LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

เทคนิคการปรับเปลวไฟเชื่อม
  การปรับเปลวไฟเชื่อมให้ถูกต้อง  และเหมาะสมกับชนิดของโลหะงานมีขั้นตอนดังนี้
 1.1  การจุดเปลวไฟ
                       การจุดเปลวไฟที่ถูกต้องและมีความปลอดภัย  มีขั้นตอนดังนี้
                    1.1.1   ตรวจสอบอุปกรณ์ปรับความดันแก๊สให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
 1.1.2   เปิดวาล์วที่หัวท่อบรรจุแก๊สออกซิเจนอย่างช้า ๆ จนสุดเกลียว
 1.1.3   เปิดวาล์วที่หัวท่อบรรจุแก๊สอะเซทิลีนเพียงครึ่งรอบและปล่อยประแจคาไว้ ที่ก้านลิ้น  หากเกิดอุบัติเหตุจะได้ปิดทันท่วงที
 1.1.4   ปรับความดันของออกซิเจนและอะเซทิลีน  โดยการหมุนสกรูปรับความดัน
 1.1.4.1ออกซิเจนปรับความดันให้ได้   3 – 5  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
 1.1.4.2อะเซทิลีนปรับความดันให้ได้   3 - 5   ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
 1.1.5   เปิดวาล์วอะเซทิลีนที่ด้ามเชื่อมอย่างช้า ๆ  เพื่อให้แก๊สอะเซทิลีนไหลออกไปที่ปลายหัวทิพ
 1.1.6เตรียมจุดเปลวไฟโดยถืออุปกรณ์จุดไฟแก๊สไว้ในมือ ที่ไม่ถนัด  โดยใช้มือ ที่ถนัดถือด้ามเชื่อมไว้  เพื่อจุดไฟ  อย่าหันหัวทิพเข้าหาตัวเอง  หรือเข้าใกล้วัตถุไวไฟ  แล้วจึงทำการจุดเปลวไฟ
 1.2 การปรับเปลวไฟเชื่อม
 การปรับเปลวไฟเชื่อมกระทำได้ โดยการปรับวาล์วของแก๊สอะเซทิลีนที่ด้ามเชื่อม  (ปฏิบัติต่อเนื่องจากข้อ  1.1.6)    โดยการหมุนวาล์วช้า ๆ     จนได้เปลวไฟที่มีควันไฟน้อยที่สุดและอย่าให้เปลวไฟขาดจากหัวทิพ    หลังจากนั้นหมุนวาล์วของแก๊สออกซิเจนที่ด้ามเชื่อมช้า ๆ  จะทำให้ได้เปลวไฟ  3  ลักษณะ   ตามสัดส่วนการผสมแก๊สออกซิเจนดังนี้
 1.2.1เปลวลดหรือเปลวคาร์บอนมาก  (CARBURIZING  FLAME) 
เปลวลดหรือเปลวคาร์บอนมาก  ซึ่งบางครั้งก็จะเรียกเปลวคาร์บูไรซิงค์ 
เป็นเปลวไฟที่มีลักษณะเป็นกรวย  3  ชั้น  เกิดจากปรับหมุนวาล์วของแก๊สออกซิเจน  ออกมาผสมกับแก๊สอะเซทิลีนในอัตราส่วนผสมที่น้อยกว่าแก๊สอะเซทิลีน     เป็นคุณลักษณะของเปลวลด  3X  ซึ่งมีอัตราส่วนผสมของแก๊สอะเซทิลีนมากกว่าออกซิเจน  3  เท่า    และสามารถปรับอัตราส่วนผสมนี้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละงาน  เช่น  เปลวลด  2X   ซึ่งจะให้ค่าความร้อนเพิ่มจากเดิม
 1.2.2  เปลวกลาง  (NEUTRAL FLAME) 
   เปลวกลางเป็นเปลวไฟที่มีลักษณะเป็นกรวย   2  ชั้น  ชั้นในเป็นกรวยมน เกิดจาการปรับหมุนวาล์วของแก๊สออกซิเจนออกมาผสมกับแก๊สอะเซทิลีนในอัตราส่วน ผสมที่
เท่ากัน  ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์โลหะเหล็กที่ถูกเผาด้วยเปลวนี้  จะหลอมเหลวได้อย่างใสและสะอาด  จึงใช้สำหรับการเชื่อมโลหะได้เกือบทุกชนิด  การตัดโลหะและการแล่นประสาน     
 
 1.2.3   เปลวเพิ่มหรือเปลวออกซิเจนมาก (OXIDIZING  FLAME)
   เปลวเพิ่มหรือเปลวออกซิเจนมาก   ซึ่งบางครั้งเรียกว่า   เปลว             อ๊อกซิไดซิงค์  เป็นเปลวไฟที่มีลักษณะเป็นกรวย  2  ชั้น  ชั้นในเป็นกรวยแหลมเปลวนอกสั้นกว่าเปลวชนิดอื่น ๆ  เกิดจากการปรับหมุนวาล์วของแก๊สออกซิเจนออกมาผสมกับแก๊ส       อะเซทิลีนในอัตราส่วนผสมที่มากกว่าแก๊สอะเซทิลีน  ทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์  มีออกซิเจนเหลืออยู่ในเปลวเหมาะสมสำหรับการเชื่อมบรอนซ์  การแล่นประสาน  การอุ่น
ชิ้นงาน  เหล็กหล่อก่อนเชื่อมแต่ไม่เหมาะสมสำหรับการเชื่อมเหล็ก  เพราะจะทำให้แนวเชื่อมไม่แข็งแรง   
 
1.3  การปิดแก๊ส
1.3.1   ปิดวาล์วอะเซทิลีนก่อน  แล้วปิดวาล์วออกซิเจนที่ด้ามเชื่อมแก๊ส
1.3.2   ปิดวาล์วที่ท่อทั้งออกซิเจนและอะเซทิลีน
1.3.3   เปิดวาล์วอะเซทิลีนและออกซิเจนที่ด้ามเชื่อม  เพื่อปล่อยแก๊สที่ค้างใน สายยางออก
1.3.4   คลายสกรูที่อุปกรณ์ปรับความดันของแก๊สทั้งสอง

ขอบคุณครับ

     เอ  แต่เวลาปิด ผมปิดอ๊อกซิเจนที่ด้ามเชื่อมก่อน พอเหลือแต่เปลวไฟแดงๆ ไม่มีสีน้ำเงิน แล้วค่อยๆลดไฟที่ด้ามเชื่อม (แก๊สปิคนิคอ่ะครับ) ไม่ทราบผิดถูกอย่างไร เพราะถ้าลดแ็ก๊สก่อนลม จะดังแป๊ะๆ ครับ

ใช่แล้วครับถ้าปิดลมก่อนมันจะดังแป๊ะๆเหมือนที่ท่านว่าเลยจำได้เมื่อสมัยเรียนถ้ามีเสียงดังแบบนี้อาจารย์จะหักคะแนนครับผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดังแป๊ะๆ  อืมม...ตามปกติแล้วผมจะปิดแก๊สก่อนครับ เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากไห้เสียงมันดังท่านควรปิดด้านแก๊สก่อนดีกว่าครับ

 :-X  HAPPY2!!  :D

ผมว่าปิดแก๊สก่อนปิดลมมันจะดังนะครับ  :(

ผมมีความเห็นตรงกับคุณ nantawut
ปิดแก๊สก่อนปิดลมมันจะดัง...

ผมทำมากับมือแท้ๆ ยังจำไม่ค่อยได้้เลย...ว่าปิดอะไรก่อนถึงจะไม่ดัง...  lv!

ไม่รู้ อ่านแล้วเยี่ยมครับ :D

หลังเชื่อม ผมเบาลมเบาแก๊ส แล้วก็ปิดลมตามด้วยแก๊ส