หัวข้อ: นิมิตจากในหลวง เริ่มหัวข้อโดย: ช้าง ณ.ปากพนัง -LSV team ที่ มกราคม 19, 2007, 07:21:27 am ๙. นิมิตจากในหลวง ประเทศไทยของเราโชคดีกว่าทุกประเทศในโลก เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม เป็นหลักชัยของมหาชนทั้งแผ่นดิน ยิ่งองค์ภูมิพลมหาราชด้วยแล้ว เป็นสุดยอดของพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงธรรมเลยทีเดียว... ท่านผู้รู้ เมตตาเล่าว่า องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรานั้นเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เลิศด้วยบารมี ได้ทิพยจักขุญาน ตั้งแต่พระชนมายุ ๗ พรรษา ทรงปฏิบัติธรรมได้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งนัก สามารถทรงสมาธิได้ทุกเวลาที่ต้องการ...! หลังจากออกจากพระจุฬามณีแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วเสด็จนำอาตมาไปยังดินแดนแห่งเอกันตบรมสุข คือพระนิพพาน อาตมาได้พบเห็นเมืองแก้ว แพรวพราวงามระยับจับตา สูงส่งสง่า สงบ เยือกเย็น เป็นสุขสบายจนบอกไม่ถูก... อาตมาได้มีโอกาสได้เข้าไปกราบ สมเด็จพระพุทธสิขีทศพลที่ ๑ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกสุด พร้อมด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และพระอรหันตเจ้าทั้งหมด... ถ้าใครบอกว่าเป็นการสะกดจิต เป็นการนึกฝันเอาเอง อาตมาก็ยอมให้สะกดจิต ยอมเพ้อฝันเอาเอง ขอให้มีคนสามารถสะกดจิต ให้คนไปนิพพานได้จริง ๆ เถอะน่า จะยอมให้สะกดทั้งชาติเลยซิเอ้า...ถ้าท่านทำไม่ได้ ก็อย่าแสดงความโง่ด้วยการปฏิเสธเลย...! ออกจากวิมานขององค์สมเด็จพระบรมสุคต อาตมาก็ตรงไปยังวิมานของตน ที่หน้าวิมานนี่เอง อาตมาพบองค์ในหลวงในเพศพระภิกษุห่มจีวรเหลืองอร่าม ในพระหัตถ์ทรงบาตร ประทับยืนขวางทางอยู่... อาตมาถวายบังคมอย่างปลาบปลื้มใจ ทูลถามว่า เสด็จมาด้วยพระประสงค์ใด พระองค์ชี้พระดัชนีลงในบาตร อาตมาเห็นว่ามีน้ำอยู่ครึ่งบาตร และมีเรือสำเภาลำน้อยลอยวนอยู่... ทันใดนั้น...อาตมาลงไปอยู่ในเรือได้อย่างไรไม่รู้ น้ำในบาตรกลายเป็นมหาสมุทรกว้างสุดลูกหูลูกตา กระแสน้ำกลายเป็นวังวนมหึมาหมุนวนเชี่ยวกรากน่าสะพรึงกลัว ดูดเอาเรือสำเภาที่มีอาตมาอยู่ในนั้นเข้าไปใจกลางวังวนอย่างรวดเร็ว...! ทำไมมาแกล้งกันแบบนี้...! อาตมาตะโกนด้วยความตกใจ องค์ในหลวงมีดำรัสว่า "หาทางขึ้นมาซิ..." พริบตานั้น...ปรากฏเส้นเชือกใหญ่น้อยนับไม่ถ้วนพาดจากฝั่งมายังเรือ อาตมาเลือกเชือกเส้นใหญ่ที่สุดปีนกลับขึ้นมาบนฝั่งอย่างง่ายดาย กราบทูลถามว่า "นิมิตนี้หมายถึงอะไรพระเจ้าข้า...?" ทรงตรัสว่า "นานไปแล้วเธอจะรู้เอง".... หลังจากนั้นหลายปี มีผู้รู้พยากรณ์นิมิตนั้นว่า เรือสำเภาหมายถึงพระโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญบารมีมาเพื่อขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสารแสดงว่าอาตมาคงบำเพ็ญบารมีมาในด้านนี้ แต่การที่สละเรือขึ้นสู่ฝั่งแปลว่าอาตมาต้องลาจากพุทธภูมิ...! เชือกเส้นใหญ่ที่สุดที่อาตมาเลือกเพื่อปีนขึ้นฝั่ง คือหนทางปฏิบัติที่อาตมาเห็นว่ามั่นคงที่สุด ที่จะพาตนพ้นจากวัฏสงสาร เข้าสู่ดินแดนแห่งพระนิพพาน คือการที่อาตมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อนั่นเอง...! องค์ในหลวงของเราทรงปฏิบัติภารกิจ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนทุกถ้วนหน้า อย่างมิคำนึงถึงความเหนื่อยยากของพระองค์ เกียรติคุณของพระองค์ท่าน ขจรขจายไปทั่วโลก ทุกชาติทุกภาษาทั้งอิจฉาทั้งเลื่อมใส ที่เรามีผู้นำที่วิเศษเห็นปานนี้... ดวงแก้ววิเศษอยู่กับเราแล้ว อีกกี่ยุคกี่สมัยจึงจะมีเช่นนี้อีก ขอทุกท่านจงคำนึงและยึดมั่นในพระองค์ท่าน สิ่งใดที่เป็นการแบ่งเบาพระราชภาระ และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ขอทุกคนจงทำสิ่งนั้นอย่างเต็มสติกำลังโดยถ้วนหน้ากันเถิด... บารมีพระมากพ้น รำพัน พระพิทักษ์ยุติธรรม์ ถ่องแท้ บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องโลก ไซร้แฮ ทวยราษฎร์รักบาทแม้ ยิ่งด้วย บิตุรงค์ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ |