อันดับ 1-5 มหาเศรษฐีไทย ปี 2558 (จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์)1. นายธนินท์ เจียรวนนท์ (แซ่เจี๋ย)
เครือซีพี ทรัพย์สิน 4.8 แสนล้านบาท
เคล็ดลับเจ้าสัว:
ผมทำงานไม่ได้คิดเลยเรื่องกำไร ไม่ได้คิดว่าทำธุรกิจนี้แล้วจะได้กำไรเท่าไร ผมคิดว่าทำธุรกิจอะไร อันดับแรกดูแค่ว่ามีโอกาสสำเร็จไหม2. นายเจริญ สิริวัฒนภักดี (แซ่โซว)
ไทยเบฟเวอเรจ ทรัพย์สิน 4.36 แสนล้านบาท
เคล็ดลับเจ้าสัว:
ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีสูงเช่นกัน3. ตระกูลจิราธิวัฒน์ (แซ่เจ็ง)
ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีก ทรัพย์สิน 4.1 แสนล้านบาท
เคล็ดลับเจ้าสัว:
ผมและพี่น้องมี Passion ในการทำงานในธุรกิจเยอะมาก เพราะถูก Built in มาตั้งแต่เด็ก มื่อจบมาทุกคนต้องมาทำเหมือนกันหมด ในเมื่อเรารู้สึกสนุกกับมันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็จะไม่มีวันเบื่อ
ทศ จิราธิวัฒน์ กล่าว4. นายเฉลิม อยู่วิทยา (แซ่สี่)
จากกระทิงแดง ทรัพย์สิน 3.221 แสนล้านบาท
เคล็ดลับเจ้าสัว:
กระทิงแดง หมายถึง มีกำลัง กระทิงมีกำลังมาก ชื่อนี้เป็นชื่อที่ผมคิดขึ้นเอง ออกแบบโลโก้เอง ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ออกตามมาที่ใช้ชื่อกระทิงแดงนั้นก็ไม่ได้ถือเคล็ดอะไร เพียงแต่เห็นว่าเป็นชื่อทางการค้าที่คนส่วนใหญ่รู้จักและจำกันได้อยู่แล้ว ก็ไม่ควรไปสร้างชื่อใหม่ให้เปลืองค่าโฆษณา ไม่ต้องเสียเวลาไปสร้าง Brand Loyalty อีก5. นายกฤตย์ รัตนรักษ์ (แซ่หลี)
บิ๊กบอสช่อง 7 สี ทรัพย์สิน 1.577 แสนล้านบาท
เคล็ดลับเจ้าสัว:
เก็บตัวเงียบ ไม่ชอบเป็นข่าว ไม่ชอบออกสื่อ แต่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจสูงสุด ..นอกจากเคล็ดลับเจ้าสัวข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้คนไทยเชื้อสายจีนดังกล่าวก้าวขึ้นมาสู่ระดับท็อปของความมั่งมี ไปดูกันว่า 5 ปัจจัยหลักๆ ที่สร้างเสริมและเป็นตัวขับเคลื่อนทำให้พวกเขาร่ำรวยล้นฟ้า คืออะไรกันบ้าง?
คนจีนรักษาสัจจะเยี่ยงชีวิตไม่ว่าจะทำกิจการงานอะไร คนจีนจะมีนิสัยหนึ่งที่ถือเป็นเครื่องหมายการค้าเลยทีเดียว นั่นก็คือสัจจะในการทำงานหรือการดำรงชีวิต ซึ่งการรักษาคำพูด พูดคำไหนคำนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจและทำให้ได้รับโอกาสดีๆ ในชีวิตที่ทำให้พวกเขาร่ำรวย
ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำคนจีนถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรม โดยมีคติว่า ทำธุรกิจ ต้องทำเป็นคนแรก อย่าไปแข่งกับคนที่เขาทำอยู่แล้ว ความขยันในการคิดและค้นหาสินค้ามาขายก่อนใครๆ ถือเป็นกลยุทธ์การค้าที่สร้างให้พวกเขามั่งคั่งและกลายเป็นเจ้าตลาด
ค้าขายเท่านั้นจึงจะร่ำรวยคนเชื้อสายจีนส่วนใหญ่มีรากฐานอาชีพค้าขายหรือทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ใช่รับราชการ หรือเป็นลูกจ้างประจำ ดังนั้นระยะเวลาที่สั่งสมประสบการณ์ทางการค้าและเริ่มธุรกิจมานาน จึงทำให้ความร่ำรวยเติบโตและมีสายป่านทางการเงินที่มั่นคง
ขยัน ประหยัด อดทน เหมือนมดงานความร่ำรวยของคนจีนนั้น พื้นฐานสำคัญมาจากการมีนิสัยขยัน พร้อมจะทำงานและพัฒนาตัวเองทุกอย่างเท่าที่ทำได้ อีกทั้งยังใช้ชีวิตแบบสมถะ ประหยัด อดออม จึงทำให้มีเงินก้อนเร็วในการเริ่มทำธุรกิจ และยังเป็นนิสัยติดตัวไปตลอดถึงแม้จะร่ำรวยมหาศาลแล้วก็ตาม
มีคอนเน็คชั่นที่แข็งแกร่งคนเชื้อสายจีนนั้นมีความผูกพันและกลมเกลียวกันมาก ดังที่เราจะเห็นว่าพวกเขารวมตัวกันจนเป็นปึกแผ่นเช่น China Town ที่มีอยู่แทบทุกประเทศใหญ่ๆ ทั่วโลก แม้กระทั่งเมืองไทยก็มีเยาวราชที่เป็นเสมือนศูนย์กลางธุรกิจและรากฐานของคนเชื้อสายจีนในประเทศไทย และนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อโยงใยผู้คน ธุรกิจ การทำงาน และความช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนกลายสายป่านที่แข็งแรง
สุดท้ายนี้ องค์ประกอบของความร่ำรวยนั้น ไม่ว่าจะคนไทยแท้หรือคนเชื้อสายจีน หรือคนชาติใดๆ ในโลกก็ตาม หากมีปัจจัยข้างต้นในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ความขยัน ประหยัด อดทน พูดแล้วทำ หรือกล้าบุกเบิก ก็สามารถที่จะร่ำรวยได้ เพียงแต่คุณต้องเริ่มให้เร็วและเริ่มลงมือสร้างมันตั้งแต่วันนี้
จาก
http://www.1009seo.com/