หัวข้อ: โจโค วิโดโด ชีวิตอะเมซิ่งของผู้นำอินโดนีเซีย เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ กันยายน 12, 2022, 08:34:12 am (http://image.free.in.th/v/2013/iw/220912084305.jpg) (http://picture.in.th/id/cea9c950e92182892e5fe6aba22f34fe)
แบรนด์เนมนี่แทบจะไม่ค่อยมีคนเคยเห็นเขาใช้เลย อาหารการกินก็เรียบง่ายเพราะอาหารหลักของโจโควี่คือ เท็มเป หรือถั่วเหลืองหมักเป็นก้อน วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558 เวลา 2:32 น. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดอายุครบ 54 ปีของโจโค วิโดโด หรือที่ตอนนี้คนทั้งโลกรู้จักในชื่อย่อว่าโจโควี่ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอินโดนีเซีย ชีวิตของโจโควี่เป็นชีวิตที่มีอะไรน่าอะเมซิ่งเต็มไปหมด เช่น จากคนธรรมดาสามัญชน สามารถก้าวขึ้นมาเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 7 ของอินโดนีเซีย ประเทศที่ทหารมีบทบาท มากเหลือเกินในการปกครอง และบริหารประเทศ คนธรรมดาสามัญชนก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีได้ ก็ว่าน่าอะเมซิ่งแล้ว แต่ที่น่าอะเมซิ่งกว่าก็คือ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปี จากจุดเริ่มต้นคือการเป็นนายกเทศมนตรีในเมือง ที่เป็นบ้านเกิดคือเมือง โซโล ไม่เต็มสองสมัยดีคือเป็นแค่ 7 ปี เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ว่าฯกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง เป็นผู้ว่าฯนั่งเก้าอี้ไม่ทันร้อน คือนั่งได้เพียง 2 ปี ประชาชนก็เรียกร้องให้มาลงสมัครเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการเลือกตั้งโดยตรงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 กล้าลงต่อกรเป็นประธานาธิบดีกับอดีตนายพลใหญ่ ที่พื้นฐานทางบ้านใหญ่โตมาตั้งแต่สมัยปู่จนเลยมาถึงสมัยพ่อ และเอาชนะได้แบบสบาย ๆ ก็ว่าน่าอะเมซิ่งแล้ว แต่การที่โจโควี่สามารถฝ่ามือเก๋ากึ้กทางการเมืองเช่น นางเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี หัวหน้าพรรคการเมือง ที่เขาใช้เป็นฐานเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง จนสามารถแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้มีคุณภาพคับแก้วได้ จนผู้คนทั้งโลกยอมยกนิ้วให้ ผมว่าน่าอะเมซิ่งยิ่งกว่า ชีวิตการเมืองว่าน่าอะเมซิ่งแล้ว ชีวิตส่วนตัวของโจโควี่ก็เรียบง่าย ติดดินจนน่าอะเมซิ่ง อย่างเช่นเสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงาน ทุกวันถ้าหากไม่ต้องใส่สูท ชุดที่คนอินโดนีเซียเห็นจนชินตาคือ เขาจะใส่สแลกสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วนหรือเสื้อผ้าบาติก ซึ่งภรรยาจะจัดวางให้เลือกสองสามตัวในทุกเช้า เพราะสามีแต่งตัวเรียบง่าย สตรีหมายเลข 1 ของอินโดนีเซีย ก็เลยพลอยแต่งตัวเรียบง่ายไปด้วย เสื้อผ้าของนางอิเรียน่า วิโดโดนั้นหาซื้อได้ตามตลาดพื้นเมืองทั่วไป แบรนด์เนมนี่แทบจะไม่ค่อยมีคนเคยเห็นเธอถือเลย อาหารการกินก็เรียบง่ายเพราะอาหารหลักของโจโควี่คือ เท็มเป หรือถั่วเหลืองหมักเป็นก้อน ซึ่งเป็นอาหารหลักราคาถูก ของคนอินโดนีเซียทั่ว ๆ ไปนั่นเอง ตัวพ่อแม่ใช้ชีวิตติดดินเรียบง่ายก็ว่าน่าอะเมซิ่งแล้ว แต่การที่เขาสามารถสอนให้ลูกทั้งสาม ชายสองหญิงหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกนายกเทศมนตรีเมืองโซโล ต่อมาได้กลายเป็นลูกผู้ว่าฯกรุงจาการ์ตาและ สุดท้ายได้กลายเป็นลูกประธานาธิบดีของประเทศ ให้เรียบง่ายติดดินได้นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะครับ ลองดูตัวอย่างลูกชายคนโตที่ทำธุรกิจรับจัดเลี้ยงในเมืองโซโล นอกจากจะพยายามทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองแล้ว ลูกชายคนโตซึ่งปัจจุบันอายุเพียง 28 ปี ยังมีจริยธรรมทางธุรกิจมากพอ ที่จะประกาศไม่รับจัดงานให้สำนักงานเทศบาลเมืองโซโล เพื่อป้องกันคำครหาเรื่องการใช้เส้นสายของพ่อเข้าไปรับงาน ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือการที่ลูกชายคนเล็ก ของครอบครัวนี้ที่เพิ่งได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนในสิงคโปร์ บอกว่า การเดินทางส่วนใหญ่ของเขาในสิงคโปร์ก็คือ การนั่งรถโดยสารประจำทางหรือรถบัส เพราะค่าโดยสารถูกกว่าการนั่งรถไฟใต้ดิน เพราะเงินที่พ่อแม่ให้มามีจำนวนจำกัด เขาจึงต้องประหยัดไว้ก่อน ที่น่าอะเมซิ่งกว่านั้นก็คือลูกชายคนเล็กนี่แทนที่ จะไปคุยโม้อวดเบ่งว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร ใหญ่แค่ไหนในอินโดนีเซีย แต่เขากลับบอกคนอื่น ๆ ว่า พ่อของผมเป็นนักธุรกิจธรรมดา ๆ ความลับมาแตก ก็ตอนที่โรงเรียนจัดงานรับประกาศนียบัตรที่พ่อแม่ จะต้องมาร่วมงานนั่นเอง ที่คนทั้งโรงเรียนถึงรู้ว่าเด็กคนนี้ มีพ่อเป็นประธานาธิบดีเลยทีเดียว ตอนที่โจโควี่กับภรรยาเดินทางมาสิงคโปร์ เพื่อมาร่วมงานของลูกชายคนเล็ก เขาได้สร้างความประทับใจ ให้กับคนทั้งโลกอีกครั้ง ด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินส่วนตัว และเลือกที่จะเดินทางในชั้นประหยัด ซึ่งโจโควี่นั้นบินในชั้นประหยัดมาโดยตลอดไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใหญ่แค่ไหน ปีนี้เพิ่งอายุเพิ่งจะเต็ม 54 ปี โจโควี่ยังมีโอกาสสร้างเรื่องอะเมซิ่ง ให้เราได้ติดตามอีกนานเลยครับ. ping! |