รถน้ำแห้งเครื่องดับ..อย่าสตาร์ท อย่าเติมน้ำเด็ดขาด จริงหรือมั่ว..
ธันวาคม 17, 2024, 11:37:59 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รถน้ำแห้งเครื่องดับ..อย่าสตาร์ท อย่าเติมน้ำเด็ดขาด จริงหรือมั่ว..  (อ่าน 1556 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 27, 2017, 08:55:31 am »

ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>  https://goo.gl/Lhynvk


เมื่อหม้อน้ำแห้งหรือ เครื่องฮีท ต้องทำอย่างไร

."มีช่างแนะนำว่าถ้าน้ำแห้งเครื่องดับ อย่าทำอะไรทั้งสิ้น อย่าสตาร์ท อย่าเติมน้ำเด็ดขาด ให้จอดทิ้งไว้เฉยๆจนกว่าเครื่องจะเย็นสนิทประมาณ 4-5ชั่วโมง เครื่องยนต์จะคืนสภาพเดิม แล้วให้เราเติมน้ำลงไปแล้วสตาร์ทสัก2-3ครั้งจนติด แล้วปล่อยเดินเบาไว้สักครู่คอยเติมน้ำให้เต็มเครื่องจะไม่พังไม่ต้องฃ่อม ช่างยังบอกอีกว่าสาเหตุการพังของเครื่องคือพอรถดับเจ้าของจะรีบหาน้ำมาเติมทันที นั้นเป็นวิธีที่ผิด ยิ่งทำให้ฝาโก่ง พังหนักเข้าไปอีก ถ้าน้ำมันเครื่องไม่แห้งด้วย วิธีนี้ใช้ได้ผลครับ ผมทำมาแล้ว ไมตี้ X ลืมปิดฝาหม้อน้ำ วิ่งจนควันโขม่ง ดับคาตีนเลย ปล่อยให้เย็นแล้วเติมน้ำ ใช้ได้ดีจนทุกวันนี้.."
อุณหภูมิปกติของน้ำหล่อเย็นนั้นจะอยู่ที่ 85 – 100 องศาเซลเซียสเท่านั้น ดังนั้นเข็มวัดอุณหภูมิความร้อนควรอยู่ที่กึ่งกลาง อาจจะขึ้นไปได้เล็กน้อย แต่อย่าให้แตะสีแดงเด็ดขาดครับ เพราะทันทีที่เข็มแตะขีดแดง นั่นหมายถึง งานเข้าแล้วครับ

สาเหตุที่สำคัญ ที่ทำให้เกิดอาการเครื่องฮีท

สาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการ โอเวอร์ฮีท มักมีหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น ฝาปิดหม้อน้ำเสื่อมสภาพ หรือปิดไม่สนิท , หม้อน้ำเกิดการรั่วซึมในระบบหล่อเย็น ส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอต่อการระบายความร้อน , ปั๊มน้ำเสีย , สายพานขับปั๊มน้ำขาด , วาล์วน้ำไม่เปิด หรือท่อทางเดินน้ำบี้แบน-อุดตัน ทำให้น้ำไม่หมุนเวียน , พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หรือทำงานผิดปกติ และรังผึ้งหม้อน้ำมีสิ่งสกปรกอุดตัน ทำให้ระบายความร้อนไม่สะดวก นา นา สาเหตุเหล่านี้หากเกิดขึ้นรับรองครับว่า ค่าซ่อมแพงหูฉี่แน่นอน  

แล้วเมื่อหม้อน้ำแห้งหรือ เครื่องฮีท ต้องทำอย่างไร ?

หากรถคันโปรดมีอาการใดก็แล้วแต่ สิ่งแรกที่ควรทำในทุกกรณีก็คือ ชิดซ้ายเข้าข้างทางที่มีความปลอดภัยครับ กรณีนี้หากสังเกตุเห็นเข็มความร้อนขึ้นสูง ก็เข้าข้างทางทันทีเช่นเดียวกันครับ เมื่อได้ที่จอดที่ปลอดภัยแล้วค่อยมาเริ่มลงมือกัน..   1. ดับเครื่องยนต์โดยเร็ว เพื่อให้ระบบได้พักการทำงาน จากนั้นรีบเปิดฝากระโปรงรถเพื่อช่วยระบายความร้อน แน่นอนว่าหากคันไหนอุณหภูมิสูงมากๆ ควันมันจะลอยโขมงเลยครับ   2. ห้ามใช้น้ำราดบริเวณเครื่องยนต์เพื่อช่วยดับร้อนเด็ดขาด เพราะเหล็กที่ร้อนมากๆหากเจอน้ำเย็นไปล่ะก็ หดตัวจนแตกมานักต่อนักแล้วนะครับ หากมีไอน้ำพุ่งออกมา หรือไม่พุ่งก็ตาม อย่าเพิ่งเปิดฝาหม้อน้ำโดยทันที เพราะแรงดันจากความร้อนที่สูงจะพุ่งมาลวกเพื่อนๆทันทีเลยครับ ให้รอประมาน 15 – 20 นาทีครับ
3. หลังจาก 15 – 20 นาที เครื่องยนต์คลายความร้อนเป็นที่เรียบร้อย จึงค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำออกทีละนิด เพื่อให้มันค่อยๆคลายความดันออกมา ในการเปิดควรหาผ้าหนาๆมารองไว้ หากไม่มีผ้ายางในรถก็ใช้ได้ครับ   4. ทำการตรวจสอบหม้อน้ำทันที หากพบว่าน้ำในหม้อน้ำเหลือปริมาณน้อย ก็ค่อยเติมลงไป หลังจากที่เครื่องยนต์ดับครั้งแรก 30 นาทีนะครับ เพราะหากเติมเลยโลหะจะหดตัวอย่างที่บอกในข้างต้น การเติมน้ำควรเติมแค่ครั้งละ ครึ่งลิตรเท่านั้น และเว้นห่างกันประมาณ 3 นาทีในแต่ละครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝาสูบแตกหรือโก่ง 5. สุดท้ายเมื่อเติมน้ำจนใกล้เต็มแล้วลองติดเครื่องดู เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำ จากนั้นเติมต่อจนเต็ม และตรวจสอบรอยรั่ว หากไม่พบแล้วอุณหภูมิอยู่ในระดับปกติก็เดินทางต่อได้เลยครับ แต่ถ้ารั่วหรือพัดลมขัดข้อง หรือมีปัญหาอื่นๆในระบบ คราวนี้จะยากแล้วครับควรตามช่างผู้ชำนาญมาทำให้จะเหมาะสมกว่า.   ขอบคุณ http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=335521.0 http://www.thaicarlover.com/%E0%B9%80%/46734    


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!