LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

..วันนี้ได้รับโทรศัพท์ตั้งแต่เช้า "..มาช่วยผมทีต้า(คนใต้มักมีคำลงท้ายคำพูดว่าต้าา ... นิ...) รถติดหล่ม ...แข่บๆหิดนะ หิวข้าว :o...."

  เสียงโทรจากน้องติ๊ก เสี่ยรถไถแห่งท่าพญา เพื่อนซี้น้องชายผม โทรขอความช่วยเหลือมา ..ผมกับน้องชายเลือกว่าจะเอารถอีแต๋นทรงพลัง หรือจะเอารถคูโบต้าคันใหม่ที่สวนไปช่วยเหลือดี  :(

 ..ในที่สุดตกลงว่าจะเอาคูโบต้าคันใหม่ไปช่วย เพราะน่าจะมีพลังมากกว่า  HAPPY2!!

..10กว่ากิโล ทีมเราบุกป่าฝ่าทุ่งหญ้าอันหนาทึบ แหวกพงหญ้าสูงด้วยคูโบต้าL4508DI เจอรถคูโบต้ารุ่นM5000ของน้องติ๊ก นอนพักอย่างสงบ..ยอมแพ้ต่อดินโคลนที่เหนียวหนึบกว่าดินน้ำมัน ... น้องติ๊กรับงานไถนาด้วยราคาไร่ละ250.-ซึ่งเป็นราคารับจ้างไถนาที่ปากพนังครับ  HAPPY2!!

น้องชายผมเดินดูรอบรถประมาณ2รอบครึ่ง ... แล้วหัวเราะเสียงดัง ..งานหมูๆ ดึงอึ๊บเดียวก็ขึ้นแล้วนิ  ;D

..เสี่ยติ๊ก(เสื้อสีฟ้า) เป็นคนร่าเริง,ขยัน,สู้งานสุดๆ... ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง สร้างตัวจากการลงทุนซื้อรถแบคโฮมารับจ้างขุดบ่อกุ้งตลอดจนงานทั่วๆไป ในอัตราชั่วโมงละ1,500.- 4ปีผ่านมา กิจการก้าวหน้าสำเร็จด้วยดี ..นำเม็ดเงินจากแบคโฮคันแรกซื้อรถแบคโฮเพิ่มอีกคัน ..ราคารถแบคโฮรวมทั้ง2คัน มากกว่า5ล้านบาท เป็นรถใหม่เอื่ยมถอดด้าม น้องติ๊กบอกว่าปัญหาไม่จุกจิกเหมือนรถมือสอง เพราะรถแบคโฮนี่ถ้าเสียขึ้นมาค่าซ่อม-ค่าอะไหล่แพงมากกกก ...
   นอกจากนั้นยังซื้อบ้านหลังใหม่พร้อมที่ดินหมดไปอีกหลายล้าน ..รถคูโบต้ารุ่นM5000คันใหม่ก็ซื้อด้วยหยาดเหงื่อที่ได้จากแบคโฮเช่นกัน  น้องติ๊กบอกว่าเงินที่ได้จากแบคโฮได้เป็นก้อนดีกว่ารถรับจ้างไถนา แต่ต้องรับทุกอย่างให้ครบวงจร ..เป็นการดึงลูกค้าให้มาใช้บริการได้ทุกงาน ไม่ต้องวิ่งไปหลายที่ รายได้โดยเฉลี่ยของน้องติ๊กตกเดือนละ5แสนบาททีเดียว รถแบคโฮมีงานทุกวันทำแทบไม่ทัน... วันหน้าโอกาสดีผมจะไปสัมภาษณ์อย่างละเอียด พวกเราชาวLSVคงได้รับความรู้ใหม่ๆในอาชีพและความรู้ด้านนี้กันอีกเยอะ 

.. ค่าช่างจากบริษัทเดินทางมาซ่อมรถ แม้ว่าน๊อตจะหลุดเพียงตัวเดียวก็คิดค่าแรง3,000.-บาทเป็นขั้นต้น ค่าอะไหล่ต่างหาก(เดินทางมาเพียง30ก.ม.) ... ค่าอะไหล่ก็ไม่ได้ถูกๆแบบขี้ไก่นะ เช่นปั๊มไฮดรอลิคตัวนึงตก2แสนกว่า แต่ก็ไม่ได้เสียบ่อยหากคนขับหมั่นดูแลน้ำมันหล่อลื่นอย่าให้ขาด ..ยิ่งคุยกับน้องติ๊ก ยิ่งได้ความรู้ ..ผมชอบนะคนที่เปิดเผย จริงใจแบบนี้  smiley4

...ผมขึ้นไปดูหน้าตาภายในM5000ว่าต่างกับL4508Dมากไหม ..เพราะคูโบต้าM5000ขับเคลื่อนสี่ล้อ ในปัจจุบันเป็นรถไถนายอดฮิตของปากพนัง ข่าวว่าเป็นรถแรงดี กินน้ำมันน้อย ใช้คุ้ม ..ต่างกับสมัยก่อนจะใช้รถไถนาคันใหญ่ยี่ห้อฟอร์ดขับเคลื่อน2ล้อเป็นหลัก

.. หน้าตาก็ไม่ต่างกันมาก คงแตกต่างกันที่แรงม้าครับ .. ที่คันเร่งมือมีกระต่ายกับเต่า ใครเก่งเรื่องนี้อธิบายที อิๆ  HAPPY2!!

 

แดดยิ่งร้อนแรงเพราะที่ปากพนังมีพระอาทิตย์ตั้ง2ดวง ...  ;D
  รอช้าไม่ได้เดี๋ยวโดนแดดตัวดำ ดึงกันเลยดีกว่า .. ท่าแรกดึงตามกันครับ คันหน้าเข้าเกียร์โลว์ ใช้เกียร์2ไม่ใช่เกียร์1แบบรถปิคอัพนะครับ เพราะเกียร์1สปีดจะช้าไปครับ  HAPPY2!!

..ท่าที่1หมดแรงข้าวต้ม  embarrassed7

..เปลี่ยนเป็นท่าที่2แทน M5000จะถอยหลังขึ้นจากหล่ม.. ท่านี้หันหน้าจานดันดินชนกัน เสียวหักจังวุ๊ยย .!!  HAPPY2!!

.. ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ต่างคนต่างงัดวิทยายุทธมาใช้จนหมดพุง รถมีกี่แรงม้าก็รีดมาจนหมด..ดึงกันไป ดึงกันมารถแทบยกล้อ ดินแถวนั้นเละเป็นสระน้ำขนาดย่อม..ไม่ขึ้นแฮะ ..ที่สำมะคัญ รถผมติดหล่มอีกคัน ..รวมความแล้วมีหวังกินข้าวลิงแน่ๆทั้ง2คัน  :'(

  ..เพิ่งได้รับความรู้ใหม่เพิ่มอีก รถไถนาประเภทนี้ชอบดินโคลนที่มีน้ำขังรวมอยู่ด้วยลุยไหนลุยกัน... ไม่ชอบโคลนไม่มีน้ำ เพราะดอกยางจะตันไม่มีแรงตะกุย... อืมม์ ท่าจะจริง  :(

..ในที่สุดคงเดือดร้อนถึงเจ้าแบคโฮอีกแล้ว น้องติ๊กโทรไปขอกำลังหนับหนุนจากแบคโฮอีกคัน "... ฮ่าๆๆ มาช่วยทีต่ะ รถตู รถป๊อด ติดโคลนกันเหม็ดแร้ว ตูขี้คร้านเดินหลบบ้าน เอิ๊กๆๆ "

  สรุปแล้วลงท้ายด้วยแบคโฮทรงพลังดันเบาๆเหมือนเอานิ้วดันรถเด็กเล่น... รถคูโบต้าทั้ง2คันจึงรอดจากท้องนามหากาฬแห่งนี้ไปได้ เสียดายที่แบตหมดจึงไม่ได้รูปสวยๆมาฝากเพิ่มเติม ... ไม่มีปัญหาครับ ผมบอกน้องติ๊กไว้แล้วว่าถ้ามีเรื่องตื่นเต้นๆของแบคโฮ อย่าลืมกริ้งกร๊างมาบอกกันบ้าง จะไปทำข่าวให้ น้องติ๊กบอกว่าได้เลย... อิๆ  smiley4

...นิทาน เอ้ย.. เรื่องจริงผ่านเว็บเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าไม่อยากกินข้าวลิง อย่าใช้คูโบต้าลากคูโบต้าเชียวนะ ...  :o

  ..แซวเล่นนะ เผื่อบ.คูโบต้ามาอ่านเจอ .. คูโบต้าของเค้าดีจริงๆนะจะบอกหั้ย อิๆ    HAPPY2!! THANK!!

สวัดดีครับพี่เล็ก            ผมเคยขับรถไถฟอร์ด 2 เพลา  เพราะที่บ้านพ่อมีเอง    พอเป็นงานนะ   แต่ไม่ช่ำชองเท่าไหร่    แต่คูโบต้าได้ข่าวว่าแรงดีมากๆ          ของฟอร์ด  จะใช้  คำว่า   L กับ H   ไม่มีกระต่าย กับเต่า       แต่ก็ขำๆดีๆ        ใช้สัตว์เป็นสัญญลักษณ์   ผมเองก็เคยขับติดแบบนี้เหมือนกัน                      แต่ติดแบบในภาพคงเหนื่อยแหละครับ       รอพี่เล็กเล่าต่อว่าจะใช้วิธีไหนถึงจะขึ้น   ผมคำตอบอยู่ในใจแล้วแต่จะรอว่าเหมือนที่ผมคิดหรือเปล่าครับ

หวัดดีครับ น้องใหม่ชะอำ ..  HAPPY2!!
  กระทู้ชนกัน ไปเฉลยซะแล้ว อิๆ  :o

.. ถ้าเพื่อนๆเจอปัญหาตรงนี้ หากไม่มีรถคันที่3มาช่วย จะแก้ปัญหาอย่างนี้ได้ยังไงครับ เพราะผมคงจะเจอด้วยตัวเองซักวันเป็นแน่แท้  :D HAPPY2!!

ครับ   คำตอบเดียวกันเลย    ต้องใช้แบคโฮ     เพราะดินมันเป็นดินเหนียวมันเกาะดอกมันลื่น     แต่ถ้าตอนมันติดหล่มนิดหน่อยที่ผมใช้ คือยกหางขึ้น  วิ่งข้ามไปก่อน   ดินเหลวถ้าปล่อยให้ล้อฟรี 4 ล้อเลยก็จะเหนื่อยมากแหละครับ

ปัญหานี้เอาไว้ฝากเพื่อนๆ ผมเคยติดอดข้าวเหมือนกัน หาโซ่เส้นใหญ่ๆยาวสัก2เมตรติดบ้านไว้ รถไปห่างบ้าน
ต้องเอาติดไปด้วย ถ้ารู้ว่าติดแน่หยุดดิ้น หาเสาไม้ยาวสัก1เมตร เอาขนาดรับน้ำหนักรถได้ เส้นผ่าศูนย์กลาง5-6นิ้ว
ไม้แข็งๆนะครับ สอดเข้าด้านหน้าล้อหลังแล้วใช้โซ่มัดติดขวางล้อ( ล้อยโซ่กับรูวงล้อผ่านไม้ที่ขวางล้อ) โซ่ต้องขนาด
3-4หุนนะครับจึงจะเอาอยู่ ผมใช้กับฟอร์ดสบายครับ แยกเบรคออกเป็น2ข้าง เหยียบข้างที่ไม่มีไม้ไว้ไม่ให้หมุน มัน
จะยกตัวมันขึ้นบนไม้อย่างง่ายดาย ลองดูครับ ;) HAPPY2!!

หาเสาไม้ยาวสัก1เมตร เอาขนาดรับน้ำหนักรถได้ เส้นผ่าศูนย์กลาง5-6นิ้ว
ไม้แข็งๆนะครับ สอดเข้าด้านหน้าล้อหลังแล้วใช้โซ่มัดติดขวางล้อ( ล้อยโซ่กับรูวงล้อผ่านไม้ที่ขวางล้อ) โซ่ต้องขนาด
3-4หุนนะครับจึงจะเอาอยู่ ผมใช้กับฟอร์ดสบายครับ แยกเบรคออกเป็น2ข้าง เหยียบข้างที่ไม่มีไม้ไว้ไม่ให้หมุน มัน
จะยกตัวมันขึ้นบนไม้อย่างง่ายดาย

..เยี่ยมครับ คราวหน้า(ไม่อยากจะเจอ) จะขอลองสูตรนี้บ้าง   :D smiley4

.. รถติดขนาดนี้ผมคิดว่าพี่ช้างน่าจะดึงขึ้นสบายๆนะครับ ... สงสัยว่าต้องหาช้างมาเลี้ยงไว้ซักเชือกดีกว่า ..เอาไว้รับจ้างดึงรถติดหล่ม ..หารายได้เสริม อิๆ  HAPPY2!! :o

ผมมีแต่เครนรถไถ่ไม่มี แต่วิธีของผมคือยกแขนหน้าขึ้นหาขอนไม้มารองครับ :)

แต่วิธีของผมคือยกแขนหน้าขึ้นหาขอนไม้มารองครับ

..รองลักษณะไหนครับ ใช้ขอนไม้กี่อัน ยาวไหม ..ขึ้นแน่นะ .... ถามเยอะจัง แหะๆๆ   :o :D HAPPY2!!

เอาผาลหลังออกแล้ว จะขึ้นง่ายกว่าครับ แต่คนขับคนแรกสอบตก ที่ปล่อยให้รถตะกุยดินจนจมขนาดนั้น ถ้ารู้ว่าจะไปไม่รอด ก็ยกผาลขึ้นถอยออกมา ถ้าไถที่ลุ่มต้องคอยเลี้ยงไฮโดร์ลิคผาลด้วย เจอดินนิ่มผาลจะจมไปมิดเลย ทำให้รถหนักมากขึ้น รถก็จะจมขี้เลนลงไปอีกด้วย ถ้าฝืน ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจม พอจมแล้วดินจะยัดดอกยางทำให้เป็นยางหัวโลน บวกกับดินที่เกาะติดกับล้อทำให้มีน้ำหนักมากเพิ่มขึ้นอีก และค้ำท้องรถอีก ค้ำผาล ทีนี้ก็งานเข้าอย่างที่เป็นหละครับ

..นั่นสิ ..เขาคงคิดว่ารถน่าจะเอาไหว และไม่อยากใส่ผาลเข้าไปใหม่เพราะตัดหญ้ากลางทุ่งคนเดียว ใส่ผาลกลางโคลนเลนอาจยุ่งยาก ..เพิ่งมาถอดชุดผาลออกตอนติดหล่มซะแล้ว อิๆ  HAPPY2!!

สุดยอดเลยครับ
ช่างเล็กๆ laugh2

พี่ๆครับผมดูจากรูปก็หนักเอาการอยู่แต่แถวบ้านผมใช้โซ่วินขึ้นนะครับ คือเอารถไถนาที่ติดล้อเหล็กวิ่งไปจอดข้างหน้าใช้โซ่ยาวหน่อยเกาะล้อหลังของรถไถใหญ่แล้วเลี้ยงโซ้ให้วิ่งไปตรงกลางล้อ พอโซ่หมุนลงดินไปก็หยุดแล้วเอาอีกปลายด้านหนึ่งของโซ่ไปเกาะกับรถไถที่เอามาจอดข้างหน้า ล็อกเพลาวิ่งไต่โซ่ขึ้นครับ

ง่ายที่สุดก็ถอดผานไถก่อนละคับ (ถ้ามีสมากชิกมุงเยอะนะคับเพราะเวลาใส่เล่นเอาเหงื่อตกอิอิ)จากนั้นคันที่ลากให้หันหน้ารถใส่กันโดยคันที่ลากถอยหลัง คูโบต้าแรงดีอยู่แล้วคับ ผม l 34 ลาก m70 มาแล้วคับ อิอิ

นี่ละเรื่องใหญ่ของรถ ไถนาและปั่นนาแถวขอนแก่นบ้านผม จะไปรับจ้างคันเดียวจะเสี่ยงมากถ้าติดจะต้องดึงทันที่ เขาจะไปกันเป็นคู่