LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

อิอิ เปิดประเด็น ตามนั้น ช่างซ่อมเป็นอาชีพสังคมรังเกียจใช่หรือปล่าว

ใช่ครับ
เป็นงานชั้นต่ำ ผู้ดีเขาไม่ทำกัน(พวกที่จบสูง เกินไป)
ต้องเสียภาษา สังคมรังเกียจด้วยนะ  

ก็ไปตีความกันซะอย่างนั้น อาชีพที่พึงสังคมรังเกียจ คืออาชีพที่มีสารก่อมลพิษ ต่างๆ เช่น ช่างซ่อมทีวี ก็จะมีการใช้ตะกั่ว ช่างแอร์ ช่างซ่อมรถ

อิอิ เป็นมุขครับ แต่มีใบรับรองอย่างเป็นทางการตรงที่เสียภาษีสังคมรังเกียจนี่แหละ

จะมีเกียรติหรือไม่มีเกียรติขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละบุคคล

โดยเฉพาะความซื่อสัตย์และการเคารพต่อวิชาชีพที่ทำ

ถ้าซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ต่อลูกค้าและการงานที่ทำนั่นคือเกียรติ ไม่ต้องให้ใครมาบอกรู้ได้อยู่แก่ใจ

ดังนั้นความต่ำต้อยไม่ได้อยู่ที่การงานที่ทำแต่อยู่ที่การกระทำของคนนั่นเอง

ช่างซ่อมเป็นอาชีพสังคมรังเกียจใช่หรือปล่าว

..ตั้งแต่เปิดร้านซ่อมมา ผมก็ต้องต่อภาษีทุกปี ..บอกตรงๆเลยว่า ไม่ชอบใจคำว่า "สังคมรังเกียจ " คำนี้มากมากๆๆ ใครคนคิดขึ้นมานะ เอาสมองส่วนไหนคิด เคยคิดถึงใจเขาใจเราบ้างไหม .. ควรใช้คำที่น่าฟังกว่านี้ เช่น" อาจมีสารเกิดอันตราย ..ฯลฯ " แทนก็ได้นี่นา.... คิดดูเองนะหากจู่ๆเทศบาลเอาป้ายมาติดไว้ที่หน้าบ้านแสนสวยของท่านว่า "บ้านนี้สังคมรังเกียจ " ...ท่านจะรู้สึกยังไงกันบ้าง ...  :(


 ..ใบสีฟ้าๆที่บอกว่าต้องติดให้เห็นเด่นชัด ผมเอาไว้ในลิ้นชักทุกปี ..ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะแสลงใจเหลือเกินกับตัวโตๆ "สังคมรังเกียจ " กำกับบนใบสีฟ้าอันนั้น ..   HAPPY2!!


  ฝากให้พวกนักกระแดะภาษา ที่มีตำแหน่งสูงๆด้วยนะ ไม่ต้องจ้างคนที่มีสมองเลอเลิศนักมาบัญญัติคำปัญญานิ่มพวกนี้ดีกว่า คำศัพท์ของคอมพิวเตอร์เช่นกัน บัญญัติศัพท์ใหม่จนคนไทย งง กันเอง..จะบ้ากันไปใหญ่แล้วระบบราชการบางส่วนในเมืองไทยของเรา...จัดการระบบตามใจชอบไม่มีประชามติหรือสอบถามสังคมส่วนรวมเลยว่าเหมาะสมหรือไม่... คิดว่าคำที่ตนเองบัญญัติขึ้นนี่ถูกต้องน่าใช้เป็นที่สุด... พวกสมองละมุน  ง่าว แต้ๆเลย    embarrassed7

ถูกต้องครับ อ.

ดีแต่จะเปลี่ยน แห้ว เป็น สมหวัง   เหี้ย เป็น วรนุช


( สังคม คือ หมู่ชน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมด)

สังคมแบบไหนเหรอที่น่ารังเกียจ

สังคมที่เห็นแก่ทางในฝ่ายต่ำ  เห็นดีเห็นชอบในคนที่กระทำชั่วต่อแผ่นดิน

สังคมที่มีแต่พวกขี้  ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้กิน ขาดธรรม  ขาดปัญญาในการนำพาสังคมไปสู่ความดี

แหม..พี่พรเทพ ค่อยๆพิมพ์ก็ได้ครับพี่ เห็นมั๊ยพิมพ์ผิดเลย อิอิ
เอ๊ะ! รึว่าพี่ต้องการจะยิงมุข  :(

 wav!!

ไม่รู้จะบอกไงดี เอาเป็นว่าเราก็พยายามอย่าทำให้สังคมเขารังเกียจเรา ก็แล้วกัน(ไม่ปล่อยมลพิษ ฝุ่น เสียง ขยะ)
แล้วในทางกลับกัน เราก็ต้องทำให้อาชีพของเรา เป็นงานที่มีเกียตร โดย ความซื่อสัตย์ สุจริจ เป็นที่พึ่งของคนอาชีพอื่น เปลี่ยนจากช่างมาเป็นครู
ของน้องๆในบางโอกาส  มีโอกาสก็ช่วยเหลือสังคม ออกหน้าออกตาสักหน่อย ทำไว้เยอะๆ คราวนี้ก็เล่นการเมืองเลย พวกจะได้ยกมือไว้ มีเกียตริ
กับเขาเสียที

อาชีพทุกอาชีพที่ไม่ผิดกฎหมาย เป็นอาชีพที่มีเกียรติ์ทั้งนั้นครับ
คนที่มีความรู้สูงหรือต่ำก็สามารถทำได้ครับ
อย่าไปคิดมากกับความคิดคนอื่น เราทำของเราไปก็แล้วกันครับ

จะสูงต่ำอยู่ที่ทำตัว    จะดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ

 wav!!

ต้องเสียภาษา สังคมรังเกียจด้วยนะ

ผมก้อยังเสียเลยครับ ขนาดไม่ใช่ช่าง:) HAPPY2!!

ช่างซ่อม เป็นอาชีพปิดทองหลังพระ  ผมเป็นข้าราชการ ที่ไม่เคยเลยที่จะส่งเครื่องของทางราชการให้บริษัทตัวแทนจำหน่ายซ่อมเลย สั่งซื้อแต่อะไหล่ที่หาซื้อจากเนตไม่ได้แล้ว   ต้องพยายามทำให้ได้ทุกอย่าง  แม้บางครั้งต้องออกค่าอะไหล่เอง  เพราะระบบราชการไทยจะเบิกค่าอะไหล่ได้ยาก  มีหลายบริษัทที่ต้องปิดตัวเองไปเพราะผม  เคยมีบางบรษัทจ้างเป็นเงินเดือนไม่ให้ซ่อมเอง  แต่ผมก็ไม่เคยที่จะหยุดงานซ่อม  บางครั้งต้องสู้กับข้อกล่าวหาว่า  จะทำให้เครื่องเขาเสียมากไปใหญ่  แต่ผมก็ทนกับคำพูดแบบนี้มาจนชิน และคิดว่าคงทนต่อไปได้  และพยายามสร้างมือใหม่ๆมาแทน  เมื่อเราไม่อยู่หรือปลดระวางแล้ว  การจ้างคนอื่นมาทำงานให้ส่วนราชการ  เป็นการยืมจมูกตนอื่นหายใจ เขาบีบเมื่อไหร่ก็ตาย  อย่างน้อยคนในระบบราชการจะต้องรู้และทำได้เองด้วยครับ  งานซ่อมของผม  ไม่เคยรับของนายมาทำเลย  เขียนไว้หน้าห้องซ่อมว่า  ซ่อมแต่เครื่องราชการเท่านั้น  ..ผู้ใหญ่บางคนนำเครื่องมาให้ซ่อม  ผมบอกว่าทำไม่ได้  เสียเวลา  ขอร้องให้ส่งร้านซ่อม  แม้เครื่องของตัวเอง  ยังไม่นำไปซ่อมที่ทำงานเลยครับ ตอนแรกก็ถูกต่อว่า  นานๆไปทุกคนก็รู้  และเข้าใจครับ

 :(....ครับ..คำนี้ได้พบได้เห็นบ่อยๆ...แต่ผมว่าคนที่คิดคำนี้น่าจะนึกอีกนิดว่าคนที่..เลือกใช้ของที่ให้พวกเราซ่อมนะควรจะเรียกว่าอะไร...( พวกเลือกของที่สังคมรังเกียจได้ไหม..)

ความจริงแล้วอาชีช่างอย่างเราก็เปรียบเหมือนหมอหรือนายแพทย์ที่จะคอยวินิจฉัยและรักษาอาการเสียแต่ผิดกันอย่างเดียวที่ลูกค้ามักจะมาบ่นว่าค่ารักษาแพงลดหน่อยได้ไหม ทีไปหาหมอ แพงเท่าไรก็ไม่บ่นแถมไม่หายอีกต่างหาก
นี่แหละอาชีพช่าง

ผมว่าอาชีพช่างซ่อมมีคนอยากจะทำมากด้วยซ้ำนะครับ ลูกค้าบอกว่าได้เงินดีด้วย ผมว่าเป็นอาชีพที่คนอื่นอิดฉานะครับ

คิดผิดคิดใหม่ได้นะครับ
ไปดูให้ดีๆไปศึกษาให้ดีๆ
ว่าช่างซ่อมรวย จริงหรือเปล่า?
หรือรวยเพราะอาชีพอื่น
หรือรวยเพราะเมีย

(หลายคนเป็นช่างซ่อมแต่ไม่มีเงินซื้อเครื่องมือช่าง ต้องขอเงินเมียไปซื้อ เมียก็รักผัว ซื้อก็ซื้อ(ซื้อสโคป)เมียถามว่า ซื้อเจ้าเครื่องนี้แล้ว ซ่อมเครื่องได้จริงนะ ผัวก็ตอบว่าได้ซ่อมได้ ผมคนนอกจะบอกเมียเขาว่าอย่าไปซื้อ ซื้อไปผัวเองก็ซ่อมไม่ได้อยู่ดี แต่ก็พูดไม่ได้ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าคู่นั่นสบายดีอยู่หรือเปล่า? ซ่อมเครื่องได้หรือเปล่า? หรือไปทำอาชีพอื่นแล้ว  lsv-smile )

สาเหตุที่ผมไม่ซ่อมเครื่องเป็นอาชีพหลักก็เพราะซ่อมแล้วไม่รวย ผมทำอาชีพอื่นรวยกว่าเป็นช่างซ่อมทีวี
และคนที่รวย 99.99% ไม่ได้เป็นช่างครับ และคนที่เป็นหัวหน้าของช่างรวยกว่ากันเยอะ  ที่เหลือไปคิดต่อเองนะ

ไม่รู้สิแต่ที่แน่ๆทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นคนรวยเลยขนาดมีมากกว่าสิบล้านก็ยังไม่รวยเพราะไม่รู้จักรคำว่าพอก็ไม่มีวันรวย

ไม่ใช่รวยแบบนั้น
รวยแบบเมียมีเสื้อผ้าดีๆใส่
รวยแบบเมียมีรองเท้าสวยๆใส่
รวยแบบเมียอยากกินอาหารนอกบ้านเรามีเงินพาเมียไปกิน
รวยแบบเมียยากได้รถสักคันเรามีเงินซื้อให้
รวยแบบเมียอยากบินไปเที่ยวเมืองนอกเรามีเงินให้เธอไป
รวยแบบเมียอยากเสริมสวยเรามีเงินให้เธอไปเสริมสวย
รวยแบบเมีนอยากมีเเหวนเพชรสักวงเรามีเงินซื้อให้
รวยแบบเมียอยากได้บ้านเดียวสักหลังเรามีเงินซื้อ
รวยแบบเมียอยากได้ที่นอนดีๆสักหลังเรามีเงินซื้อให้
รวยแบบเมีนอยากได้ชุดเฟอร์นิเจอร์สวยๆสักชุดเรามีเงินซื้อให้
และฯลฯที่เมียอยากได้เราจัดให้ได้

รวยแบบลูกไม่สบายมีเงินรักษา
รวยแบบมีรถให้ลูกใช้
รวยแบบมีทีวีให้ลูกดู
รวยแบบมีเน็สให้ลูกเล่น
รวยแบบมีคอมดีๆสักเครื่องให้ลูกใช้
รวยแบบมีเงินส่งลูกเรียนจบสูงๆ
และฯลฯที่ลูกควรมี

รวยแบบตัวเองเจ็บป่วยมีเงินรักษา
รวยแบบตัวเองอยากUBCมีเงินติดมีเงินจ่าย
และอื่นๆที่ควรมีครับ

ไม่ใช่ ลูกจะเรียนหนังสือก็ไม่มีเงินส่งเรียน
ไม่ใช่ตัวเองจะดู UBC ยังไม่มีเงินติด
ไม่ใช่ลูกไม่สบายหรือเมียหรือตัวเองไม่สบายไม่มีเงินรักษา
ไม่ใช่ลูกจะเล่นเน็สไม่มีเงินติดให้
ไม่ใช่บ้านสักหลังก็ไม่มี (พ่อแม่หรือผู้อื่นให้มาไม่นับนะ)ต้องซื้อจากเงินซ่อมทีวีหรือรายรับจากงานซ่อมหรือรายรับจากการเป็นช่างนะ ซึ่งไม่ใช่ง่ายเลยที่จะผ่อนได้สักหลัง

ที่เหลือคิดเองนะ

ความภูมิใจครับที่ชาววิศวหรือเรียกว่าช่างซ่อมประกอบอาชืพเเบบสุจริตเเละใช้ความรู้มาสู่สังคม smiley4ผมพูดได้เต็มปากเลยครับพวกเราช่วยสังคมเเละสร้างสรรคสิ่งใหม่ใหม่ให้เกิดขึ้นกับสังคมครับ..ส่วนสังคมรังเกียจอยู่ที่บุคคลมิใช่อาชืพครับ :) smiley4

โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าไม่รังเกียจหรอกครับ  เขาจะมาหาเราทุกครั้ง(ช่างซ่อม)ที่เขามีของเสียครับ  มีของเสียที่บ้านเขา อันดับแรกเขาต้องนึกถึงช่างซ่อมก่อนแหละครับ ส่วนเขาจะซ่อมหรือไม่ซ่อม ก็ปรึกษากับช่างซ่อมอีกนั่นแหละครับ   ผมก็เลยว่าไม่รังเกียจครับ

จากข้อมูลในกระทู้น่าจะตัด ค่าสังคมรังเกียจออกจากใบเสียภาษี หรือพวกพี่ๆคิดว่ายังไง

มีเพื่อนขายแบตตารีก็ไม่ไปเสียภาษีสังคมรังเกียดที่ว่าเพราะมันใช้คำไม่สุภาพเลยไม่ยากจ่ายตังจ่ายไปแสลงใจ

คับผมคิดว่าน่าถ้าจะพูดกันให้ถูก ทุกอาชีพก้อเป็นสังคมมี่น่ารังเกียจด้วยกันทังนั้นนะถ้าคิดกันแบบนั้น จะอาชิพให้ก้อไม่สำคัญมันชึ้นอยูที่จิตสำนีกในงานที่ทำ ไม่ว่าจะต่ำจะสูง จะเดินดินหรือเหาะได้ถ้ามีจิตสำนึกที่ดีแล้วก้อน่าจะเข้าใจกัน แต่ก่อนผมเปิดร้านซ่อมฯ แล้วเจอพิษเศรฐกิจ เลยต้องจรไปเป็นข้าราชการทหาร แต่ด้วยคำว่าช่างมันติดในเส้นเลือด ผมก้อรับซ่อมให้กับชาวบ้านโดยที่เอาค่าแรงนิดหน่อย จนสุดท้ายก้อต้องขอลาออกจากข้าราชการมาเปิดร้านอีก ผมว่าทำงานที่เรารัก มีจิตสำนึกที่ดี ใครจะมองว่าเป็นยังไงตัวเราเองรู้ดีที่สุด..สุดท้ายขอให้เพื่อนๆช่างทุกคนมีแต่ความเจริญฯคับ

ประเด็นนี้น่าจะจบยากถ้าเรามัวแต่แสดงความคิดเห็นตรงนี้ ในความเป็นจริงไม่มีใครรังเกียจอาชีพนี้
มันเป็นเพียงความงี่เง่าของคนที่เขียนระเบียบแบบฟอร์มแบบสิ้นคิดเท่านั้น ควรจะเอาเรื่องนี้ไปให้ตัวแทน
ข้างบ้านฝ่ายนิติบัญญัตไปแก้เสีย ช่วยๆกันบอกช่วยกันคุยกับท่าน สส ตัวแทนประชาชนบ่อยๆ ยิ่งตอน
หาเสียงยิ่งดี เขาจะรับปากทุกเรื่อง ถ้าใครมีโอกาสก็ช่วยๆกันครับ :-X :)

แต่สังคมโรงงานช่างช่อมเป็นที่ไฝ่ฝันสาวๆในโรงงานครับทำใด้ทุกอย่างที่เขาร้องขอถึงเงินเดือนน้อยก็ตาม

ผมไม่เห็นด้วยกำคำที่ว่า ช่างซ่อมเป็นอาชีพที่สังคมรังเกียจ
     การจะมองว่าน่ารังเกียจหรือไม่น่ารังเกียจ เกิดจาก กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของแต่ละบุคคลครับ  คำพูดหรือคำที่บัญญัติขึ้นมาไม่ใช่ตัวตัดสินครับ    ผมเชือ่

เหรียญมีสองด้านครับแล้วแต่มุมมองครับ เช่น มี"ร้านขายยา"มาเปิดข้างบ้าน ถ้ามองโลกแง่ดีจะคิดว่าดีนะปวดหัวตัวร้อนจะได้อาศัย ถ้ามองแง่ร้ายเจ้าของร้านขายยาไม่น่าครบเพราะ"วันๆ"เช่งแต่คนให้ไม่สบายจะได้ขายยา สรุป"จะดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวตน"ไม่ใช่ปากคนครับ ขอให้อาชีพช่างจงเจริญ

ร้ายจริงๆร้ายมากๆเลย
บาปอีกต่างหาก

คุณรู้ได้อย่างไรว่า เจ้าของร้าน เช่งแต่คนให้ไม่สบาย แค่คุณคิดก็บาปแล้ว คนที่คิดแบบนี้ไม่มีวันเจริญได้เลย เรียกว่าคนจิตใจต่ำ

    รังเกียจ  ก็ปล่อยเขาเถอะ   ยกมาให้ผมซ่อมเถอะครับ เทศบาล   ผมจะซ่อมให้ หายรังเกียจเลย  laugh2