พิมพ์หน้านี้ - หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"

สารพัดช่าง-แนวทางอาชีพ => ปากพนัง..เมืองดีที่ถูกลืม. => ข้อความที่เริ่มโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 08:55:07 am



หัวข้อ: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 08:55:07 am
 ::)


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:03:36 am
จากการที่ได้ตระเวณไปปักษ์ใต้เกือบสัปดาห์ ได้สัมผัสลึกๆกับหลายอาชีพด้านการเกษตร บางครั้งเมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพช่าง  ช่างเราจะได้เปรียบเรื่องการลงทุนที่ไม่สูงมากนัก และขั้นตอนตลอดถึงความเหน็ดเหนื่อย-ผลตอบแทน ..อาชีพช่างหากเก่งจริงและขยันจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าครับ
..ยกตัวอย่างง่ายๆ สวนปาล์มของพี่ชายผมที่จ.กระบี่ ปลูกไว้35ไร่ อายุปาล์มประมาณ7ปีกำลังให้ผลผลิต ลงทุนไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท (พร้อมที่ดิน)ให้ผลตอบแทนประมาณเดือนละ 3 หมื่นบาท(ยังไม่หักค่าใช้จ่ายเช่นค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าคนตัดทะลายปาล์ม ค่าขนส่ง ฯลฯ )
..และสวนปาล์มที่ปากพนังเนื้อที่ประมาณ 60ไร่ กำลังปลูก อายุปาล์มประมาณปีกว่าๆ ...นั่นคือผมต้องรออีก 3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้...
..หรือลงทุนรถแบคโคมือสองที่ต้นทุนตกคันละ 7 แสนบาท รวมค่าซ่อมแซมแล้วตกประมาณ 8 แสนบาท จะมีรายได้ประมาณเดือนละ 1 แสนบาท (ยังไม่หักค่า%คนขับ 10%ของรายได้รวม)
..ส่วนเรื่องเรือประมง เลิกคิดได้เลยครับ มีแต่ขาดทุน เพราะปลาที่มีราคาในอ่าวไทยของเราแทบไม่มีเหลือ จะต้องวิ่งไปจับในเขตเวียตนาม มาเลย์ ..โดนจับไม่คุ้มกันครับ


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:06:56 am
อีกอาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมกันแถวๆจ.นครศรีธรรมราช คือปลูกต้นสน  ที่นี่ปลูกกันเยอะสำหรับผู้ที่มีเนื้อที่ไม่สูงมากเช่น 2-3 ไร่  ต้นสนจะปลูกได้สูงสุดถึงไร่ละ 1 พันต้น และจะตัดได้ประมาณปีที่ 7 ตกต้นละ 500 บาท  ต้นสนจะดูแลยากช่วงปีแรกต้องระวังวัชชพืชและอย่าให้น้ำท่วมขัง หลังจากนั้นจะปล่อยตามธรรมชาติ  นับว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ว่าง ..

ภาพด้านล่างคือสวนปาล์มที่ปากพนัง ซึ่งเพิ่งปลูกได้ปีกว่าครับ ..หญ้ารกรุงรังมาก ผมจึงต้องลงไปดูแลในสัปดาห์ที่แล้ว  ส่วนดงไม้สูงๆด้านหลังคือไร่ต้นสนที่ชาวบ้านแถวนั้นปลูกไว้อายุปีกว่าๆ สอบถามเขาดูลงทุนไม่เยอะครับ กล้าต้นสนตกต้นละ1 บาท...


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:11:49 am
อีกอาชีพที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน คือนาดัน  หลักการทำนาดันคือจะดึงน้ำทะเล หรือน้ำกร่อยเข้ามาในนากุ้งที่ขาดทุนเลิกทำแล้ว (ต้องมีเนื้อที่เยอะ 20-30ไร่จึงจะคุ้ม) และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3 เดือน จากนั้นจะระบายน้ำออก ..กุ้ง ปลา ก็จะออกมาตามน้ำด้วย กุ้งบางแห่งจะได้ 3 ตัว/กก. รายได้ประมาณ 3 หมื่นบาท/ครั้ง  หลังจากนั้นก็จะดันน้ำใหม่เข้าไปแทนที่อีก ไข่ กุ้งปลา ชุดใหม่ ชุดเก่าก็จะหมุนเวียนกันเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ผู้เลี้ยงไม่ต้องให้อาหาร  ...แต่ข้อเสียก็คือต้องลงทุนที่ดินอย่างต่ำๆก็หลักล้านครับ :'(


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:18:13 am
ประจวบจังหวะช่วงที่ผมลงไป ฝนตกเสาะแสะ(ภาษาปักษ์ใต้ - แปลว่าฝนตกๆหยุดๆ) ทำให้ผมลงไปถ่ายทำภาพมาประกอบยาก
..และหลายเหตุประดังเข้ามาทำให้ผมต้องรีบเดินทางกลับจ.เชียงใหม่ มาควบคุมระบบserver และดูแลร้านที่เชียงใหม่ ...เอาไว้โอกาสหน้าหากมีเวลาใหม่ผมคงจะไปหาแนวทาง สู้ชีวิต มาฝากเพื่อนๆใหม่แบบเจาะลึกกว่านี้ เพราะไปคราวนี้เข้าสวนปาล์มที่เพิ่งปลูกลุยปราบหญ้ากันอย่างเดียว ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมากครับ..
..2 วันที่กลับมาอยู่ร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้า ในจ.เชียงใหม่.. เมื่อหันกลับมามองดูอาชีพช่างซ่อม  มีความรู้สึกว่าเป็นงานที่เรียบง่าย ไม่ต้องลงทุนสูง ไม่เสี่ยงมาก  หากมีความรู้และขยัน ..เดือนละ 3-4 หมื่นเป็นเรื่องที่ทำไม่ยากเลย ..ไม่อยากให้เพื่อนๆท้อถอยอาชีพช่างครับ ..ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับผม  :P :)


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: mbsamart ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:44:58 am
ผมตกเสาะแสะ(ภาษาปักษ์ใต้ - แปลว่าฝนตกๆหยุดๆ)
นึกว่าพี่เล็กตกอะไร :P ถ้าฝนตกส็อกแส็ก คือตกปรอยๆ ไม่หนัก แต่นาน :P


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2007, 09:48:10 am
นั่นแหละ ..ช่วยมาแปลให้หน่อยครับ ห่างบ้านมานาน ..พูดคล่องแต่ไม่เนียนซะแล้ว อิๆ  :D :P :)


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: prom jantapho ที่ กันยายน 09, 2009, 03:20:55 pm
แถวบ้านผมหากว่าตกแบบตกบ้างหยุดบ้าง เรียกว่า ฝนตก สอกแซก


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: pimchanokabc ที่ กันยายน 10, 2009, 10:57:20 am
กับสวนปาล์มในนครศรีธรรมราช เขตลุ่มน้ำปากพนัง ส่วนตัวผมไม่สับสนุนให้ทำเนื่องจากประสปการณ์การรับราชการมาหลายปีที่กระบี่ (ประมาณ 6-7ปีระหว่างปี 2532 - 2538)เมื่อมาเทียบกับพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังความอุดมสมบูรณ์ของดินแตกต่างกันมากเดิมทางกระบี่เขาปรับสภาพมาจากป่าแล้วมาปลูกปาล์มเลย ความสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดินค่อนข้างสูงจะไม่มีประวัติการใช้ปุ๋ยเลยนอกจากช่วงหลังนี้ แต่สถาพดินทางบ้านเราเขตลุ่มนำ้ปากพนัง จะมาปลูกในพื้นที่เดิมซึ่งทำนาข้าวหรือปรับมาจากสภาพบ่อกุ้งซึ่งต้องอาศัยปุ๋ยเป็นหลัก ซึ่งในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ทางรัฐได้ให้ประชาชนที่ทำบ่อกุ้งในเขตลุ่มน้ำปากพนังปรับเปลี่ยนอาชีพ เพราะได้มีการแบ่งโซนน้ำจืดน้ำเค็ม ผมและครอบครับเป็นบุคคลหนึ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนไปโดยปริยายเพราะติดอยู่ในเขตน้ำจืด โดยรัฐบาลสมัยนั้นก็ใด้สงเสริมให้ปลูกปาล์นน้ำมัน ผมเองก็ได้พูดคุยกันไนครอบครับและอธิบายให้เห็นถึงผลดีและผลเสียจากประสปการณ์ และอธิบายถึงเหตุผล ครอบครับและญาตพี่น้องผม เลยไม่ขอรับการปลูกปาล์มน้ำมันแต่ขอรับปรับเปลี่ยนอาชีพมาทำตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริแทน สำหรับท่านอื่นก็ดำเนินการปลูกปาล์มน้ำมัน และมีรายใหญ่มากๆในอำเภอเชียรใหญ่ที่ปลูกอยู๋ตอนนี้มีอยู่หลายพันไร่ ตอนนี้เครียดครับเพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินการค่อนข้างมากเขามีอุปกรณ์เครื่องมือทันสมัยครบทุกอย่างแต่เรื่องปุ๋ยเป็นเรื่องใหญ๋ครับ ลงทุนไปแล้วถ้าไม่กล้าลงต่อหรือจะหยุดก็ไม่ได้ เพราะดำเนินการมาหลายปีแล้ว เคยพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเจ้าของสวนปาล์มหลายเจ้าในเขตเชียรใหญ่ก็พบปัญหาเหมือนกัน ผมกลัวเจ้าของจะให้ข้อมูลแต่ในทางที่ดี ก็ไปสอบถามกับพรรคพวกที่มีอาชีพรับจ้าง ตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย และแทงปาล์ม คำตอบที่ได้คือหักค่าใช้จ่ายแล้วได้ไม่มากเท่าไหร่และผลผลิตที่ได้เมื่อเทียบกับจังหวัดกระบี่แตกต่างกันมากเลยครับ สำหรับความคิดผมในเขตลุ่มน้ำปากพนัง ที่น่าจะปลูกได้ผลปุ๋ยไม่ต้องใช้เยอะน่าจะเป็นบริเวณป่าพรุ  สำหรับการปลูกสน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาไปดูเลมากนักดูแลเฉพาะปีแรกๆ ปีหลังๆก็ทิ้งได้เลย ใช้เวลาประมาณ 7 ปี ก็ตัดขายได้เลย(ลงทุนแค่ครั้งเดียวครบกำหนดได้เงินก่อน) เล่าให้ฟังนี้เป็นเฉพาะในพื้นที่ๆผมอยู่นะครับ พื้นที่อื่นน่าจะดีกว่าหรือเป็นอย่างไรบ้างก็บอกเล่ากันบ้างนะครับเผื่อเป็นแนวคิดให้ท่านอื่นที่คิดจะตัดสินใจทำ :D


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กันยายน 10, 2009, 11:52:28 am
ขอบคุณในความคิดเห็นมากนะครับ  :D smiley4

... ผมก็ไม่เชี่ยวชาญเรื่องดิน เรื่องพืชมากนัก .. ต้องลงมาทำสวนปาล์มเพราะเป็นบ้านเกิด และลงทุนไปเยอะแล้ว(พี่น้อง4คนหุ้นกันครับ) ใจจริงอยากมาเปิดศูนย์บริการรับซ่อมทีวี+เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า แต่ติดขัดเรื่องเงินทุนพอสมควรเพราะนำเงินมาลงทุนสวนปาล์มเกือบหมดครับ

.. คงต้องรออีกเกือบ2ปีครับ ถึงจะมีรายได้จากผลปาล์ม ..ระยะนี้ก็ปลูกตะไคร้แซมร่องปาล์มอยู่ครับ แม่ค้ารับซื้อถึงสวนไม่อั้นครับ มีเท่าไรเอาหมด .. แต่เพิ่งลงชุดแรกได้ไม่เยอะ ลงไปได้100กว่าก.ก.เท่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาแล้งพอสมควร ขี้เกียจรดน้ำครับ คงต้องรอหน้าฝนต้นเดือนตุลาคมนี้จะลงตะไคร้เพิ่มให้เต็มสวนครับ... (ต้องใช้ต้นพันธุ์ตะไคร้ประมาณ 5,000ก.ก.จึงจะปลูกแซมได้เต็มครับ)

.. ลองเปรียบเทียบการโตของปาล์มตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึง 2ปีกว่าครับ ที่มุมกล้องใกล้เคียงกัน ใบปาล์มเริ่มบังหลังคาบ้านมิดแล้ว  HAPPY2!!

(http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?action=dlattach;topic=1022.0;attach=2268;image)


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กันยายน 10, 2009, 12:02:42 pm
ผมพยายามลดการใช้ปุ๋ยอยู่ครับ  หันมาใช้ขี้กระต่ายที่เลี้ยงไว้ เพราะค้นคว้าดูแล้วขี้กระต่ายมีไนโตรเจนสูงถึง3.7%และในฉี่กระต่ายก็มียูเรียสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องค่อยๆทดลองเปรียบเทียบกับปุ่ยวิทยาศาสตร์ในระยะยาว เพิ่งทดลองได้ประมาณ3เดือนคงสรุปผลอะไรมากยังไม่ได้ครับ  :(

  แต่ที่แน่นอน ...ต้นนี้ใช้ปุ๋ยขี้กระต่าย+ทำรางฉี่กระต่ายลงไปใกล้ๆครับ จากใบที่เคยเหลือง ตอนนี้เริ่มเขียวทันตาไม่แพ้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์เลย  smiley4


หัวข้อ: Re: หลากอาชีพ...เหนื่อยสุดๆกว่าอาชีพช่าง?
เริ่มหัวข้อโดย: prom jantapho ที่ ตุลาคม 21, 2009, 03:39:05 pm
อ้างถึง
ผมพยายามลดการใช้ปุ๋ยอยู่ครับ  หันมาใช้ขี้กระต่ายที่เลี้ยงไว้ เพราะค้นคว้าดูแล้วขี้กระต่ายมีไนโตรเจนสูงถึง3.7%และในฉี่กระต่ายก็มียูเรียสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องค่อยๆทดลองเปรียบเทียบกับปุ่ยวิทยาศาสตร์ในระยะยาว เพิ่งทดลองได้ประมาณ3เดือนคงสรุปผลอะไรมากยังไม่ได้ครับ 
 แต่ที่แน่นอน ...ต้นนี้ใช้ปุ๋ยขี้กระต่าย+ทำรางฉี่กระต่ายลงไปใกล้ๆครับ จากใบที่เคยเหลือง ตอนนี้เริ่มเขียวทันตาไม่แพ้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์เลย

ไม่เชื่อก็ตรงยกมือให้ครับพี่เล็ก  หาความไม่หยุดนะครับแม้แต่เรื่องการเกษตร    smiley4