หัวข้อ: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 11:28:27 pm เริ่มเลยครับ
1-อาบน้ำชำระร่างการให้สะอาด นุ่งหุ่มผ้าให้เรียบร้อย 2 จุดเทียน ด้านขวา และด้านซ้ายที่เชิงเทียน 3 สวดมนต์ ทำให้สมาธิน้อมใจไปในบทสวดมนต์ (โบราณว่าเป็นการรักษาโรคได้) 4 ตั้งใจแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศล ที่เราสวดมนต์เมื่อตะกี้ (เพราะการสวดเป็นกุศลอย่างหนึ่งที่เรามีพลังพร้อมจะแผ่ให้สัพสัตว์ทั้งหลาย จะรู้สึกแปลกๆว่ามีความสุขมากตอนที่เรานั่งแผ่เมตตาออกไป) 5 นั่งมองดู พระพุทธรูป รูป ร5 รูปในหลวง รูปพ่อแม่ ตลอดจนรูป พระครูอาจารย์ที่เรานับถือ จะมีความรู้สึกว่าขนหัว ขนตัวลุกมาเอง มีความปีติ น้ำตาคลอเบ้าของเราโดยไม่รู้ตัว 6 คิดดี ทำอย่างไร จิตใฝ่ดี ต้องรวบรวมความนึกคิดให้เป็นกลางๆก่อน ไม่มีมิตรไม่มีศัตรู ไม่นึกถึงใครๆทั้งนั้น ไม่นึกถึงเงินทองที่ได้วันนี้หรือวันหน้า ไม่นึกถึงว่าพรุ่งนี้จะทานอะไร ไม่นึกถึงลูกเมีย ไม่นึกถึงเจ้าหนี้ ค่าเช่า ทรัพย์สิน รถราบ้านช่อง อะไรต่างๆ(ทำได้ไหม...ไม่ได้ก็แสดงว่าต้องนับหนึ่งเลย) 7 หากยังคิด ก็กำหนดลมหายใจ ที่เข้าออก เข้าก็รู้ว่าลมเข้า ออกก็รู้ลมออกแตะผ่านออกทางปลายจมูกเรา กำหนดไปเรื่อย ผ่อนคลายค่อยๆลดลง เริ่มไม่คิด หากคิดอีกก็ค่อยๆ เริ่มทำกำหนดลมหายใจใหม่ จนเริ่มจะติดใจว่าเราทำได้แล้ว อย่าดีใจ นิ่งแล้ว 8 จะเริ่มมีความคิดฟุ้งซ่านลดลง ไม่กังวล ต่ออุปสัคใดๆเริ่มมีความคิดที่เข้าทางฝ่ายดีแล้วครับ ความคิดฝ่ายดีนี้แหละที่ผมพบว่า จะแผ่ให้ใครไป ก็จะมีสิ่งดีๆกลับมา แต่สำหรับคนที่มีคลื่นความดีตรงกันนะครับ หากเราจะแผ่ให้กลับคนคิดคนละทางก็ไม่ตรงกันครับ(ปัญญาเริ่มเกิด) หากบางท่านยังสงสัยว่าพลังจิตมีหรือไม่ ไปค้นหาได้ครับ อ่านหนังสือ The secret หลายๆรอบ จะพบว่า ไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถทำ และตั้งใจทำแล้วจะไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าเรายัง มืดคิดไม่ออก เพราะอวิชชาบังไว้เท่านั้นเอง 9 เปิด CD ธรรมะฟังสักหนึ่งแผ่น อะไรก็ได้เท่าที่เรามี ได้จากพระแจกมา เพื่อนให้มา ซื้อมา ก็ตาม สำคัญต้องเปิดฟัง 10 ความรักที่มีต่อเพื่อนๆที่มีแต่อคติ ต่อคนที่โกรธและเกลียดเราจะค่อยๆเข้าใจเขา จางหายกลายเป็นความเข้าใจว่าเขาคงไม่เข้าใจเราเองนะ หากเขารู้ว่าเราไม่ได้คิดไม่ดีเลยเขาคงเข้าใจเราเอง ความเกลียด ต่อใครๆที่เราว่าเขาไม่ดี จะเริ่มหายไปและไม่มีในที่สุด ความเมตตาสงสารปราถนาดีและความสุขุมนิ่งเยือกเบ็น จะกลับมา เป็นคนละคน การให้วัตถุ ของขวัญต่างๆ ร้อยให้พันให้ ก็ไม่สู้การให้คน คิดไม่ดีกลับมาคิดดีคิดถูก สำคัญที่สุด การให้แห่งการให้ คือการให้อภัยต่อกันและกัน แต่การให้อภัยนั้นก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง เช่นให้อภัยเพราะเขายังไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงเขาเห็นผิดไป เขาไม่เข้าใจ เขาเรียนมาน้อย เขาโง่เขลาเบาปัญญา เช่นนี้เรียกว่าการให้อภัย (แต่ปัญญาของผู้รู้แท้จริง จะอุเบกขากับเรื่องร้ายแรงผิดกฏหมาย ผิดกฏธรรมชาติ เช่นมีผู้ทำผิกกฏหมาย ค้ายา ทำหลายชาติฆ่าคนโดยเจตนา อันนี้ท่านจะไม่ใช้คำว่าให้อภัย จะต้องใช้หลักธรรม พรหมวิหาร 4 ข้อสุดท้าย คือ วางเฉย ไม่ยินดียินร้ายต่อชนพวกนี้) เท่านี้ก่อนครับ ยาวไป เดี๋ยวจะหาว่าเทศนาไป หัวข้อ: Re: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: dekwat♥ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2008, 12:14:10 am :D :D :D
หัวข้อ: Re: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2008, 05:55:08 am ดีครับท่านมหา....ผมชอบเป็นการเตือนสติที่ดีในการเจริญภาวนา ที่ถูกที่ควร
ไม่อยากจะบอกเลยครับว่า...การแสดงกระทู้ของท่านในเรื่อง ธรรม ผมจะอ่านไม่ให้หลุดเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว หัวข้อ: Re: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: winai4u-LSV team ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2008, 08:42:07 am ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูงครับ
กำลังหาอยู่พอดี ช่วงนี้ฟุ้งซ่านมากครับ ตอนนี้ผมเข้าตำรา "อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่ในหมู่มิตรให้ระวังวาจา" :) หัวข้อ: Re: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: supoj007 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2008, 09:58:33 am หากมีเวลา เราเริ่มทำ หยุดการเล่นอินเตอร์เน็ตสัก ชั่วโมงก่อนนอนครับ ท่านน้องต้นทำได้ครับ แต่ต้องทำในแนวที่ถูกต้อง พระท่านว่าทางลัดครับ ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ที่ห้องเรานั่นแหละ แล้วค่อยหาเวลาเข้าวัดที่สงบๆ หาวิธีการ
จำไว้ว่า คนคิดดีมักจะหลีกจากคนไม่ดีเสมอ หากเราคิดว่าเราจะเริ่มทำใจดี ควรอย่างยิ่งที่จะหลีเสียจากการคบกลุ่มคนชักชวนไปแนวทางอบายภูมิครับ (คบได้สังสรรค์ได้แต่ใจเราต้องอิสระ) -การหาความรู้ร่ำเรียน จนถึง ดร. แค่บำรุงสมอง ให้เจริญให้ปราชย์เปลื่อง-แค่ฉลาดในวิธีการหาเงินทอง เพื่อร่างกายอยู่รอด ทำงานรอด เท่านั้นเอง -แต่การหากุศลธรรม มันบำรุงจิตใจ การเจริญทำใจให้คิดดีคิดถูก มันเป็นสุดยอด เดี๋ยวค่อยว่าต่อ หัวข้อ: Re: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:11:58 pm เยี่ยมมากครับ ...หากทุกคนทำได้ โลกเราคงน่าอยู่กว่านี้เป็นแน่แท้ครับ :-X :P
อ้างถึง จะรู้สึกแปลกๆว่ามีความสุขมากตอนที่เรานั่งแผ่เมตตาออกไป ..จริงครับ ทำเสร็จแล้วจะทำให้เรามีจิตใจสดชื่น+ดีงามมากขึ้น .......ทุกวันประมาณ3ทุ่มผมจะนั่งแผ่เมตตาให้ คุณพ่อ..คุณแม่(หากเน้นตั้งใจแผ่นานๆคุณแม่จะรับรู้ได้ครับ คล้ายๆจะมีกระแสจิตอะไรซักอย่างให้มีเหตุจะโทรกลับมาหาผม ..เป็นเรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อครับ ....ส่วนคุณพ่อผมเสียแล้วเมื่อต้นปี50) ..และแผ่เมตตาให้คุณครูบาอาจารย์ ... เทวดา ...เปรต ...เจ้ากรรมนายเวร...สรรพสัตว์ทั้งปวง ...ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนร่วมโลก ...เพื่อนๆในเว็บบอร์ดทุกท่านครับ :) .. ..มาปฏิบัติกันเถอะครับ ทำที่ไหนก็ได้แม้ที่โต๊ะซ่อม ..บนรถ...ฯลฯ แล้วเพื่อนๆจะพบว่าชีวิตเราจะมีความสุขเพิ่มอีกเยอะ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรียังกล่าวไว้ว่า การปฏิบัติกรรมฐานนั้นได้บุญกุศลยิ่งหาที่เปรียบไม่ได้ครับ :-X |