LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

ไม่ได้ไปหลายปีดีดัก ..ในวันสงกรานต์ปีนี้ได้มีโอกาสมาที่วัดอุโมงค์ เก็บภาพมาฝากครับ   ???
 วัดอุโมงค์อยู่ใกล้ดอยสุเทพ อยู่ด้านหลังของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หาไม่ยากครับ  :P

คติธรรมภายในวัด น่าคิด น่าจำ ...มุ่งให้แก้ไขตนเอง...น่าปฏิบัติ  :P
วัดอุโมงค์ ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๒๕ ไร่ อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเชียงใหม่ เหตุที่เรียกว่าวัดอุโมงค์ คงเนื่องมาจากในบริเวณวัดมีอุโมงค์ที่สร้างขึ้นเลียนแบบถ้ำ

เมื่อพระญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ. ๑๘๓๙ ก็ทรงบำรุงพระพุทธศาสนาและพระภิกขุสามเณร ทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญวาสี ต่อมาพระองค์ได้ทรงทราบว่าพระเจ้ารามคำแหงมหาราชพระสหายผู้ครองกรุงสุโขทัยได้ส่งคนไปนิมนต์พระสงฆ์ที่มาจากเมืองลังกา ซึ่งได้มาอยู่เมืองนครศรีธรรมราชมาสั่งสอนพระพุทธศาสนาแก่ชาวเมืองสุโขทัย พระสงฆ์ลังกาเหล่านั้นมีความแตกฉานในพระไตรปิฎิกและเคร่งครัดในพระธรรมวินัยยิ่งนัก พระญามังรายจึงเกิดความเลื่อมใสประสงค์ที่จะนิมนต์พระลังกามาเชียงใหม่บ้าง จึงส่งคนไปนิมนต์พระลังกามาจากพระเจ้ารามคำแหงมาได้ ๕ รูป อันมี พระมหากัสสปะเถระเป็นหัวหน้า มาจำพรรษาไว้ที่วัดการโถม ต่อมาพระญามังรายต้องการอาราธนาพระมหากัสสปะเถระมาจำพรรษาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ จึงได้สร้างวัดให้ท่านพำนักโดยเป็นวัดในบริเวณป่าไผ่สิบเอ็ดกอ (วัดอุโมงค์ปัจจุบัน) โดยได้ยึดเอาแบบอย่างลังกา เมื่อสร้างวัดนี้เสร็จแล้ว ได้ขนานนามว่าวัดเวฬุกัฏฐาราม

ในราว พ.ศ. ๑๙๑๐ ในรัชกาลพระญากือนา มีพระสงฆ์ชื่อ พรมหาเถรจันทร์ บวชที่วัดมหาโพธิ์น้อย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ศึกษาพระไตรปิฎกจนแตกฉาน พระญากือนาทรงเลื่อมใสแต่พระพุทธรูปนี้เป็นพระฝ่ายอรัญวาสี พระองค์ได้อาราธนาไปพำนักวัดไผ่สิบเอ็ดกอ พร้อมทั้งทรงสร้างพระสถูปแบบลังกาไว้บนยอดเขาใกล้ ๆ กับวัดแล้วทรงสร้างอุโมงค์ไว้ใต้พระสถูปเจดีย์องค์นี้ เพื่อให้เป็นที่บำเพ็ญธรรมของพระมหาเถรจันทร์ ต่อมาวัดนี้จึงได้ชื่อว่า วัดอุโมงค์เถรจันทร์

ถ้ามาหน้าฝนจะพบกับบรรยากาศที่ร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง  ???
พ.ศ.๒๔๙๐ เจ้าชื่น สิโรรส ได้จัดการแผ้วถาง และสร้างกิฎิหลังเล็ก ๆ ขึ้น แล้วนิมนต์พระภิกษุปัญญานันทะ จากสวนโมกข์ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาจำพรรษาทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตั้งเป็นพุทธนิคมขึ้นปัจจุบันวัดนี้เป็นที่รู้จักในนามวัดอุโมงค์หรือสวนพุทธธรรม

แต่มาวันนี้ หน้าร้อน ..อากาศค่อนข้างอบอ้าว  ???

.. นี่คือสัจจะธรรม ชีวิตคนเราสั้นนัก.. วันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?  ???

ตามประวัติ ..พระเจ้าเม็งรายมหาราช ทรงเป็นผู้สร้างวัดอุโมงค์แห่งนี้ ตั้งแต่พ.ศ.1840  ???

เดินไปอีกนิด เลี้ยวซ้ายก็จะถึงบริเวณลานแสดงธรรม อยู่ใต้เงาไม้ช่วยบดบังแสงแดดที่แผดร้อน  ???

ใกล้ๆกันจะเป็นเกาะกลางน้ำ มีฝูงปลามากมาย..  ???

ภาพบรรยากาศรอบๆเกาะกลางน้ำ... น่ามานั่งพักผ่อนในวันที่ใจไม่เป็นสุข  ???

แต่ระวังขี้นกด้วยนะครับ  ;D ???

ช่างเล็กอยู่เชียงใหม่หรือครับ

ช่วงนี้จะอยู่เชียงใหม่เป็นหลักครับผม  :D :P
..นกกำลังจีบกัน  :( :o

น่า ดูชมมากครับ สถานที่เป็นมงคลเช่นนี้ :) :) :)
ได้อะไรดีๆสกิดใจดีมาก

หน้าทางเข้าอุโมงค์ ... :P

ดูคล้ายๆกำแพงเมืองจีนเนอะ ..  ???

เข้าทางอุโมงค์ด้านหน้า อากาศข้างในเย็นสบาย ไม่อืดอัดเพราะมีช่องลมระบายอากาศ  ???
อุโมงค์ดังกล่าวก่อด้วยอิฐ มีทางเข้าด้านหน้า ๓ ทาง ด้านหลัง ๒ ทาง มีทางเดินแยกออกเป็นหลายช่อง แต่ละช่องมีทางเดินทะลุถึงกัน และที่อุโมงค์ด้านหลัง มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เขียนเป็นภาพนก ดอกไม้ ภาพที่เขียนนี้แสดงลักษณะที่รับอิทธิพลมาจากศิลปะจีน เนื้อที่ภายในอุโมงค์ประมาณ ๒๕๐ ตารางเมตร

ลักษณะการใช้อิฐรูปลิ่มก่อเป็นวงทำอุโมงค์นั้น จัดว่าเป็นหลักฐานในด้านการใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบใหม่เข้ามาใช้ในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอาจพิจารณาประกอบกับเจดีย์ทรงกลมด้วย

พาเด็กๆมากราบไหว้พระพุทธรูปและทำบุญวัด ...อย่างน้อยก็ทำให้จิตใจเด็กๆงดงามยิ่งขึ้น  :P :)

ยันต์กันหลงทางครับ ..  :P