หัวข้อ: ทานน้ำมันปลา ( Fish oil ) ต่อเนื่องกัน 90 วัน จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย???? เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ เมษายน 27, 2024, 10:12:23 am 26 เม.ย. 2024
โค๊ด: https://youtu.be/ICDFA4s-nIY?si=Orh_aC1s73NM4zPd ทานน้ำมันปลา Fish oil ต่อเนื่องกัน 90 วัน จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย? น้ำมันปลา คืออะไร? น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่ได้จากการสกัดจากส่วนต่างๆ ของปลา เช่น ไขมัน เนื้อ หนัง เนื้อเยื่อ โดยในน้ำมันปลานั้นจะประกอบไปด้วย สารอาหารและวิตามินหลายๆ ชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดโดโคซาเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA กรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ EPA เป็นต้น น้ำมันปลา ช่วยอะไรบ้าง? น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อร่างกายหลายๆ ด้าน เนื่องจากสกัดมาจากแหล่งธรรมชาติและอุดมไปด้วยกรดต่างๆ และวิตามินที่ดี ดังจะเห็นได้จาก 10 ประโยชน์น้ำมันปลา ดังนี้ 1. น้ำมันปลามีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง ให้มีความจำที่ดีขึ้น 2. น้ำมันปลาช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม เนื่องจากกรด DHA จะเข้าไปทำหน้าที่ลดการสร้างเส้นใยในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคความจำเสื่อม 3. น้ำมันปลาช่วยลดน้ำหนักได้ แต่อย่างไรก็ต้องออกกำลังกาย และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพควบคู่ไปด้วย 4. น้ำมันปลาช่วยลดการอักเสบหรือการอักเสบของกระดูกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำมันปลามีส่วนช่วยในการ ลดการผลิตสารและยีนที่หลั่งสารไซโตไคน์ 5. น้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว 6. น้ำมันปลาช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้มากถึง 20-25% โดยไม่มีผลข้างเคียง 7. น้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน เนื่องจากมีกรด EPA ที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาล ในร่างกายได้เป็นอย่างดี 8. น้ำมันปลาช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน เนื่องจากประโยชน์ข้อสำคัญของน้ำมันปลาคือ ช่วยทำให้หลอดเลือดขยาย ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดสารเซโรโทนินและโพรสตาแกลนดิน 9. น้ำมันปลาช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าหรืออาการทางจิต เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า 3 นั้นส่งผลต่อการทำงาน ของสมองและการผลิตสารต่างๆ 10. น้ำมันปลาช่วยลดความดันโลหิตสูง ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งจะส่งผลให้ระบบ ไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น 3 ข้อห้ามที่ควรรู้ น้ำมันปลาไม่ควรกินคู่กับอะไร? แม้ว่าการกินน้ำมันปลาจะมีประโยชน์ และมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ก็ไม่ควรกินคู่กับอาหารดังต่อไปนี้ เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแทน 1. น้ำมันปลาไม่ควรกินคู่กับยาต้านการแข็งตัวของเลือด แอสไพริน, วาร์ฟาริน หรือโคลพิโดเกล จัดว่าเป็นยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด มีสรรพคุณในการป้องกันโรคเกี่ยวกับเลือดต่างๆ ช่วยทำให้เลือดใส ไม่จับตัวเป็นก้อน เช่นเดียวกับน้ำมันปลา ที่มีสรรพคุณคือ ช่วยทำให้เลือดใส ไม่เข้มข้นจนเกินไป และยับยั้งการแข็งตัวของเลือด แน่นอนว่าเมื่อกินพร้อมกันอาจส่งผลให้เลือดในร่างกายนั้นแข็งตัวช้า ตลอดจนเสี่ยงต่อการเลือดออกและไหลหยุดช้าด้วยเช่นกัน 2. น้ำมันปลาไม่ควรกินคู่กับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง แม้ว่าน้ำมันปลาจะอยู่ในรูปแบบของแคปซูลเม็ดเล็กที่ร่างกาย ควรได้รับประมาณ 3,000 มิลลิกรัม/วัน แต่หากกินน้ำมันปลาในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายได้รับแคลอรีสูง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอล เพิ่มสูงตามไปด้วย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงจะดีกว่า 3. ผู้ที่มีอาการแพ้ไม่ควรกินน้ำมันปลา ผู้ที่แพ้อาหารทะเลหรือแพ้ปลาไม่ควรกินน้ำมันปลา เพราะอาจจะให้โทษแทนประโยชน์ได้ โดยผู้แพ้บางรายมีอาการปวดหัว อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง ตลอดจนอาการท้องเสีย น้ำมันปลา กินตอนไหนดี? โดยปกติแล้ว ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุดในช่วงเวลา 12.00 - 20.00 น. โดยเฉพาะขณะที่กินอาหารหรือหลังจากกินอาหารเข้าไปแล้ว ดังนั้น หากจะให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจึงควรกินน้ำมันปลา ระหว่างมื้ออาหารหรือหลังจากมื้ออาหาร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที ประโยชน์น้ำมันปลานั้นมีหลากหลายด้าน ทำให้น้ำมันปลากลายเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในคนทุกเพศทุกวัย แต่ทั้งนี้จะต้องกินน้ำมันปลาในปริมาณที่พอดี และในเวลาที่เหมาะสม จึงจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตนเองที่มีโรคประจำตัว เคยแพ้ยาหรือน้ำมันปลา หรือมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ หัวข้อ: Re: ทานน้ำมันปลา ( Fish oil ) ต่อเนื่องกัน 90 วัน จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย???? เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ เมษายน 29, 2024, 11:27:35 am THANK!! wav!!
|