|
หัวข้อ: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: golf2526 ที่ ตุลาคม 22, 2008, 08:15:29 am คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ wav!! wav!! wav!! wav!! wav!! wav!! wav!!
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: atthapol ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 02:46:47 pm คราสabเสื่ยงดีก่วาครับ
smiley4 หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: Nattawut-LSV Team ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 05:14:06 pm smiley4 คราส ab smiley4
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tanawat_1422 ที่ พฤศจิกายน 22, 2008, 02:42:03 pm ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: Nattawut-LSV Team ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 09:11:36 am smiley4 ที่เห็นๆ ก็น่าจะเป็บคราส D นะครับ( แถวบ้านผม ) smiley4
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: ช่างยุทธ YTN ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 09:48:55 am AB สุขุม นุ่ม ลึก เหมาะสำหรับฟังในบ้าน นุ่ม ๆ สบาย ๆ
D หนัก แน่น สะท้านทรวง เหมาะสำหรับงาน PA หรือชุดที่ต้องการโชว์ความอลังการ ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ AB ครับ หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: safe ที่ ธันวาคม 04, 2008, 11:40:07 am d ดีกว่า เบสหนักดี อยู่ที่จะใช้ถูกประเถทหรือป่าว หรือต้องการความคมช้ดเบสกลางๆต้อง ต้องAB shocked2
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: sak_vm3 ที่ มีนาคม 17, 2009, 04:45:19 pm AB เสียงดีกว่าคับ
แต่ร้อนเร็วกว่าคับ แต่ผมใช้ D ขับเบสคับ แบบว่าหา AB วัตสุงๆ ยาก หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: chai_up ที่ มีนาคม 21, 2009, 09:46:40 am เคยนำ Cl wav!!ass D ตัว ฟลูบริดส์ 1200 W ที่ 4 Ohm ไฟ +- 85 V. มาขับ 18 นิ้ว P Audio 2242 ข้างละ 2 ดอกเทียบกับ Xl 2200 Npe เสียงของ Class d จะดังแน่นและแรงกว่าจากที่ผมทดสอบนะครับ
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: montrevej ที่ เมษายน 15, 2009, 02:22:37 pm cass d ครับ
ราคาและคุณภาพ หาของในแล็คดีๆใส่ปรุงดีๆไม่หนีกันหรอก หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: apisit sombutdee ที่ พฤษภาคม 05, 2009, 09:53:34 pm ผมว่าน่าจะ AB นะครับ ต้องลองฟังเสียงกลางกับเสียงแหลม เทียบกันดูแล้วจะเห็นความแตกต่าง tongue3 tongue3
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tom131 ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 02:11:59 pm เรื่องกำลัง ยังไงก็สู้ คราส D บ่อได้ได้ เสียงเบสต่างกันมากเรื่องความสะใจ เอา D มาขับเบส เอา AB มาขับกลางแหลม laugh2
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: aumnad ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 09:55:51 am เเล้วถ้า D ดีกว่าทำไมในสนามเเข่งเครื่องเสียงบ้านเค้าไม่เอามมาเเข่งกันล่ะครับ....เห็นเเต่นำ ไดร์ของ AB มาปรับเเต่งกัน
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: triphet ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 06:50:08 pm embarrassed7 ยังไม่มีเซียน CLASS D ภาคสนาม laugh2
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: peeraponssw ที่ กรกฎาคม 15, 2009, 02:21:21 pm เค้าว่าคลาส D มีปัญหามาก ยังไม่สู้ AB หรอก (ความคิดส่วนตน) ว. 610 kiss6 QRU 73
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: NUILOSO ที่ กรกฎาคม 15, 2009, 06:11:03 pm ขอนิดนะครับ Class D เป็นขยายที่ใช้หลักการทำงานแบบสวิทช์คือทำงาน on เต็มที่ off ศูนย์ จะได้เป็นพัลล์ที่มีความกว้างตามสัญญาณเสียงแล้วใช้โลพาสฟิลเตอร์ อินทิเกรตพื้นที่สัญญาณสีเหลียมเป็นสัญญาณชายเวฟ
ช่วงสัญญาณเป็นศูนย์ L และ C จะกำลังงานให้กับโหลดทำให้สัญญาณ สโลปลง สรุปฟัง Class d ก็เหมือนฟัง MP3 ฟัง Class AB ก็เหมือนฟัง Track Audio hungry2 หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: weerachai_pc ที่ สิงหาคม 07, 2009, 01:49:41 pm ขอถามบ้างนะครับว่า เสียงที่หนักแน่นกับเสียงที่ครบอารมณ์ ผมอยากรู้ว่าคนเราทุกคนจะฟังแบบไหนครับ แต่สวนตัวผมแล้วผมชอบฟังเสียงดนตรีแบบครบทุกอัดถะรดของเสียงที่ออกมา ความคิดสวนตัวคือผมชอบคลาด AB มากกว่าคลาด D เพราะว่าคลาด AB ให้เสียงที่ครบถ่วนมากกว่าคลาด D ครับ อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับผมคิดว่าการที่เราทุกคนจะเล่นเครื่องเสียงก็คงจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนทุกอย่างที่เราเลือกมาใช้ดีหมดทุกอย่างละครับ wav!!
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tom131 ที่ สิงหาคม 11, 2009, 03:02:48 pm เอาระหว่าง AB กับ D มาขับตู้ซับเบสดูแล้วจะรู้ว่า D มันเหนือกว่าเยอะเลยเรื่องกำลังของเสียง มะลองมะรู้ครับ smiley4
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: somkeat_sin ที่ สิงหาคม 11, 2009, 03:39:14 pm class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab กลางแหลม switching d ขับ sup woofer
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: cappro ที่ สิงหาคม 17, 2009, 04:38:17 pm คลาสดี ดีกว่าครับ ไม่ร้อนไม่กินไฟ เบสแน่นนุ่ม หวาน laugh2 laugh2 laugh2
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tom131 ที่ สิงหาคม 17, 2009, 10:20:03 pm smiley4 ยังงัยผมก็เถียงสุ้ตายครับ คลาสดี ครับ วงการเครื่องเสียงรถยนต์มีครัยบ้างนำ ab มาล่งแข่งครับ เรื่องของพลังเบสครับ
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: dokmadue ♥ ที่ สิงหาคม 28, 2009, 11:48:57 am ab ครับ เสียงต้องไปจาก ab ก่อน คลาสd 0 จึงจะทำงานได้ครับ ส่วนตัว
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: arthorn ที่ สิงหาคม 28, 2009, 07:05:32 pm ผมว่า Class-AB ให้เสียงเบสที่มีสีสันและกระชับกว่า Class-Dครับเท่าที่ลองฟังดู
หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: shokunmusicsound ที่ สิงหาคม 28, 2009, 08:42:22 pm แล้วแต่จะเลือกใช้ครับ ชอบแบบไหน ถ้าชอบเบสนุ่มลึกใส มีเงินซะอย่างก็คลาส AB
ถ้าชอบแบบเอาดังใว้ก่อน ราคาถูก เบส บวมๆก็ไม่เป็นไร ก็เลือก คลาส D เค้าจัดคลาสของเสียงมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วครับท่าน........ หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tinglee ที่ กันยายน 23, 2009, 10:36:04 am ................... ..ในที่นี้พูดถึงเรื่องเสียงเบส......................
ลึกๆในใจผมเข้าข้าง Class AB ครับ ตามหลักการทำงานของมันเป็นลิเนียร์ บวกกับความคิดที่ว่า Class D มันทำงานโดยการนำระดับความกว้างพัลส์มาอินทริเกรตในภาคกำลัง พูดในเชิงจินตนาการหลายท่านมองว่าเป็นการนำขนาดสัญญาณมาตัดแปะ ฟังแล้วเหมือน mp3 แต่ว่า!!!! เรายอมรับเสียงระบบ audio file ที่เกิดจากการมอดูเลต ว่าเป็นเสียงที่ให้รายละเอียด, อารมณ์ ได้ดีเป็นธรรมชาติทั้งที่เกิดจากการตัดแปะ!!! จริงๆแล้ว Class D ก็ใช้หลักการภาคขยายสุดท้ายเช่นเดียวกับ audio file เพียงแตกต่างกันในเชิงโมดูเลต ที่ audio เข้าระหัสโดยการกระทำเชิงดิจิตอล ความละเอียดก็ตามจำนวนบิต Class D ก็เช่นกัน เพียงแต่กระทำสัญญาณเชิงอนาล็อค อาจใช้การสวิตซืที่ความถี่ต่ำกว่า (แต่สูงกว่าความถี่เสียงที่มนุษย์ได้ยิน) เนื่องจากถูกจำกัดด้วยการนำไปใช้ด้านกำลัง ประเด็นมันอยู่ที่ว่า... เราสามารถฟังความแตกต่างระหว่างแอมป์ทั้งสองประเภทนี้เพียงไร หากหลายท่านได้มีโอกาสฟัง Active subwoffer ตามโชวน์หรือท้องตลาดที่ราคาสูงๆหรือชั้นนำ ออกแบบมาโดยแก้ไขข้อด้อยทั้งสองประเภท ให้หลับตาฟัง เชื่อว่า ไม่มีมนุษย์ หรืออ้างว่าแฟนพันธ์แท้หน้าใหน กล้าเป็นคนเสียสุนัข (ในนี้พูดถึงเรื่องเบส) โดยไม่เห็นตัวเครื่อง หรือยี่ห้อ... (ไม่พูดถึงไฮ-เอน นะครับมันเป็นเรื่องการตลาดที่กล่าวอ้าง ผมเห็นปู่ผมใช้วิทยุโบราณแกก็บอกว่าแค่นี้ก็ไฮเอนของแกแล้ว แกพูดเชิงดูถูกนักเล่นที่มีแต่เงิน ) หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: tinglee ที่ กันยายน 23, 2009, 11:04:42 am ผมขอพูดถึงเรื่องการตอบสนองระหว่างทั้งสองคลาส Class D ได้เปรียบในเชิง damping facter (คื่อค่าที่ทั่วไปมองว่าเป็นการตอบสนองการถ่ายทอดสัญญาณได้รวดเร็ว เก็บตัวดี) ที่สูงกว่า Class AB เนื่องมาจากภาคเอาท์พุตทรานซิสเตอร์ Class D ไม่มีการไบอัสด้วยตัวต้านทาน จึงได้เปรียบตรงนี้นี่เองในเรื่องการเก็บตัว ส่วนลักษณะการฟังของแต่ละท่านหากฟังเบสที่ต้องการการตอบสนองแบบไม่รวดเร็วอย่างลูกทุ่ง ก็ไม่เป็นปัญหาของแอมป์ทั้งสองประเภทนี้ แต่ถ้าฟังแนวเด็กแนว ที่ต้องการการตอบสนองแบบฉับพลัน ดนตรีที่เกิดจากการบันทึกด้วยอุกรณ์อีเล็คทรอนิกส์แนวๆ class AB คงไม่ได้ใจเด็กแนว แน่นอนครับ
ผมมองว่าในวงจรที่ออกแบบมาไม่ดีเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณที่เกิดจากเบสที่มีฮาโมนิกส์ปนมาเป็นความถี่สูง ในลักษณะขั้นบันไดผสมความถี่ของเบส ผมมองว่าเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณspikeที่เกิดจากการกรองความถี่สูงออกไม่หมด โดยเฉพาะสัญญาณที่ว่านี้ผ่านลำโพงเบสที่น้ำหนักเยอะด้วย ยิ่งหมดสิทธ์ คำสร้อย.... ก็เลยมองClass D เป็นต่อหลายขุมครับ!!!! หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: hs4bhz ที่ ตุลาคม 06, 2009, 07:15:01 am class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab กลางแหลม switching d ขับ sup woofer switching d ขับ sup woofer ราคาแท่นละเท่าไหร่ครับ หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: artt ที่ ตุลาคม 06, 2009, 02:50:03 pm หน้าที่ไครหน้าที่มัน คลาสABขับกลางแหลม คลาสDขับซับ ถ้าเอาABมาขับซับก็ยังฟังได้ แต่เอาคลาสDไปขับกลางแหลมละแหลกเลย laugh2
อย่างในรถกลางแหลมขับด้วยAB 100w-200w ได้สบายๆ แต่คลาสDขับซับต้องมี1000wขึ้น smiley4 หัวข้อ: Re: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ เริ่มหัวข้อโดย: ti1860 ที่ ตุลาคม 09, 2009, 06:22:40 pm ผู้ไม่รู้ขอทราบคำว่าเบสนุ่ม เบสแน่น เบสลึก เบสหนัก เกิดจากการทำงานในลักษณะใดครับ(ถ้าไม่มีเครื่องปรุงและวงจรที่มีผลต่อการบูสและคัตมาเกี่ยวข้อง) อยากทราบจริง ๆ ครับ ผมจะรู้สึกได้ก็แต่ที่ว่าเสียงเบสเบลอไม่แน่น ไม่เงียบไม่กระชับครับ (ค่าแด้มปิ้งแฟคเตอร์ต่ำ) ที่พูดมาข้างต้นไม่ค่อยรู้ส฿กได้เลยครับ หรือต้องมีปรับมีปรุงเข้ามาเกี่ยวข้องถึงจะเห็นความแตกต่าง ขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำทีครับ **ความคิดเห็นส่วนตัว**คลาส AB เหมือนจิ๊กซอ 2 ชิ้นต่อกัน คลาส D เหมือนจิ๊กซอ หลายชิ้นต่อกัน ทฤษฎีส่วนตัวบอกว่าการทำงานใด ๆ ย่อมมีข้อผิดพลาดเมื่อมีการทำงานหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนย่อมมีผิดพลาดไม่มากก็น้อย(ส่วนตัวจริงๆ) เรื่องกำลังคลาส D ได้เปรียบเพราะเป็นการสวิตชิ่งที่ความถี่สูงไม่ได้ทำงานแบบลิเนียร์เหมือน AB ความร้อนสะสมจึงน้อยกว่า % การทำงานจึงมากกว่า(ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ลดภาวะโลกร้อนด้วย laugh2)ราคาคลาส D ถูกกว่่า ฝั่งคลาส AB ก็เสียงใสตลอดย่าน(ขึ้นอยู่กับการออกแบบวงจรและอุปกรณ์ที่ใช้)ถ้าพูดถึงกำลัง(POWER)ก็ต้องแลกมาด้วยเงินที่ี่สูงกว่า แล้วแต่จะเลือกกันครับ อยู่ที่ใจรัก งบประมาณ การใช้งาน และอคติครับ แต่การเลือกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงานจะลดข้อผิดพลาดและงานสำเร็จด้วยดีครับ(ทฤษฎีส่วนตัวอีกแหละครับ)
|