หัวข้อ: ผณี วีรสตรีไทยในสงครามโลกที่คนไทยไม่รู้จัก เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ มกราคม 09, 2024, 08:59:43 am (https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/416912397_390117626750570_4214042733411091035_n.jpeg)
----------------------------------------------------------------- ผณี วีรสตรีไทยในสงครามโลกที่คนไทยไม่รู้จัก แต่ถูกยกย่องจากทั่วโลกเธอโด่งดังมากในต่างแดน ในฐานะที่เธอช่วยเหลือชีวิต เชลยสงครามโลกไว้เป็นจำนวนมาก แต่น่าแปลกที่ในเมืองไทย น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินเรื่องของเธอ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด.ญ.ผณี สิริเวชชะพันธ์ อายุได้ 14 ปี กำลังเรียนอยู่ที่ ร.ร. ราชินี ก็ถูกครอบครัวเรียกกลับมาที่กาญจนบุรีเพื่อหนีสงคราม แต่เปรียบได้กลับหนีเสือปะจระเข้เลยนะ เพราะตอนกลับไปถึงบ้าน เมืองกาญจน์นี่แหละ หนึ่งในบริบทที่เศร้าที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ที่นั่นทหารญี่ปุ่นเข้าควบคุมทุกพื้นที่ มีการตั้งค่ายเชลยตามจุดต่างๆ เพื่อสร้างทางรถไฟข้าม ไปยึดอินเดียผ่านไทยไปทางพม่า ต้อนเชลยหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งเชลยชาวดัชท์ ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกัน มารวมกันเพื่อการนี้ คนญี่ปุ่นบอกไว้ว่าจะไม่ทำอะไรคนไทยหรอก พวกเราเป็นพันธมิตรกันนี่นา แต่ถ้าคุณเข้ามาขวางเมื่อไหร่ ก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกันนะ 2 แสนกว่าชีวิตถูกพรากไป ระหว่างการสร้างทางรถไฟสายนี้ ด้วยการร่นระยะเวลาทำงานของญี่ปุ่น จากเส้นทางที่ต้องใช้เวลาตามปกติถึง 5 ปี พวกเขาทรมาณเชลยให้ทำทั้งวันทั้งคืนจนสำเร็จใน 14 เดือน! สภาพเชลยนี่ไม่ต่างอะไรกับโครงกระดูกเดินได้ บางคนก็เป็นคอตีบ บิด อหิวาห์ บ้างก็ออกไปอึ๊แล้วก็ตายจมหลุมส้วมไม่กลับมาอีกเลย ยารักษาโรค ญี่ปุ่นก็แทบไม่ประทานมาให้แพทย์ประจำค่าย ทำงานได้แผลมาก็ค่อยๆ เป็นแผลเปื่อย เนื้อเน่า ตายกันไปตามๆ กัน บางคนป่วยหรือทำงานช้า ก็จะถูกยิงทิ้งให้เพื่อนดูเป็นอุทาหรณ์ ณ จุดนั้น ญี่ปุ่นเกินขอบเขตคำว่า มนุษยธรรม ไปมากจริงๆ แต่มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวของคุณบุญผ่อง พ่อของคุณผณีนี่แหละ เลี้ยงชีพด้วยการทำร้านขายของชำ ซึ่งต้องส่งของเข้าไปที่ค่ายเชลยเป็นประจำ พวกเขาทนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเชลยเหล่านี้ไม่ได้ คุณบุญผ่องเลยร่วมมือกับแพทย์เชลยในค่ายชื่อคุณหมอดันล็อป แอบซ่อนยาเข้าไปในเสบียงต่างๆ อย่างมิดชิด (คือยิ่งกว่าหนังสายลับ) ปอกก้านส้มโอเพื่อสอดยาบ้าง ซ่อนไว้ที่ตาข่ายเข่งสานบ้าง ใส่ถุงมัดยางไว้ในแก้วแล้วเทโอเลี้ยงใส่ลงไปบ้าง โดยให้คุณผณี ลูกสาวตัวน้อยๆ อายุเพียง 14 ปีเป็นนกต่อ ด้วยความเป็นเด็กน่ารัก ทหารญี่ปุ่นจึงเอ็นดูเธอ ไม่ค่อยจะตรวจตราเธอเท่าไหร่นัก และด้วยความฉลาดหัวไว เธอจึงเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ไวมาก บางครั้งเธอก็หันเหความสนใจทหารญี่ปุ่น ด้วยการร้องเพลงญี่ปุ่น เหล่าทหารก็เคลิ้มหยุดฟัง ด้วยความคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ทหารญี่ปุ่นเริ่มคุ้นชินกับเธอ เธอจึงเข้าออกค่ายเชลยเป็นว่าเล่น แต่หารู้ไม่ว่า รอบตะเข็บผ้าถุงของเธอนี่เต็มไปด้วย ยารักษาเชลยทั้งนั้น พวกเขารู้ดีว่า ถ้าทหารญี่ปุ่นจับได้เมื่อไหร่วาระสุดท้ายของพวกเขาจะมาถึงเมื่อนั้น แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะช่วยเหลือเชลยจนวินาทีสุดท้ายของสงคราม เราประทับใจคำหนึ่งตอนสัมภาษณ์คุณผณี เธอบอกว่า ถ้าเธอเดินช้าไปนิดนึง เชลยจะตายไปคนนึงเลย ต้องรีบเดิน เพื่อจะเอายาไปให้เค้าให้ไวที่สุด หลังสงครามจบ คุณบุญผ่องถูกลอบยิง 1 ครั้ง แต่ก็รอดมาได้ กองพันธ์ประเทศต่างๆ รีบส่งคนมาคุ้มกัน ไม่ให้ฮีโร่ของพวกเขาต้องเป็นอะไรไป เงินมากมายที่ให้เชลยยืมไปใช้ก่อนหลายส่วนก็ไม่ได้คืน ทำเอาบริษัทของเขาเกือบล้มละลาย รัฐบาลฝ่ายสัมพันธมิตรก็วิ่งโร่ช่วยส่งเงินส่งของมาให้เค้าหนุนกิจการ เชลยหลายคนกลับมาเยี่ยมเขาพร้อมครอบครัว ในขณะที่ชาวบ้านยังงงอยู่ว่าทำไมบ้านนี้มีทหารฝรั่ง มาเยี่ยมเยียนมากขนาดนี้ คุณผณีเองก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ ให้ใครต่อใครฟังเท่าไหร่ คุณอมรศรีลูกสาวของเธอเล่าว่าเธอยังรู้สึกผิด เพราะเธอเองก็เป็นเพื่อนกับทหารญี่ปุ่นเหล่านั้น ทุกคนดีกับเธอมาก ในขณะเดียวกันก็ทนเห็นพวกเขา ทำสิ่งที่ผิดมนุษยธรรมขนาดนั้นไม่ได้ คงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งอยู่ในใจเธอเหมือนกัน เรื่องราวสิ้นสุดลงที่คุณบุญผ่องถูกขนานนามให้เป็น วีรบุรุษสิงโตเงียบ และเรื่องราวของพวกเขาก็เงียบจริงๆ ไม่ได้ถูกเล่าขานต่อไปในหมู่คนไทยนัก ในขณะที่เรื่องราวของแพทย์ทหารชาวออสเตรเลียที่ร่วมมือกัน ถูกประโคมลงในบทเรียนจนคนออสเตรเลียทุกคนรู้จัก คุณผณี ตำนานที่ยังหายใจอยู่คนนี้ เพิ่งจะสิ้นลมหายใจไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เราคิดว่าสิ่งที่เธอเคยทำไว้มันมากเกินกว่า จะเงียบหายไปพร้อมตัวเธอ การส่งต่อเรื่องนี้อาจไม่ได้ทำให้คนรู้จักเธอมากขึ้นมากมาย แต่เราก็ยังอยากทำความระลึกถึงเธอ สักครั้งหนึ่งด้วยการเขียนถึงเธอในห้วงเวลานี้ Cr: FOOFOO ที่มา : บันทึกสยาม : เรื่องเล่าบันทึกโลก ping! |