LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

น้ำในเขื่อนสิริกิติ์วิกฤตสุดในรอบ 10 ปี
   
8 มีค. 2553 10:07 น.


    นาย สมคิด แข็งแรง ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ตอนนี้ถึงขั้นวิกฤติ เพราะมีน้ำที่สามารถใช้งานได้เพียง 1,415 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี และมีระดับน้ำต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมากถึง 10 เมตร ที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ 6,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เขื่อนสิริกิติ์ต้องปล่อยน้ำตามที่กรมชลประทานกำหนดมากถึงวันละ 20-24 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งท้ายเขื่อนส่วนใหญ่ยังคงทำนาปรัง แต่มีน้ำต้นทุนไหลเข้าสู่เขื่อนเพียงวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น เมื่อปีที่ผ่านมาคาดการว่าเขื่อนสิริกิติ์จะปล่อยน้ำเพื่อการชลประทานจนกว่า จะถึงฤดูฝน จำนวน 4,200 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้เพียงต้นเดือนมีนาคมปล่อยน้ำไปแล้วจำนวน 4,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินว่าที่กำหนด 300 ล้านลูกบาศก์
    หากเกษตรกรผู้ใช้น้ำยังไม่ หยุดทำนาปรังรอบ 2 จากปริมาณน้ำที่มีจะสามารถปล่อยน้ำได้เพียง 75 วัน หรือ 2 เดือน เพราะเขื่อนต้องมีน้ำต้นทุนเหลือไว้ภายในอ่างเก็บน้ำ จึงขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำท้ายเขื่อนใช้น้ำอย่างประหยัด รู้คุณค่าและงดการทำนาปรังรอบ 2 เพราะเกรงผลผลิตจะเสียหายหากน้ำไม่เพียงพอ “ระดับในอ่างเก็บน้ำปีนี้วิกฤติ เกิดจากภาวะโลกร้อน การตัดไม้ทำลายป่า และปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนรอบปีที่ผ่านมีน้อย น้ำที่ไหลเข้าจึงน้อยตามไปด้วย จนทำให้ประชนวิตกถึงความมั่นคงของตัวเขื่อน เพราะน้ำที่แห้งขอดจนทำให้มองเห็นสันดอนผุดขึ้นอย่างชัดเจน ได้มีการชี้แจ้งว่าไม่กระทบแน่นอน ขณะเดียวกันวิศวกรของเขื่อนได้มีการสำรวจความมั่นคงแข็งแรงตลอดเวลา ยิ่งมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในต่างประเทศยิ่งเพิ่มรอบในการสำรวจและรายงานผล ต่อคณะผู้บริหารทุกวัน” นายสมคิดกล่าว
    ในเบื้องต้นตั้งแต่ช่วง เดือนเมษายนเป็นต้นไป หากไม่มีฝนตกทางเหนือของเขื่อนสิริกิติ์ หรือการทำฝนเทียมพื้นที่ จ.น่านไม่ได้ผล คงประสานกรมชลประทานในการลดปริมาณการปล่อยน้ำออก เพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์ระดับน้ำจะวิกฤติมากกว่าเขื่อนภูมิพล ที่ปริมาณน้ำไหลเข้าและระบายออกมีปริมาณใกล้เคียงกัน จึงทำให้การรักษาระดับน้ำของเขื่อนภูมิพลไม่เกิดปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องจากปัญหาภัย แล้ง และการระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรท้ายเขื่อน ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยึดน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนสิริกิติ์เป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงชีพ ทั้งชาวประมงน้ำจืดและธุรกิจแพท่องเที่ยว ที่บ้านท่าเรือ ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา บริเวณเขื่อนดินช่องเขาขาดแหล่งท่องเที่ยวและตลาดปลาน้ำจืดแห่งใหญ่ของ จ.อุตรดิตถ์ และจาการสำรวจยังพบว่าร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก และอาหารประเภทปลาน้ำจืดของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์กว่า 50 ร้านค้าที่บ้านท่าเรือ ต้องปิดกิจการ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=436258&lang=T&cat=