหาอย่างนี้ครับ
ขนาดห้องกว้าง X ด้วยความยาว X 800  จะออกมาเป็น BTU  ครับ  ตัวอย่างเช่น
ห้องขนาด 4 X 4 X 800 =12800 BTU เพราะฉนั้นท่านควรเลือกแอร์ไม่ต่ำกว่า 12000 BTU

น่าจะเป็นดังนี้
1. ขนาดแอร์ไม่เหมาะสมกับห้อง
2. ตัวห้องโดนแสงอาทิตย์โดยตรง
3. จำนวนคนในห้องมากเกินไป

ผมไม่แน่ใจ ว่าแอร์มันไม่เย็นตั้งแต่แรกที่ตอนซื้อ หรือซื้อมานานแล้วแต่เพิ่งมาไม่เย็น.................................... :(

ครั้งแรกที่มาติดตั้งเย็นฉ่ำไหม ถ้าเย็นฉ่ำให้ทำตามคำแนะนำของพี่ข้างบนแล้วยังเย็นไม่ฉ่ำ
ให้ตรวจดูว่า คอมทำงานเต็มกำลังไหม ที่ผมเจอ คือ C run เสื่อมค่า แต่ไม่เสีย ลองดูนะครับ

  น่าจะเป็นข้อ1กับข้อ2 เนื่องจากปีนี้อากาศร้อนมากแอร์เดิมที่ติดไว้พอดีกับขนาดห้องเกินไปมาเจอปีนี้เข้าทำงานหนัก สู้ไม่ไหวครับ สังเกตุดูได้จากวันไหนที่อากาศไม่ร้อนมากมันก็จะเย็นฉ่ำดีครับ  ที่เห็นน้องๆที่เป็นช่างแอร์บอกว่าปีนี้เปลี่ยนแอร์ใหม่กันเยอะมากเพราะสู้อากาศร้อนของปีนี้ไม่ไหวแอร์มันไม่ฉ่ำของผมยังมีปัญหาเลยครับทั้งที่ขนาดมันก็เผื่อไว้แล้ว แต่รุ่นนี้พัดลมคอยล์เย็นมันใบเล็ก ลมไม่แรง ไม่รู้จะแก้ยังไงเลย

ติดตั้งปีแรกเย็นฉ่ำดีครับ ตอนนี้อายุแอร์ได้ 3 ปี รบกวน คุณ Ben Q =ช่วยบอกวิธีล้างแอร์ให้หน่อย

ที่มา http://www.airhomenet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=180160 (http://www.airhomenet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=180160)

ล้างใหญ่   คอยล์เย็น ( EVAPERRATOR )  


1.0 ก่อนเริ่มทำงานเราจะนำผ้าใบหนังคลุมพื้นที่บริเวณห้องเพื่อป้องกันความเสียหาย การทำงานสะอาดทุกขั้นตอน

1.1 ถอดโครงคอยล์เย็นออกทั้งหมดเพื่อทำความสะอาดภายใน

1.2 ถอดมอเตอร์ ล้างทำความสะอาด 

1.3 นำผ้าใบล้างแอร์คลุม (คอยล์เย็น) ทั้งหมด 

1.4 ล้างทำความสะอาดฟิลคอยล์ (EVAPERRATOR) ด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง120 barและเป่าลมแห้งด้วย BLOVER

1.5 ดูดและเป่าทำความสะอาดระบบท่อน้ำทิ้งด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง

1.6 ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (FILTER)

1.7 ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา

1.8 ตรวจเช็ครอบความเร็วของมอเตอร์พัดลม (FANCOLL)

1.9 ตรวจเช็คสปีดและเทอร์โมรูม


( ล้างใหญ่ )  คอยล์ร้อน ( CONDENSING UNIT )

1.10 ถอดโครงคอยล์ร้อนออกทั้งหมดยกใบพัดลมออกทำความสะอาด

1.11ล้างทำความสะอาดแผงครีบคอนเดนซิ่งด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูง 120 bar และ BLOVER

1.12 ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา

1.13 ตรวจวัดความดันของระบบน้ำยา เช็คกำลังอัดของคอมเพรสเซอร์

1.14 ตรวจเช็คการทำงานของไทม์เมอร์ และอุปกรณ์ช่วยสตาร์ททุกชนิด ของระบบคอมเพรสเซอร์

1.15 ทำความสะอาดชิ้นส่วนประกอบแอร์ทุกชิ้นด้วยแชมพูเช็ดล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง

-จากนั้นประกอบทุกชิ้นส่วนแอร์ให้เข้าที่ พร้อมเดินเครื่องตรวจสอบวัดกระแส น้ำเกจวัดแรงดันน้ำยา

- เติมเฉพาะน้ำยาต่ำกว่า มาตรฐาน (แรงดัน 65 PSI ) ที่กำหนดเท่านั้น
 

 :)ปล.หากไม่ชำนาญการเรื่องนี้ไม่แนะนำให้ทำเองก่อนนะครับ  จะให้เข้าใจ  ให้ช่างแอร์มาล้าง
แล้วแอบดูวิธีการเอาก็จะเป็นแบบที่เข้าใจง่ายขึ้น

หากท่านล้างแล้วไม่เย็นดังใจ  ต้องเรียกช่างมาเช็คระบบแล้วครับ
 ;D  หวังว่าท่านคงไม่เรียกช่างคนเดิมนะ  อิๆๆ   8)
 

 

ผมไม่เคยเห็น C run ครับ เคยเห็นแต่ C stsrt ครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ ผมทำงานมาตอนนี้อายุ 54 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นครับ

งง ครับตอนแรกบอกให้ช่างมาล้างแอร์แล้ว เช็คน้ำยาแล้วปรกติ ตอนหลังมาบอก ตอนนี้อายุแอร์ได้ 3 ปี ให้คุณ Ben Q ช่วยบอกวิธีล้างแอร์ให้หน่อย  ก็ล้างแล้วมิใช่หรือครับในกระทู้แรก คนตอบเลย งง ครับ สรุปล้างแอร์หรือยังครับ

ล้างแอร์แล้วครับแต่สงสัยว่าวิธีล้างมีรายละเอียดอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลวิเคราะเลือกช่างซ่อม ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ครับตอบ :D :D :D :D

C - RUN เอาแบบง่ายๆนะครับ คำว่าแคปรันนั้นคือค่าปาซิสเตอร์ที่ต่อกับวงจรตลอดโดยต่อระหว่างสาย R กับ S
C - START แคปสตาร์ทเป็นคาปาซิสเตอร์ที่ต่อระหว่างสาย R กับ Sเหมือนกับแคป รันเพียงแต่ว่าแคปสตาร์ทนั้นจะมีสวิทที่ตัดคาปาซิเตอร์ออกจากวงจร
แล้วจะรู้ได้ไงว่าเป็นแคปรันหรือแคปสตาร์ทแคปรันส่วนมากในแอร์จะเป็นตัวถังโลหะ และไม่ตัดออกจากวงจรเมื่อเดินเครื่องไปแล้ว
แคปสตาร์ทส่วนมากตัวถังเป็นพลาสติกการทำงานจะทำงานเฉพาะตอนเริ่มออกตัวเท่านั้นครับ

แต่ผมเรียก C ฟิลเตอร์ครับ พี่อำนาจ ขอบคุณมากครับ  :D ที่แนะนำ

แต่ผมเรียก C ฟิลเตอร์ครับ  
ในระบบ AC มีแต่ฟิลเตอร์พวกสัณญาณ นอยส์ กับ สไปส์ ครับ
ฟิลเตอร์แบบให้ไฟเรียบไม่มีครับ

C -RUN จะมีค่า เพียงตัวเดียว เช่น 25 MFD
C-Star   จะมีค่า 2 จำนวนในตัวเดียว เช่น 88 -106 MFD
การต่อนั้นดังรูปครับ ต้องต่อร่วมกับโพเทนเซียลรีเลย์
การต่อนั้นเพื่อช่วยให้ คอมที่ไม่มีกำลังออกตัวหรือคอมที่ใช้งานมานาน
สังเกตุจากการที่เวลาออกตัวไฟบ้านจะตกเพราะใช้กระแสมาก การต่อ
C-Star จะทำให้ออกตัวดีขึ้น

cในพัดลมตั้งโต๊ะเป็นc startหรือc runครับ 8)

C-RUN ครับ