หัวข้อ: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 10:24:48 pm กำลังออกอากาศทางช่อง 9 รายการคนค้นฅน
(http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu0.jpg) รูปนี้ถ่ายเมื่อตอนเดือนธันวาคมปี 2546 เป็นหนที่สองที่ได้เข้าไปเยือน (เข้าทางฝั่งอ.อุ้มผาง จ.ตาก) ครั้งแรกไปเมื่อปี 2539 หนนั้นเดินเท้ามาจากฝั่งจ.กาญจนบุรี (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu1.jpg) รูปนี้คือช้างคู่บารมีของฤาษีตนที่ 10 แห่งบ้านเลตองคุ หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 10:34:28 pm (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu2.jpg)
(http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu4.jpg) รูปนี้เป็นงาช้างแกะสลักเป็นพระพุทธรูปอย่างสวยงาม และเป็นที่เคารพบูชา เขตที่อยู่ของฤาษีผู้หญิงห้ามเข้า แผ่นดินธรรมที่เลตองคุ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ป่าห้วยขาแข้ง และป่าอุ้มผางเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ติดต่อกัน ที่ใหญ่ที่สุด และอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความลี้ลับน่าพิศวงมากมายซ่อนตัวอยู่ภายในป่าทึบผืนใหญ่แห่งนี้ ยิ่งส่วนในสุดของผืนป่าใหญ่ที่ติดชายแดนประเทศพม่านับเป็นดินแดนที่ห่างไกลจากความเจริญหรือไกลปืนเที่ยงมากที่สุดของประเทศ พืชพรรณและสัตว์ป่าหลากชนิดหลายพันธุ์ที่มนุษย์ไม่เคยพบเห็น ดำรงชีพอยู่สงบสุขในป่าใหญ่ เช่นเดียวกับคนที่นี่ซึ่งเป็นคนป่าเขาที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มาหลายร้อยพันปีแล้ว พวกเขาเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่มีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่และความเชื่อ แตกต่างจากสังคมภายนอกเป็นลักษณะเฉพาะของตนเองที่บริสุทธิ์ปราศจากการแต่งเติมของอารยธรรม ความเจริญจากนอกชุมชน ที่นี่คือบ้าน เลตองคุ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ดินแดนลี้ลับสุดแดนสนธยา เล่ากันมาว่าความเป็นอยู่ผิดแปลกจากชนเผ่าอื่น เพราะปกครองโดยฤาษี เราเดินทะลุป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ข้ามทิวเขาลูกแล้วลูกเล่าพักแรมตามหมู่บ้านกะเหรี่ยงบ้าง พักแรมกลางป่าบ้าง เพื่อไปรู้จักชีวิตกลางป่าที่บ้าน เลตองคุ บ้านเลตองคุ เป็นหมู่บ้านขนาดกลาง มี 100 กว่าหลังคาเรือน ประชากรประมาณ 500 คน แยกเป็นกลุ่มบ้านเล็ก ๆ ได้ 8 กลุ่ม ชาวบ้านทั้งหมดเป็นชาวกะเหรี่ยง มีทั้งกะเหรี่ยงสะกอ ที่เรียกตนเองว่า "ปกาเกอะญอ" และกะเหรี่ยงโปที่เรียกตนเองว่า "โผล่ว" อยู่ปะปนกัน ชาวบ้านพูดได้ทั้งภาษากะเหรึ่ยงสะกอและกะเหรี่ยงโป น้อยคนนักที่พูดภาษาไทยได้ ผู้ชายไว้ผมยาว แล้วมัดเป็นมวยไว้เหนือศีรษะ ด้านหน้า ส่วนผู้หญิงมัดเป็นมวยไว้ที่ศีรษะด้านหลัง ผมที่ไว้ยาวแล้วมัดเป็นมวย เป็นเสมือนศรัทธามั่นคงเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ต่อความเชื่อที่มีแต่ยืดยาวออกไป โดยไม่มีการบั่นทอนให้ลดน้อยหรือสั้นลง ผู้หญิงนุ่งชุดกะเหรี่ยง หากเป็นหญิงสาวจะนุ่งชุดทรงกระสอบยาวสีขาว หากแต่งงานแล้วจะนุ่งผ้าถุงและเสื้อกะเหรี่ยง ซึ่งโดยมากเป็นสีแดง ส่วนผู้ชายนุ่งผ้าผืนแบบผ้าขาวม้าสีเขียว เสื้อเป็นแบบผ่าอกตลอดแบบเสื้อเชิ้ต เสื้อผ้าไม่ใช่เพียงเครื่องห่อหุ้มร่างกาย หากหมายรวมถึงสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายเลตองคุ ที่มีความเชื่อแน่วแน่มั่นคงเช่นเดียวกัน ผู้ถือปฎิบัติในลัทธิฤาษี จะแต่งกายให้ถูกต้องตามธรรมเนียมประเพณี ดุจพระภิกษุต้องนุ่งห่มด้วยผ้าไตร ดินแดนที่ห่างไกลเช่นนี้เป็นอิสระมาหลายร้อยปี ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ทำเองใช้เอง หมู่บ้านมีทุ่งนา เชิงเขามีไร่ข้าว ปลูกผัก พริก มะเขือ ฯลฯ ไว้กิน กลางหมู่บ้านมีลำธาร ไหลผ่าน ต้นหมาก ต้นมะพร้าว ต้นทุเรียน ขึ้นเป็นป่าเพราะแน่นขนัดไปหมด ได้แสงสว่างจากไต้ซึ่งทำจากน้ำมันยาง ขาดเหลืออะไร เลือกเก็บกินเก็บใช้จากป่า บ้านเรือนโดยมากทำจากไม้ไผ่ ผุพังก็ซ่อมแซมไม่ยาก ปลูกฝ้าย ปั่นด้าย ทอผ้าใช้กันเอง เป็นสังคมที่พึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ที่เป็นผู้นำ โดยเฉพาะในด้านความเชื่อ ระเบียบปฏิบัติในชุมชน และศาสนาคือ "ฤาษี" ผู้เป็นฤาษี จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ได้รับการทำนายจากฤาษีตนก่อนว่า จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง และฤาษี ตนใหม่เองจะต้องฝันเป็นนิติครบ 3 ครั้ง จึงจะเป็นฤาษีที่สมบูรณ์ ฤาษีจะอยู่เฉพาะบริเวณศาลาฤาษี และนอนในศาลาฤาษีเท่านั้น ทำหน้าที่ปกครองดูแลและนำชาวบ้าน ในการประพฤติปฏิบัติตนให้ถูกต้องดีงาม เพื่อรอรับพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ต่อไป ที่จะเสด็จมาโปรดชาวโลก คือ "พระศรีอาริยเมตไตรย" ความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ทุกคนถือปฏิบัติร่วมกัน ทำให้ทุกคนเป็น "ชาวอริยะ" ซึ่งจะได้พบพระศรีอาริยเมตไตรย และได้อยู่ร่วมกับพระองค์ในอีกไม่ช้า แม้ยังไม่พบพระศรีอาริยเมตไตรย แต่ความดีที่กระทำไว้ ก็ส่งผลให้เห็นตลอดเวลา คือ ความสงบสุขของบ้านเลตองคุ ดินแดนหรือสังคมของพระศรีอาริย์ เป็นความฝันหรืออุดมคติ ที่คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ในสังคมจริง ที่นี่ ชาวเลตองคุ พิสูจน์มานับร้อยปีแล้ว ว่าสามารถเป็นไปได้ ความดีที่ชาวเลตองคุถือปฏิบัติโดยไม่ล่วงเกิน สรุปรวมแล้วคือศีล 5 นั่นเอง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นศีล 5 ในพระพุทธศาสนา หากคิดว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พวกเขายึดถือกันมาเนิ่นนาน โดยไม่แบ่ง เป็นข้อ ๆ ดังศีล 5 พวกเขาไม่เลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่ากิน เพราะเห็นว่าคนที่ฆ่าสัตว์ที่ตนเองเลี้ยงไว้ได้ลง ย่อมเป็นคนที่เลือดเย็นอำมหิตมาก แม้วัวควายที่เลี้ยงไว้ใช้งาน เมื่อตายลงพวกเขาก็ไม่กินเนื้อ เหตุการณ์ ตชต. ถูกฆ่าตายที่บ้านแม่จันทะ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 กระแสข่าวบางกระแสพยายามเชื่อมโยงมาถึงลัทธิฤาษีที่บ้านเลตองคุ แต่ชาวเลตองคุยืนยันว่า "กลุ่มฤาษีนี้ไม่มีการฆ่าคนอย่างเด็ดขาด แม้แต่การทำร้ายก็ไม่มี" ซึ่งเป็นจริงดังกล่าว เพราะแม้แต่ตีลูก ชาวเลตองคุก็ไม่ทำ ในหมู่บ้านไม่มีการลักทรัพย์ แต่ละบ้านไม่มีกลอนหรือกุญแจ การแต่งงานต้องถูกต้องตามประเพณี ไม่มีการคบชู้หรือหลายผัวมากเมีย ไม่พูดปดโกหก พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดด้วยถ้อยคำหรือท่าทีรุนแรงอีกด้วย ชาวเลตองคุไม่กินเหล้า บุหรี่ กัญชา ฝิ่น ยาเสพติดทุกชนิด ยกเว้นยาเส้นกับหมาก รวมทั้งไม่เล่นการพนันทุกชนิดด้วย ทุกคนยึดมั่นในลัทธิฤาษี ซึ่งมีพระศรีอาริยเมตไตรยเป็นเป้าหมายของการทำความดี ในช่วงปฏิวัติ (ราว พ.ศ. 2519-2523) พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้อาศัยป่าแถบนี้เป็นฐานที่มั่นใหญ่ บ้านเลตองคุ เป็นหมู่บ้านเดียวที่ไม่เข้าด้วยฝ่ายปฏิวัติ (ผกค.) และฝ่ายปฏิวัติไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ เมื่อเกิดการกวาดล้าง บ้านเลตองคุก็รอดพ้นความวุ่นวาย และเป็นอยู่อย่างสงบสุขเรื่อยมา ชายหนุ่มที่ต้องการยึดถือปฏิบัติอย่างเข้มข้น จะถือบวชโกนศีรษะเป็นลูกศิษย์อยู่กับฤาษี จากนั้นจะไม่ตัดผมอีกเลย แล้วมาศึกษาเล่าเรียนและกินอยู่ที่สำนักฤาษี ลูกศิษย์ฤาษีมีการยึดถือปฏิบัติเข้มข้นกว่าชาวบ้านธรรมดา เช่น ไม่ขึ้นบ้านชาวบ้าน กินข้าวต้องกินนอกเขตตัวบ้าน เป็นความพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องทางโลกให้มากที่สุด เพื่อจะได้ใช้ชีวิตทั้งหมดทุ่มเทให้เจริญก้าวหน้าในทางธรรม ผู้เป็นลูกศิษย์เท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้เป็นฤาษีตนต่อไป ในภาคหน้าหากตนปัจจุบันสิ้นชีพ ลง ฤาษีตนปัจจุบันเป็นตนที่ 10 ที่ดำรงตำแหน่งสืบทอดกันมานับร้อยปี เป็นผู้นำในการทำความดี ที่ชาวบ้านประพฤติปฏิบัติตามเป็นปกติ จนเป็นหมู่บ้านแผ่นดินธรรมที่สมบูรณ์แบบ สงบสุขท่ามกลางป่าใหญ่ กลมกลืนสอดคล้องกับธรรมะ และธรรมชาติ ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เป็นหมู่บ้านแผ่นดินธรรมที่ไร้กฎระเบียบ เพราะความถูกต้องงดงามเต็มเปี่ยมอยู่แล้วในจริยวัตร และความเป็นอยู่ปกติของทุกคน ชาวบ้านไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการการศึกษา ไม่ต้องการความเจริญ เพราะชีวิตและจิตใจของพวกเขา อิ่มเอมเพียงพอแล้วด้วยความสงบสุข เมื่อเราจากหมู่บ้านเลตองคุ ดินแดนแผ่นดินธรรม ที่เป็นจริงเป็นจังในพื้นโลก กลับมาจิตใจของเรามีแต่ความปิติ ที่ได้มีโอกาสพบดินแดนที่ธรรมะเป็นหนึ่งเดียวกับวิถีชีวิตทั้งพลอยอนุโมทนา ในความดีที่ชาวเลตองคุร่วมกันกระทำ ซึ่งพวกเขาไม่รู้สึกว่าเป็นความดีแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่พวกเขาปฏิบัติกันมาเป็นร้อยปี กลางป่าใหญ่อุดมสมบูรณ์ ลำธารใส ธรรมชาติ สะอาดบริสุทธิ์ มีผู้คนประพฤติดีใช้ชีวิตเรียบง่าย ปกติงดงามในจิตใจ สังคมสงบสุข พึ่งตนเองได้อย่างสมบูรณ์ แดนสวรรค์ในอุดมคติที่เราเคยใฝ่ฝัน ซ่อนตัวในป่าลึก ส่วนดินแดนที่เราประสบในเมืองทุกวันนี้ช่างห่างไกลกันเสียเหลือเกิน ไม่ใช่ห่างไกลเพียงระยะทาง หากยิ่งห่างไกลด้วยธรรม ที่มา : ศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา (http://www.karencenter.com/showdet-know.php?type=a2&id=3) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 10:42:06 pm (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu3.jpg)
ศาลาเอาไว้ประกอบพิธีต่างๆ (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu5.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu6.jpg) หนุ่มๆ ที่หมู่บ้านนี้จะไว้ผมยาว และผลัดแป้งรวมทั้งทัดดอกไม้สะหญิงยังอาย :P หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 10:47:12 pm (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu7.jpg)
สองหนุ่มน้อยที่แวะมาทักทายที่เรือนพักรับรองของหมู่บ้าน (ที่จริงเป็นบ้านของแม่เฒ่าที่เสียแล้ว ก็เลยกลายเป็นที่พักค้างแรมของเหล่านักเดินทาง) มานั่งขับกล่อมร้องบทเพลงและเล่นดนตรีให้ฟัง หมู่บ้านนี้จะน่ารักมาก ถ้าเห็นว่ามีแขกมาเยือนจะผลัดกันเข้ามาถามไถ่ และจัดหาข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งมาหูงหาอาหารให้กินสะด้วยซ้ำ แต่เกรงใจทำเองดีก่า ว่าแล้วชักคิดถึง ครั้งล่าสุดที่กลับไปเยือน (เป็นครั้งที่สาม) เมื่อเดือนธันวาคมปี 2547 ก่อนที่จะเกิดเหตุสึนามิไม่กี่วัน หนนั้นเดินเท้าจากฝั่งอ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาเดินเท้า 5 วัน (อยากกลับไปทบทวนความหลังเมื่อครั้งแรก) เล่นเอาสบักสบอมไปพอสมควร :P (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu8.jpg) จากรูปข้างบนเป็นจุดรอยต่อเขตสองจังหวัดกับสองประเทศ เป็นวันที่ห้าที่เดินเท้า ไปถึงหมู่บ้านเลตองคุเอาเย็นย่ำ หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ เมษายน 03, 2007, 11:31:48 pm น้องโอ๋ มีอีกไหมครับ..ชอบมาก เพิ่งดูจบเมื่อตะกี้ ชอบคำพูดของผู้ใหญ่บ้าน***หากทั่วโลก รักษา ศีลห้าได้ จะไม่มี สงคราม ไม่มีความเดือดร้อน ไม่ว่า ที่ใด...***ชอบมาก กินใจ อยู่ป่าเขา แต่จิตใจ พวกเขาสูง มาก..เข้าถึงธรรมะแบบลึกซึ้ง ฤษี ก็ คือนักพรต
เป็นที่พึ่งชาวบ้านได้...น่าดิดตามครับ.. หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 11:47:08 pm น้องโอ๋ มีอีกไหมครับ..ชอบมาก เพิ่งดูจบเมื่อตะกี้ ชอบคำพูดของผู้ใหญ่บ้าน***หากทั่วโลก รักษา ศีลห้าได้ จะไม่มี สงคราม ไม่มีความเดือดร้อน ไม่ว่า ที่ใด...***ชอบมาก กินใจ อยู่ป่าเขา แต่จิตใจ พวกเขาสูง มาก..เข้าถึงธรรมะแบบลึกซึ้ง ฤษี ก็ คือนักพรต เป็นที่พึ่งชาวบ้านได้...น่าดิดตามครับ.. มีครับพี่ แต่ต้องรอค้น CD เก่าเก็บก่อนนะครับ มีสัก 3-4 แผ่นได้ ถ่ายไว้หลายปีแล้วครับ ครั้งแรกที่ไปเยือนตั้นแต่ปี 2539 โน้น ตอนนี้ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว หมู่บ้านนี้เขาไปเยือนมา 3 รอบแล้วครับ เดี๋ยวผมจะทยอยเอารูปลงให้ดูละกันครับ :P ที่จริงยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจที่ทางรายการยังไม่ได้นำเสนออีกเยอะ มันมีตำนานและความเชื่อมากมาย ที่น่าเรียนรู้และสัมผัส มีคำกล่าวว่า " ผืนดินที่อาศัยอยู่นี้เราเป็นเพียงผู้มาอาศัยใช้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองถือเป็นกรรมสิทธิ์ ผืนดินไม่ใช่สิ่งของที่จะเอาตัดแบ่งชั่งกิโลขายกันได้ " วิธีของชนกะเหรี่ยงจึงผูกสัมพันธ์กับธรรมชาติ เปรียบธรรมชาติประหนึ่งแม่ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ ไว้ว่างๆ จะหาเรื่องราวมาให้อ่านครับ.. หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 03, 2007, 11:50:39 pm เลตองคุ ถ้าจำไม่ผิดแปลว่า บ้านบนน้ำตก
มาดูน้ำตกที่สวยงามและพิสุทธิ์มากๆ น้ำตกหนึ่ง จากจุดที่ตั้งน้ำตก ห่างจากชายแดนราวกิโลกว่าๆ เอง เส้นทางนี้ก็เคยเดินผ่านมาแล้ว 2 รอบ (เกือบตาย) :P (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu9.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu10.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu11.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu12.jpg) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ เมษายน 04, 2007, 12:00:05 am นี่ถ้าพี่ไปด้วย เขียนหนังสือขายได้เป็นเล่มแน่เลย อิอิ เสนอสำนักพิมพ์ จัดจำหน่าย น่าจะดี..ข้อมูลเพียบอย่างน้องโอ๋...นี่
***บันทึกการเยือน เลตองคุ ฤษี หลุดโลก *** หรือ เรื่องอะไรดี.. :P หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 12:27:08 am นี่ถ้าพี่ไปด้วย เขียนหนังสือขายได้เป็นเล่มแน่เลย อิอิ เสนอสำนักพิมพ์ จัดจำหน่าย น่าจะดี..ข้อมูลเพียบอย่างน้องโอ๋...นี่ หรือ เรื่องอะไรดี.. :P คงจะยังอีกนานครับ ยังไม่คิดจะเขียนหนังสือตอนนี้ แต่ต่อไปก็ไม่แน่ รอให้ความคิดมันตกผลึกมากกว่านี้ก่อน แต่แบบที่พี่นำเสนอผมก็ไม่ไหวครับ..***บันทึกการเยือน เลตองคุ ฤษี หลุดโลก *** :P ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าผู้คนในสังคมเมืองที่หลุดโลกหรือว่าพวกที่อยู่ตามป่าตามเขาก็ไม่รู้ ;D ถ้ามีโอกาสเข้าไปสัมผัสจะเห็นว่าการดำเนินชีวิตของกลุ่มชนเหล่านี้ ล้วนแต่สอดคล้องกับธรรมชาติที่อาศัยอยู่อาศัยกิน มีคำกล่าวของกะเหรี่ยงอยู่ว่า..ถ้าผืนป่าหมด พวกเขาก็อยู่ไม่ได้ เมื่อเปรียบไปแล้วกับท.เศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย อยู่อย่างเข้าใจวิถีแห่งตน ไม่สะสมส่วนเกิน ใช้กินใช้อยู่ตามแต่พอดี พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่สุขใจ (ภายใน) มากกว่ากัน หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 12:31:22 am ภาพวิถีการดำเนินชีวิต...
แม้แต่เด็กเล็กๆ ที่นี่ก็รู้จักทำงานช่วยพ่อแม่และช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu14.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu15.jpg) ดวงตาอันใสซื่อบ่งบอกความเป็นมิตรแด่ผู้มาเยือน (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu13.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu19.jpg) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 12:35:52 am :-X
หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 12:41:09 am วิถียามเช้า..ในม่านหมอกสลัวของฤดุหนาว (ปี 2546)
(http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu18.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu17.jpg) เมื่อพระอาทิตย์จะลาลับเหลี่ยมเขา ก็กลับคืนที่พักผิงอิงอาศัย (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu16.jpg) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 01:04:44 am มาสัมผัสบรรยากาศยามเช้าของฤดูหนาว...กับบรรยากาศชวนเหงาๆ
(http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu22.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu21.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu20.jpg) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 04, 2007, 01:13:01 am ชุดส่งท้าย..
บรรยากาศยามเช้าที่แสงแรกสาดส่องหน้าเรือนพัก (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu23.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu24.jpg) (http://i72.photobucket.com/albums/i200/tongtang/latongcu25.jpg) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: TongTang-LSV team♥ ที่ เมษายน 05, 2007, 12:18:56 pm ท่านใดที่พลาดชมตอนนี้ ก็เข้าไปดูได้ที่ลิงค์นี้ครับ
กะเหรี่ยงฤๅษีแห่งเลตองคุ (http://hiptv.mcot.net/hipPlay.php?id=10054) หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: sukyone ที่ เมษายน 05, 2007, 02:42:55 pm :D :D
หัวข้อ: Re: ตำนานฤาษี..แห่งหมู่บ้านเลตองคุ ณ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก เริ่มหัวข้อโดย: sunchai ที่ มีนาคม 24, 2011, 05:46:46 pm ผมเคยเดิยผ่านทางภูก่องก๊องครับไม่ได้ผ่านทางเลตองคุเสียดายจังเลย
|