หัวข้อ: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: kenchi ที่ กันยายน 13, 2008, 07:08:09 pm ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละครับ
หรือว่าทำไม่ใด้ หัวข้อ: Re: สงสัยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ กันยายน 13, 2008, 07:10:15 pm ความคิดดี แต่ได้ไม่คุ้มเสีย ไปคิดเอาเป็นการบ้านว่าทำไม ตอบได้ให้5แต้ม
หัวข้อ: Re: สงสัยครับ เริ่มหัวข้อโดย: kenchi ที่ กันยายน 15, 2008, 11:42:29 am olleyes2 olleyes2 shocked2 shocked2
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: knopporn ที่ กันยายน 15, 2008, 12:17:00 pm เกิดการสูญเสียพลังงานมากว่า ในการชาร์ต
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ กันยายน 15, 2008, 07:05:42 pm ถูกแล้วแต่ขอคำอธิบายให้ชัดกว่านี้หน่อย แล้วผมจะให้คะแนนของผมให้
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: cyberstein ที่ กันยายน 16, 2008, 09:00:51 pm เดี๋ยวถ้าเขาตอบถูกแล้ว หรือผ่านไปสักอาทิตย์นึง
ช่วยมาเฉลยแบบละเอียดด้วยได้ปะคับ ผมอยากรู้ หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: changphichit ที่ กันยายน 19, 2008, 09:34:48 am หมายความค่าการเอาพลังงานไปใช้นั้นมันมากกว่า การชาร์ทไฟเข้าไปผลก็คือไม่มีประโยชน์อันใด
แต่ถ้าเราจอดรถไม่ใช้พลังงานจากแบต แล้วชาร์ทแบตแบบนี้เข้าเต็มๆ การชาร์ทแบตมีหลายวิธี ถ้าไม่ใช้ไฟบ้าน ก็ต้องใช้พลังงานอื่นๆเช่น พลังานลม หรือจากแรงคนก็ได้ลองนึกภาพเครื่องออกกำลัง กายแบบถีบจักรยาน ถ้าเอาไดชาร์ทไปต่อพ่วงแล้วความเร็วได้ก็เอาไปชาร์ทแบตได้ครับ หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ กันยายน 19, 2008, 09:48:59 am คำตอบยังไม่เป็นที่น่าพอใจครับ ว่ากันถึง พลังงานที่จะมาสร้างไฟในการชา๊จแบตฯให้มันสิครับว่าต้องได้มาอย่างไร ใครตอบได้ดีผมให้10คะแนนเลยครับ ผมให้จากคะแนนของผม หักไปให้เลยครับ ถ้าใครมีคำตอบที่ดี
สำหรับ2ท่านที่มาตอบผมให้ไปคนละคะแนนก่อนแล้วกัน หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: sangkhawong ที่ กันยายน 19, 2008, 10:20:20 am พลังงานไม่มีวันสูญหาย นี่คือทฤษฎีครับ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบไหนอันนี้ก็แล้วแต่ การที่เราจะขี้ไปชาร์จไปอาจทำหลายวิธีครับ เช่น มีไดนาโมปั่นไปด้วย แต่ไม่ work แน่ๆ เพราะอะไร เพราะไดนาโมใช้หลักการพลังงานกลมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า เมื่อมีโหลดย่อมมีแรงกระทำต่อต้านพลังงานกลนั้น ทำให้เกิดความฝืดมาก ซึ่งพลังงานที่ได้มาชาร์จแบตนั้นน้อยมาก ถ้าให้ชาร์จ = ใช้ไป จะไม่มีพลังงานส่วนต่างมาขับดันรถเลย วิธีที่สอง คือรับพลังงานจากที่อื่นเช่น สิ่งที่แวดล้อม ลม แสงอาทิตย์ มาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าแล้วชาร์จ แต่ไม่มีทางที่จะชาร์จเท่ากับใช้ไป
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: EKC ที่ พฤศจิกายน 06, 2008, 08:26:19 pm ตามพฤติกรรมของแบตเตอรี่ การที่จะประจุไฟเข้าไปใหม่นั้นจะต้องประจุด้วยกระแสที่น้อยๆ คือประมาณ 1/10 ของพลังงานที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายออกไปได้ แน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาในการประจุนานพอสมควร นี้คือการประจุแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง และปลอดภัยกับแบตเตอรี่เอง และก็เป็นอย่างที่ทุกคำตอบให้มา คือการที่โหลด หรือมอเตอร์ที่นำไปหมุนล้อจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาก คือใช้กระแสสูง คิดง่ายๆสิครับว่าการช๊าจจะเกิดขึ้นไหม ถ้าต้องนำพลังงานที่ต้องใช้ประจุใส่แบตเตอรี่แบบน้อยๆ แต่ต้องนำพลังงานจากแบตเตอรี่ออกไปใช้ในเวลาเดียวกันมากๆ ซึ่งทำไม่ได้แน่นอน ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองคิดดูนะครับ สมมติ ว่าแบตเตอรี่คือแท้งน้ำที่เก็บน้ำไว้ได้เต็มแท้ง 100ลิตร ต่อท่อเอาน้ำออกไปใช้งาน ด้วยท่อขนาด 4 นิ้วก็คือการต่อไฟจากแบตเตอรี่ออกไปให้มอเตอร์ แต่บนแท้งจะมีท่อน้ำที่ไว้เติมน้ำใส่แท้งตลอด เป็นท่อขนาด 4 หุน คือการช๊าจไฟเข้าแบตเตอรี่ น้ำในแทงไม่มีทางเต็มทันก่อนที่น้ำจะหมดหละครับ ผมอธิบายอย่างนี้ไม่ทราบว่าถูกต้องมากน้อยแค่ไหนครับ พอเห็นภาพไหมครับ :(
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 08:44:16 am เกือบแล้วครับ ผมให้ไป1คะแนนก่อน วานพี่เล็ก ตัดคะแนนผมให้ EKC 5คะแนนครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: changphichit ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 08:52:07 pm เสริมด้วยรูปภาพครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: pimdown ที่ พฤศจิกายน 19, 2008, 03:34:18 pm แจ่มเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: kenchi ที่ ตุลาคม 22, 2009, 12:05:42 pm ถ้าอย่างนั้น ทำแบตไว้2ชุดได้ไหมครับ
ชาร์ตไว้1ชุด หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: drdr61♥ ที่ ตุลาคม 22, 2009, 12:22:19 pm ถ้าอย่างนั้น ทำแบตไว้2ชุดได้ไหมครับ ชาร์ตไว้1ชุด ทำได้ครับ แต่ค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สดวก เลยไม่มีใครที่จะคิดทำเป็นจริงเป็นจัง คนที่จะทำได้สาเร็จ คือคนที่มี งบที่จะทำ และมีเวลาที่จะทำและ หาทางพัฒนาอย่างจริงจัง กว่าจะได้อะไรดีๆออกมา มันไม่ง่ายครับ ถ้าคิดแค่เล่นๆผ่านๆ มันก็ได้แค่ทำเล่นๆครับ จะได้ผลจริงๆคงยาก มันไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่ในโลกนี้ อาจจะยังไม่มีใครเก่งพอ ที่จะคิดและทำได้ หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ ตุลาคม 22, 2009, 01:09:07 pm ยิ่งเพิ่มภาระ โหลดครับ
แบตเตอรี่ อีก1ชุด น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นก็จะกินไฟมากขึ้น หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: TLE. ที่ ตุลาคม 22, 2009, 01:39:41 pm ถ้าตอบมาได้ดีกว่า อย่างงี้ต้องหัก อ.ถาวร สัก10 แต้ม laugh2
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร-LSVteam ที่ ตุลาคม 22, 2009, 10:09:33 pm ที่จริงคะแนนไม่มีความหมายกับผมหรอก น้ำใจมากกว่าครับ มันมีวีทีที่ทำได้ครับถึงจะ ไม่ได้พอใช้แต่ก็เพิ่มระยะเวลาได้เยอะมาก แต่มันลงทุนสูง ใครตอบได้ผมให้จริงๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: BB-Green♥ ที่ พฤศจิกายน 22, 2009, 12:46:43 am พลังงานจะหักล้างกันเองครับเหมือนเอาพัดลมตั้งไว้บนเรือใบแล้วเบ่าใบเรือ
พลังงานที่จะชาร์จแบตจริงๆจะอยู่ที่แรงเฉื่อยของรถเท่านั้น ดังนั้นทีมงานโตต้าจึงใช้วิธีชาร์จในขณะที่เราเหยียบเบรค แต่ราคารถก็แพงม๊ากๆๆๆๆๆสุดท้ายก็ต้องลุ้นพี่จีนแดง นี่แหละครับว่าจะก๊อปมาได้มากน้อยแค่ไหนแล้วเรา อาจได้ขับรถราคาถู๊กถูกๆๆๆเหมือนโทรศัพท์ 599 ตามห้าง เย๊..จีนแดงจงเจริญ...ฮึๆๆๆ..แล้วช่างไทยจะดัดหลังเอ๊ยดัดแปลงต่อจากจีนอีกที..ฮิๆๆ แล้วจะรู้ว่าเมดอินไทยแลนด์ทั้งถูกทั้งทน...ใช่มั๊ยครับพี่น้อง หัวข้อ: Re: ทำไมไม่ทำแบบขี่ไปิชาร์ตไปละ เริ่มหัวข้อโดย: shokunmusicsound ที่ พฤศจิกายน 22, 2009, 09:09:39 am ผมว่าเห็นจีนผลิตรถต้นแบบออกมาแล้วนะครับ เป็นแบบช๊าจ ครั้งเดียววิ่งได้ตลอด
ตามที่ผมคิด ตั้งแต่ เรียน ปวช.ปี1 คือ ใช้มอเตอร์ที่กินไฟน้อยๆแต่แรง+กับการใช้แม่เหล็กประกบเพื่อช่วยผลักแกนมอเตอร์ เพื่อความประหยัด วงจรช๊าจไฟน่าจะใช้ คอนเวอร์เตอร์ แบบที่กระแสสูงๆเพื่อการช๊าจที่เร็ว แบตเตอรี่ใช้แบบ ไฮสปีดช๊าจ ที่รองรับการช๊าจแบบเร็วแต่ใช้ได้นาน(เห็นจีนทำออกมาแล้ว) ต่างประเทศเขาจะผลิตจำหน่ายในปีหน้าแล้วนะครับ อ่านดู ประกอบ คุปรัตน์ E-mail: pracob@surindra.org ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia Updated: Tuesday, October 13, 2009 Keywords: technologies, รถไฟฟ้า, รถลูกประสม Cleanova เป็นชุดยานพาหนะต้นแบบ ที่เป็นระบบไฟฟ้าผสม (plug-in hybrid vehicles) พัฒนาโดยบริษทั Véhicules Electriques (SVE),เป็นการลงทุนร่วม (joint venture) ระหว่าง Dassault และบริษัท Heuliez. รถ Cleanova II อาศัยพื้นฐานจาก Renault Kangoo ซึ่งเป็นรถที่ผลิตโดยบริษัท Renault ซึ่งได้มีการควบกิจการกับบริษัท Nissan ของประเทศญี่ปุ่น และได้มีการเข้าไปดำเนินการผลิตรถยนต์ในประเทศอาเจนตินาในทวีปอเมริกาใต้ รถ Kangoo จะมีรูปทรงไม่เปลี่ยนไปมากจากรุ่นปี ค.ศ. 1997 หรือ 12 ปีมาแล้ว หลักของมันคือมีขนาดไม่ใหญ่ ความยาวของทั้งคันประมาณ 4.00 เมตร ความสูงประมาณ 1.85 เมตร เหมาะสำหรับทำเป็นรถแทกซี่ (Taxi) หรือรถบรรทุกขนาดเล็กในเมือง Cleanova มีใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ 3 แบบ ซึ่งยังสามารถพัฒนาได้ต่อไป คือ (1) Li-Mn2O4, (2) Li-FePO4, และ (3) Li-NiCoAl ซึ่งทำให้ปรับขีดความสามารถได้ตามประสงค์ของลูกค้า โดยมีพลังงานอยู่ระหว่าง 16 ถึง 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (kWh) สามารถชาร์ตไฟได้ครึ่งหนึ่งของแบตเตอรี่ในเวลา 30 นาที มีความเร็วที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้ในระบบไฟฟ้า (electric mode) ซึ่งความเร็วในระดับนี้เพียงพอที่จะใช้ในเมือง หรือเพื่อวิ่งในระยะสั้นระหว่างบ้านกับที่ทำงานของเมืองทั่วๆไป เมื่อ การใช้รถหรือยานพาหนะเป็นไปแบบกิจวัตร วิ่งในระยะไม่ไกล ใช้ความเร็วอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่สูงแบบรถแข่ง อย่างนี้ก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเต็มรูป (Full electric Vehicle) ได้อย่างสะดวก ใช้พลังแบบประสมไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle หาก การใช้ยานพาหนะเป็นแบบไม่แน่นอน อาจต้องมีการเดินทางทั้งระยะสั้นและระยะยาว และอาจไม่สามารถวางแผนการเดินทาง การชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างมีเวลาเตรียมการพอ ก็ให้มีเลือกใช้รถไฟฟ้าลูกประสม (Plug-in hybrid) ซึ่งมีให้เลือกเทคโนโลยีได้ 3 แบบ กล่าวคือ <!--[if !supportLists]--> 1. แบบไฟฟ้าอย่างเดียว (All-electric)<!--[endif]--> <!--[if !supportLists]--> 2. แบบต่อเนื่อง (Series) เช่น ระบบไฟฟ้าพลังหมด หรืออ่อนไป ก็เรียกระบบเครื่องยนต์เผาไหม้น้ำมันแทน<!--[endif]--> <!--[if !supportLists]--> 3. แบบใช้ร่วมกัน (Parallel) ขนานกัน เช่น ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้ แล้วใช้พลังเสริมจากแบตเตอรี่ เมื่อต้องเร่งเครื่อง<!--[endif]--> คนขับเป็นคนเลือกสวิชเอง (Manually) ระหว่าง 3 ระบบ พลังไฟฟ้าของรถจะสูงถึงระดับ 100 kW. แนวคิดบริการรถเช่า Velib รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) เป็น เรื่องมีอนาคต แต่ในเมื่อเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจะยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและอาจรวดเร็ว คนจะซื้อก็คงมีคำถามมากมาย และไม่มั่นใจ เหมือนกับที่เคยเกิดกับคอมพิวเตอร์ ที่มีเทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สินค้าที่ซื้อไปแต่แรก ภายในไม่กี่เดือนเทคโนโลยีตกรุ่น อะไหล่ไม่มีให้ซ่อมแซม ของที่ซื้อไปก็ราคาตก ทางออกคือฝ่ายบริษัทผู้ผลิตต้องใช้วิธีการเช่าใช้แทนการซื้อ อาจจะเป็นการเช่าบางส่วน เช่นแบตเตอรี่ หรือเช่าทั้งคัน ดังนั้นจึงมีบางบริษัทที่มีแผนงานจะประสมประสานระบบจ่ายเพื่อเช่าใช้รถจักรยานและรถยนต์ โดยมีระบบตั๋วสำหรับและระบบรถสาธารณะทั่วไป (traditional modes of public transport) ซึ่งมีบริการให้เช่าใช้อยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องได้ความร่วมมือกันระหว่างบริษัทให้เช่ารถ กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทางเลือกใหม่ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสองราย มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) และรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid Cars) เพื่อป้อนตลาดรถเช่า คือ บริษัท Dassault Group และ Bolloré บริษัทแรกมียานพาหนะชื่อ Cleanova ซึ่งใช้ตัวถังจาก Renault Kangoo ซึ่งเป็นรถแบบ Van เล็ก ส่วน Bollorés Bluecar ได้มีการพัฒนารูปโฉมใหม่ในแบบของอิตาลี โดยมี Pininfarina เป็นบริษัทออกแบบ ซึ่งทั้งสองบริษัทจะมีผลผลิตออกมาในปีหน้า |