LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

..เพิ่งกลับมาพักผ่อนเพียงวันเดียว ก็มาส่งการบ้านเลยครับ ...ช่วยติกันเยอะๆนะครับ ผมจะได้ทราบจุดบกพร่อง ..  :P :D...น้องหนูผู้น่ารักที่หมู่บ้านปากะยอ ...
ภาพนี้ใช้ ISO200 โหมด M ...F4.5 ...แต่ทำไมมีnoiseติดมาบานเลย อิๆ  :( ???

หลังจากชั่งใจว่าจะเที่ยวสงกรานต์แถวๆคูเมืองเชียงใหม่ หรือเที่ยวรอบนอกดี ... ในที่สุดด้วยมติ 4 ต่อ1 ว่าไปเที่ยวหมู่บ้านรอบนอกที่ยังมีสิ่งดีๆบริสุทธิ์ น่าสัมผัส กันดีกว่า ....
...เริ่มเดินทางประมาณ 7 โมงเช้า บนเส้นทางเชียงใหม่- ลำพูน - ลี้ ..  ::)
ภาพนี้น้องbee เป็นผู้ถ่าย ..ตั้งF8 โหมด M เพราะเคยลองตั้งAUTOแล้วแฟลชจะทำงาน แสงจะสะท้อนกระจกหน้ารถ จับภาพที่ต้องการได้ไม่ดี  ???

เส้นทางลำพูน-ลี้ ...ยากนักที่จะหลบหลีกกลุ่มผู้ที่รักการสาดน้ำยิ่งกว่าชีวิต ... :( ??? ;D

เลยตลาดอ.ลี้ ไปอีกไม่ไกล ..เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่หมู่บ้านกองวะ..เมืองในหุบเขาเป็นอันดับแรก

ทิวทัศน์หุบเขา หลายลูก เรียงราย ทับซ้อนละเหลื่อมกันเบื้องล่าง ..สวยงามมากครับ  kiss6

โชคดีหน่อยครับที่มี น้องชัย ผู้นำเที่ยวกิตติมศักดิ์....น้องเค้าทำมาค้าขายเกี่ยวกับฟาร์มวัว..พืชไร่ ...   :D :P

ที่กองวะ ..ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ ..เลี้ยงวัวเป็นหลัก
..แต่เท่าที่สอบถามดู แทบไม่น่าเชื่อนะครับ ชาวบ้านโดนผลกระทบ เอฟ.ที.เอ. ไทย-ออสเตรเลียเหมือนกันที่สินค้าเนื้อวัวจากออสเตรเลียมาตีตลาดไทย ทำให้วัวสภาพนี้เมื่อก่อนตัวละหมื่นกว่า เหลือเพียงตัวละ 6-7,000 บาทเท่านั้น ... ต้องเลี้ยงดูกันหลายปีทีเดียวกว่าจะได้ตัวโตขนาดนี้  :( :'(

ลูกวัวเพิ่งเกิดได้ไม่ถึงเดือน ราคาซื้อขายอยู่ที่2 - 3,000 บาท ... ???

เด็กน้อยชาวปากะยอ ยุคพัฒนา ..ไม่นิยมใส่ชุดชาวเขาที่แสนสวย ..  :(    หันมาใส่เสื้อยืดแบบเราๆ ...ยืนมองผู้มาเยือนข้างโอ่งน้ำขนาดยักษ์ ที่ชาวบ้านจำเป็นต้องเก็บน้ำฝนทุกหยาดหยดเอาไว้ดื่มกิน ...เพราะบ่อน้ำตามธรรมชาติมีแร่หินปูนอยู่เยอะทำให้เกิดโรคนิ่ว  ???

ส่วนเด็กน้อยปากะยอคนนี้ ..ทันสมัยกว่า ... ดูสีผมสิ อิๆ  ;D :P

น้องหนูอีกคน กำลังเป่าฟองสบู่เล่น ...โดยใช้ต้นไม้ตามธรรมชาติ ...ยางของก้านใบต้นสบู่ดำ ...  :(  เพิ่งรู้นะเนี่ย  :-X :P

..ผมถ่ายรูปเด็กๆในหมู่บ้านกองวะ ไปหลายสิบรูปด้วยความรู้สึกว่าเป็นภาพที่งดงามไร้มายามาแต่งเติม.. ..แปลกดีครับก่อนเล่นกล้องไม่เคยมีความรู้สึกดีๆเช่นนี้ มาก่อนเลย... :-X :P

ขอเล่นด้วยคนนะ.... อย่าเพิ่งหัวเราะจิคับ  ;D  ???

..เค้า เล่น อะ ไร กัน ...  :(  :P

ร้อนนัก...พักเล่นน้ำ อิ ๆ  :-[

คุณยายแอบมอง ..อิๆ  ??? :P

ปากะยอ เป็นชนเผ่าที่รักความสงบ ทำมาหากินอยู่กับธรรมชาติเป็นหลักเช่น.. ปลูกไร่ข้าวโพด ถั่วเหลือง  ทำไม้ ..แต่ในปัจจุบันเริ่มมีนายทุนมากว้านซื้อที่ดินปลูกสวนยางกันบ้างแล้ว ..  :(

ปากะยอสาวท่านนี้ตามผมไปถ่ายรูปเธอและลูกสาว ... ระหว่างกำลังแต่งตัวให้ลูกสาว ผมหามุมเหมาะๆเก็บภาพ "ความรักของแม่ .."  :)

พี่เล็ก ถ่ายทอดอารมณ์ของภาพได้ดีมากเลยครับ  :)

ใช่ครับ ได้จินตนาการดีมาก ชอบมากเลย ไม่ต้องเล่าเรื่องก็นึกออก ;D :D :)

ผมถ่ายไปเรื่อยๆครับ เพราะชาวบ้านแถวนั้นให้ความร่วมมือดีมากๆ ...มีหลายตอนที่ถ่ายทำและนำมาลงไม่ได้ เช่นอาหารการกินบางชนิด หรือภาพในป่าไม้ .... เพราะอาจจะกระทบกระเทือนถึงผู้ที่อยู่ในภาพได้  ???
... บ้านชาวปากะยอสมัยนี้มักจะใช้หลังคาเป็นกระเบื้อง ... ขืนใช้สังกะสีมุงก็เหมือนอยู่ในเตาอบ  ..ส่วนไม้ฝาบ้านแต่ละแผ่นดูเอาเองครับ ...  :P ???

บางบ้านจะมีทางเลี่ยงไม่ใช้สังกะสี  จะใช้ใบตองตึงหรือใบหญ้าคามาเรียงร้อยเป็นแผ่นกันแดดกันฝน .. ???

ไม้ไผ่ที่หมูบ้านกองวะ มีมากมาย ..ใช้มาทำไม้คร่าวหลังคาได้เป็นอย่างดี  ???

ชายหนุ่มในหมู่บ้านนิยมไปหางานทำในตัวเมือง ...เหลือเพียงเด็กๆและผู้เฒ่าคอยเฝ้าญาติๆมาเยี่ยมเยือนในวันปีใหม่เมือง  :( ???

วันที่รอคอยมาถึง ... ยิ้มให้กับการมาเยี่ยมเยียนของลูกหลาน ...  :P :)

วันนี้แดดไม่ร้อนมากนัก ...จุดหมายต่อไปคือพระบาทดอยถ้ำ  ???

ท่ามกลางเนินเขาและป่าไม้ที่อยู่ในฤดูผลัดใบ...คณะเราออกเดินทางประมาณ 4 โมงเย็นก็ทัน เพราะพระบาทดอยถ้ำอยู่ห่างจากที่พักประมาณ3 ก.ม.เท่านั้น   :P

เส้นทางขึ้นดอยถ้ำชันมากครับ ประมาณ 30 องศากระมัง ... รถผมเข้าเกียร์ 1 ล้อหมุนฟรีกลิ่นยางไหม้..ครัชไหม้.. ยังขึ้นไม่ได้เลย  รถจะถอยหลังลงเขาท่าเดียวเป็นที่น่าหวาดเสียวและเร้าใจมาก ..อิๆ  ;D ) .
.จำต้องจอดทิ้งไว้ล่างเชิงเขา ต้องเดินเท้าขึ้นไปครับ

ระหว่างทางเจอไฟป่า  ....ต้นไม้ใหญ่ๆยังทนไม่ไหว หักโค่นหลายต้น ..น่าเสียดายมาก  :( ???

สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นลีลาวดี ที่กำลังแตกดอกบานสะพรั่ง หลากสี.. ???
...ถ่ายมาตั้งหลายรูปเพิ่งจับจุดได้ครับ อิๆ   ;D   ..หากต้องการแสงนิ่มๆ ตั้ง F ไว้ที่ 6.3กำลังสวย ...
รูปนี้เปิดหน้ากล้องมากไป F 4.5 หลังละลายแต่ทำให้ภาพมีnoise ..  :(

เดินพอปวดน่อง ...เทียบกับทางเรียบคงใช้แรงขาประมาณ3ก.ม.  :P

ชุ้มประตูทำจากไม้สักทอง กำลังก่อสร้างพร้อมวิหารหลังใหม่ ... ???

ราชสีห์เฝ้าปากทางขึ้นพระบาท .. ???

ยอดฉัตรประดับไว้ปากทางเข้า ได้รับศิลปกรรมจากพม่า ..เพราะสมัยก่อนเมืองเชียงใหม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ... ???

นรชาติ ติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอิน-ทรีย์ สถิตทั่ว แต่ชั่ว ดี ประดับไว้ ใน โล กา   :)
..วันนี้คุณทำความดีเพื่อสังคมแล้วหรือยัง ...  :P

ส่วนหางของนาคราช เป็นเช่นนี้เอง  :( ???

บริเวณพระพุทธบาทจำลอง ติดริมหน้าผาสูงลิบ .. ???

.. ???

ฝาผนังที่วิจิตรสวยงาม... ???

รอยพระพุทธบาทจำลอง ที่แกะสลักในหินทั้งก้อน ...  ???

องค์พระพุทธรูปเรียงรายรอบรอยพระพุทธบาท ... ???

ในสัปดาห์นี้เห็ดถอบกำลังออก ...ท่านใดจะไปเก็บเห็ดถอบก็นัดพบกันได้ที่หมู่บ้านกองวะ แถวๆวัดดอยถ้ำนะครับ ผมจะไปอีกครั้ง อิๆ .. :P :)

เห็นแล้วน้ำลายไหล เอามาแกงกะผัดนะ อร่อยเด็ด  :P
นึกถึงสมัยสำรวจงานอยู่ที่ลี้  แอบแว๊บไปนั่งหาเห็ดถอบกัน
วิ่งรถสำรวจงานผ่านชาวบ้านกำลังเดินดุ่มๆ ในป่าหาอะไรหว่า.. ชักสงสัย :(

เห็ดถอบทำอะไรก็อร่อยครับ ...  :-X
..ผมชอบเอามาต้มกับเกลือก็อร่อยพุงกางแล้วครับ อิๆ  :P
..ผมให้เบอร์โทรผมไว้ที่ชาวบ้านกองวะแล้ว เห็ดถอบออกเมื่อไร เป็นได้กริ๊งมาครับ ..ชาวบ้านเขารู้เเหล่งเห็ดออก.. ไม่พลาดแน่นอนงานนี้  :-[

เห็ดถอบนี่หน้าตาเป็นยังไงเหรอครับ

น่าตาเห็ดถอบครับ ที่จริงมันไม่สีดำขนาดนี้นะ ออกเทาๆ หน่อย ยกเว้นตอนเก็บมาอาจมีดินติดบ้าง


(http://kanchanapisek.or.th/kp8////cem/cem71101.gif)



(http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/pict/ID_5068.jpg)

ที่มารูปล่าง : annaworld.com (http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=5068)



ชื่อพื้นบ้าน​ ​เห็ดถอบ​ (เห็ดเผาะ)
    ​เห็ดถอบ​หรือ​เห็ดเผาะ​ ​เป็น​เห็ดพื้นบ้านที่ขี้นบางท้องที่​โดย​เฉพาะ​ใน​เขตภาคเหนือ​และ​ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ ​หรือ​บริ​เวณ​ ​ที่​เป็น​ป่า​โปร่ง​ ​เห็ดเผาะชอบขึ้นตามพื้นดินที่​อยู่​ใต้​โคนไม้ที่ถูกไฟเผา​ ​เช่น​ ​ไม้​เต็ง​ ​ไม้พะยอม​ ​และ​มักชอบขึ้น​ใน​ป่า​โปร่ง​ ​ป่า​แพะ​ ​ตามพจนานุกรม​ฉบับ​ราชบัณฑิตยสถาน​ฉบับ​ ๒๕๒๕ ​จัดเห็ดเผาะ​ไว้​ใน​กลุ่มผักชนิดหนึ่งที่ขึ้น​ใน​ดิน​ ​เห็ดชนิดนี้​จะ​ออก​ใน​ ​เดือนพฤษภาคมปีละครั้ง
    ​ลักษณะ
    ​เห็ดเผาะมีลักษณะ​เป็น​ลูกกลมๆ​ ​ไม่​มีลำ​ต้น​ ​ไม่​มีราก​ ​ชอบขึ้นตามดินร่วนที่ถูกไฟไหม้​ ​เห็ดที่​ยัง​อ่อน​อยู่​มีสีขาวนวล​ ​ส่วน​เปลือกนอกรอบ​ ​ห่อหุ้มสปอร์สีขาวนวล​ ​เห็ดแก่​เปลือก​เป็น​สีน้ำ​ตาล​ถึง​สีดำ​ ​ส่วน​สปอร์ข้าง​ใน​ก็​เป็น​สีดำ​ด้วย​ ​้า​แก่มากๆ​ ​เปลือกเห็ด​จะ​ ​แตกออก​เป็น​แฉกรูปดาวเห็นสปอร์ข้าง​ใน
    วิธี​เก็บเห็ดเผาะ
    ​ชาวบ้านมี​เครื่องมือเก็บเห็ดชนิดนี้​โดย​เฉพาะ​ ​บางคนทำ​เครื่องมือถาวร​ ​คือ​ ​ทำ​เป็น​ขอเหล็ก​ ​ส่วน​ด้าม​เป็น​ไม้ยาวประมาณ​ ๑ ​ศอก​ ​บางคน​ใช้​กิ่งไม้ที่มีลักษณะ​เป็น​ขอเกี่ยวก็​ได้​ ​เวลาหา​เห็ดชนิดนี้​ต้อง​มองหาตามโคนต้นไม้​ ​ตอไม้ที่ถูกไฟไหม้​ ​เห็ด​จะ​โผล่ดินขึ้นมา​ ​ให้​มองเห็น​ ​คนหา​เห็ด​จะ​ใช้​ขอเหล็ก​หรือ​ขอไม้ขูดไปตามดิน​ ​ต้อง​ระมัดระวัง​ไม่​ให้​ขอไปถูกเห็ด​ต้อง​พยายาม​ให้​ได้​เห็ดที่​เป็น​ลูกสมบูรณ์​ ​เห็ดชนิดนี้ขึ้น​เป็น​หย่อม​ ​ถ้า​ขึ้นตรงไหนคนเก็บเห็ด​จะ​จำ​ได้​ปีต่อไปก็​จะ​ไปหาตรงที่​เดิม​
    ​ภาชนะที่​ใช้​ใส่​เห็ดก็คือ​ ​ใบพลวงทำ​เป็น​กรวย​ ​เมื่อเก็บเห็ด​ได้​พอสมควรก็​จะ​เย็บปากกรวย​ด้วย​กิ่งไม้​เล็กๆ​ ​แล้ว​จะ​ทำ​กรวย​ ​ใหม่​และ​หาต่อไป​ ​วิธีนี้​จะ​ช่วย​ให้​เห็ดสด​และ​ไม่​แก่​เร็ว​ ​เห็ดชนิดนี้​ถ้า​ถูกแดดถูกลม​จะ​ทำ​ให้​แก่​เร็ว​ ​คน​ไม่​นิยมรับประทาน​เพราะ​เปลือก​ ​ที่หุ้มสปอร์​จะ​เหนียวมาก
    วิธีรับประทาน
    ​เห็ดเผาะ​เป็น​เห็ดที่​สามารถ​รับประทาน​ได้​ทั้ง​ดิบๆ​ ​และ​ทำ​ให้​สุก​แล้ว​ ​ถ้า​เป็น​เห็ดอ่อนล้าง​ให้​สะอาด​แล้ว​รับประทาน​โดย​ ​จิ้มน้ำ​พริกตา​แดง​ ​นอก​จาก​นั้น​ยัง​สามารถ​นำ​มาผัด​และ​แกงคั่ว​ใส่​หน่อไม้ดอง​ ​หรือ​ผัดเฉพาะ​เห็ดล้วนๆ​ ​ก็อร่อย​ ​นอก​จาก​การรับประทาน​ ​โดย​วิธีดังกล่าว​แล้ว​ ​ยัง​ต้ม​ใส่​เกลือ​ให้​มีรสเค็ม​ ​คนพื้นเมืองเหนือนิยมแกง​ใส่​ใบบ่า​เหม้า​ซึ่ง​ขึ้นตามป่ามีรสออกเปรี้ยวๆ​ ​เห็ดชนิดนี้​ ​ถ้า​ต้มเค็ม​ไม่​นิยมหั่น​หรือ​ซอย​จะ​ต้ม​ทั้ง​ลูก​ ​แต่​ถ้า​แกง​หรือ​ผัด​จะ​ซอย​เป็น​ชิ้นบางๆ​
    ​ช่วงที่​เห็ดชนิดนี้ออก​ใหม่ๆ​ ​ราคา​จะ​สูงมาก​ ​ราคาลิตรละประมาณ​ ๑๐๐ ​บาท​ ​ราคา​จะ​ลดลงเมื่อเห็ดออกชุก​ ​คือช่วง​ ​เดือนพฤษภาคมประมาณลิตรละ​ ๑๕ ​บาท​ ​ชาวบ้านมัก​จะ​ทิ้งงาน​อื่น​ไปหา​เห็ดมาขายแทน​ ​เนื่อง​จาก​เห็ดเผาะออกช่วงเวลาสั้นๆ​ ​คนนิยมรับประทานขณะที่​ยัง​อ่อนๆ​ ​เท่า​นั้น​
    ​เห็ดเผาะ​ไม่​สามารถ​เพาะ​ได้​ ​เป็น​เห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ​ ​จึง​ทำ​ให้​เห็ดเผาะ​เป็น​พืชเศรษฐกิจที่ทำ​ราย​ได้​ให้​กับ​คนที่​ไปหา​เห็ด​ ​ซึ่ง​มีราย​ได้​จาก​การขายเห็ดเฉลี่ย​แล้ว​ไม่​ต่ำ​กว่าร้อยบาทต่อวัน​แล้ว​แต่​จะ​หา​ได้​มาก​หรือ​น้อย​
    Home Page โครงการสื่อปฏิสัมพันธ์ของชาติสถานที่สำคัญ



ที่มา : พืชพื้นบ้าน​ เห็ดถอบ​  (http://kanchanapisek.or.th/kp8////cem/cem711a.html)

ตะกี้ไปตลาดแม่โจ้ ...เห็ดถอบเริ่มนำมาวางขายแล้วครับ ตกลิตรละ150บาท ขาดตัว .... :'(
..ไม่มีปัญญาหาซื้อครับ ไปขุดหาเองดีกว่า ..ขุดเสร็จจะเลยไปทำบุญไหว้พระด้วยครับ ;D

กระเป๋านมละ 150 บาทก็ราคาปกติทั่วไป   80-100 นี่ต้องในพื้นที่จริงๆ
ใครที่หาไม่เป็นกว่าจะเต็มกระป๋องก็เล่นเอาเหนื่อย
ผมว่าค่าน้ำมันพี่ไปกลับจะแพงกว่ารึเปล่าครับ  :P

ค่าน้ำมันประมาณ900 ครับแต่ก็คุ้มกับความสุขเล็กๆน้อยๆของครอบครัวที่ได้เดินป่า ...และพักผ่อนในยามนี้ครับ  :P

เพียงขึ้นไปไหว้พระก็คุ้มค่าเหนื่อยแล้วครับ ...เห็ดถอบเป็นของแถม  :P
... ขากลับเที่ยวที่แล้วผมได้รับวัตถุมงคลจากชาวปากะยอบ้านกองวะ หลายอย่างมาไว้บูชา ..ด้วยความขอบคุณครับ :D
บนสุดของยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานของพระสัพพัญญู พระพุทธเจ้า ... เดินถึงจุดนี้กราบพระเสร็จ...ชมทิวทัศน์รอบๆแล้วหายเหนื่อยจริงๆครับ  :P

   



อ่า....ผมเพิ่งรู้ว่านาคราช ...  มีขา...   ด้วย   :o :o :o       นึกว่าเหมือนงูครับ

 :D
อ๋อ
ทางอีสานจะ เรียกเห็ดเผาะ ครับ  ???
แถวบ้าน ( นอก ) ก็ยังพอหาได้ แกงอร่อยดี แต่ระวังเวลาเคี้ยวหน่อยนะครับ
เพราะว่าข้างนอกมันเย็น แต่ข้างในนี่ร้อน ลวกลิ้น.................. 8)