แบบฟอร์ม...โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ.
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 21, 2024, 10:54:24 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แบบฟอร์ม...โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ.  (อ่าน 39891 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2016, 11:07:55 am »

แบบฟอร์มลงทะเบียนคนจน

แผ่น1.



แผ่น 2.



กรณีที่ท่านกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม

ควรตัดสินใจให้ดี ก่อน อย่าโกหกหรือ บิดเบือนข้อมูล เพราะ

รายได้ทั้งสิ้น ในแต่ละปี เมื่อท่านใส่หมายเลขบัตรประชาชนแล้ว

ข้อมูลของท่านจะโชว์ และ เข้าถึงได้ในบัญชีธนาคาร

เงินในบัญชีธนาคารมีเท่าไหร่ ทาง โครงการเค้าตรวจพบได้ไม่ยาก

ท่านแจ้งว่า ไม่มีรายได้ ใน แบบฟอร์ม

แต่วันหนึ่งทาง โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

ตรวจพบว่าท่านมีเงินในบัญชีเกินกว่าที่ เค้ากำหนด

("ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี")

สิ่งที่ท่านจะต้อง พบคือ

การรับรอง***

ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อมูลข้างต้นถูกต้องตรงความเป็นจริงทุกประการ

หากข้อมูลข้างต้นไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริง

ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ระงับสวัสดิการและประโยชน์อื่นๆ

รวมทั้งคืนเงินที่ได้รับ พร้อมดอกเบี้ยและตัดสิทธิของข้าพเจ้า

ในการรับสวัสดิการในอนาคต และข้าพเจ้าตกลงยินยอม

ให้สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน ที่มิใช่สถาบันทางการเงิน

และกรมสรรพากร เปิดเผยหรือให้ข้อมูลของข้าพเจ้า แก่หน่วยงานของรัฐ

ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาจัดสรรสวัสดิการ

และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกฎหมายของรัฐ

โดยให้ถือว่าคู่ฉบับและบรรดาสำเนาภาพถ่าย ข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์

หรือโทรสารที่ทำขึ้นจากหนังสือให้ความยินยอมฉบับนี้

เป็นหลักฐานในการให้ความยินยอมของข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน

ข้าพเจ้าจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ


ข้อความข้างบนจะมัดตัวเรา ถ้ากรณีเรา หลอกลวงหรือโกหก


ธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่ กรอกข้อมูลให้เราโดยการเรียก

สัมภาษณ์ Interview ทีละคน

ทำให้เสียเวลามาก คิวยาว

ทางที่ดี ท่าน Download แบบฟอร์ม นี้ แล้วกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย

ไม่แน่ใจตรงไหนก็เว้นไว้

เจ้าหน้าที่ธนาคารจะกรอกให้เอง โดยการ สัมภาษณ์ เรา ทีหลัง

จริงๆแล้ว เจ้าหน้าที่กรอก ข้อมูลใน แบบฟอร์ม มีไว้สำหรับ

ผู้สูงอายุหรือผู้ที่เขียนหรืออ่านหนังสือไม่ออก หรือมีปัญหากับระบบสายตา

ถ้าท่านกรอกข้อมูลเรียบร้อยจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที

ถ้าท่านรอให้เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลให้ ท่านอาจจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง

สิ่งที่ Suffer คือ

ธนาคาร มักจะให้ ชาวบ้านที่ไปลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการของรัฐ

เปิดบัญชี ของตัวเอง และอ้างว่า เวลารัฐจะจ่ายเงิน รัฐจะนำเงินเข้าบัญชีให้เลย

ค่าเปิดบัญชี ต้องนำเงินฝากอย่างต่ำ 500 บาท

ใครที่ยังไม่ได้เปิดควรรีบเปิดสะ ...?

เฮ้ย ชาวบ้านเค้ามาขอรับสวัสดิการนะโว้ย

ม่ายช่ายต้องมาเสียตังค์ อีก เวร เลย



ในช่อง ประเภทของทรัพย์สินทางการเงิน

ในข้อ4. อื่นๆ ให้เรากรอก ธนาคารที่เรามีบัญชีอยู่

พร้อมหมายเลขบัญชี และถ้าจำเงินในบัญชีได้

ก็ควรจะกรอกลงไปด้วยว่ามีเงินในบัญชีอยู่เท่าไหร่?


ก่อนกลับ..รอรับหลักฐาน..ในการลงทะเบียนไว้ด้วย







บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2016, 05:06:33 pm »

..วันนี้ เกิดอะไรขึ้น .. ประชาชนนั่งรอคิวจากในเต้นท์ข้างธนาคาร ยาวถึงถนน จะแวะไปปั๊มสมุด บช.  ..อดเลย  Cool
บันทึกการเข้า
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2017, 08:19:13 am »



  การลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ ทางกระทรวงการคลังระบุว่า จะเปิดรับสมัครในช่วงต้นเดือนเมษายน 2560 อย่างไรก็ตามอาจมีการขยายระยะเวลาลงทะเบียนไปถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเดือนเมษายนมีวันหยุดราชการหลายวัน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามวันที่เปิดรับสมัครที่แน่นอนอีกครั้ง

ผู้ที่จะไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องตรวจสอบว่าเรามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่

          1. มีสัญชาติไทย
          2. อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
          3. เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทในปี 2559

          หมายเหตุ : รายได้ หมายถึงรายได้ของบุคคลที่ลงทะเบียนเท่านั้น ในกรณีประกอบอาชีพร่วมกันทั้งครัวเรือน (เช่น ทำการเกษตรร่วมกัน) และไม่สามารถแยกรายได้ออกมาเป็นรายบุคคลได้ ให้ถือว่า รายได้ของครัวเรือนเป็นรายได้ของหัวหน้าครอบครัวแต่เพียงคนเดียว



ผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่ เช่น

          - รายได้ (เงินเดือน/เงินฝากธนาคาร/สลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้น ฯลฯ)
          - การถือครองทรัพย์สิน (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง/รถยนต์/จักรยานยนต์ ฯลฯ)
          - หนี้สินคงค้างทั้งหมด (เงินกู้ในระบบ/เงินกู้นอกระบบ/หนี้บัตรเครดิต/หนี้เพื่อการศึกษา/หนี้เพื่อการเกษตรหรือประกอบธุรกิจ/หนี้เพื่อการอุปโภค-บริโภค/หนี้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน ฯลฯ)

          ทั้งนี้การเปิดเผยทรัพย์สิน-หนี้สินดังกล่าว เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลไว้ใช้ทำสวัสดิการที่เหมาะสมต่อไป




นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้กล่าวถึงประเด็นนี้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2560 ว่า ผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่เคยลงทะเบียนเมื่อปีที่ผ่านมา จำนวน 8 ล้านคน จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด เพื่ออัพเดทข้อมูลฐานรายได้ด้วย

          เช่นเดียวกับ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่ระบุว่า ผู้ที่เคยลงทะเบียนรายได้น้อยในรอบแรกต้องมาลงทะเบียนใหม่ในรอบนี้ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนรายได้น้อยได้รับบัตรผู้มีรายได้น้อยประจำตัวทุกคน

          อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ลงทะเบียนในปี 2560 ได้รับบัตรประจำตัวรอบใหม่นี้แล้ว ในปีต่อไปไม่ต้องมาลงทะเบียนอีก เพียงแต่มาอัพเดทข้อมูลเท่านั้น ซึ่งบางคนอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจนไม่ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยอีกก็ได้


ลงทะเบียนคนจนรอบ 2 จะได้สวัสดิการอะไรบ้าง ?
 เบื้องต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560) ทางกระทรวงการคลังระบุว่า สวัสดิการที่ผู้มาลงทะเบียนคนจนรอบใหม่จะได้รับ อย่างเช่น

          - บัตรประจำตัวผู้มีรายได้น้อย โดยอาจให้ใช้สีแตกต่างกันตามระดับรายได้ของประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมไว้รับสวัสดิการที่ทางรัฐบาลจะมอบให้ในอนาคต เช่น การลดค่าน้ำ-ไฟฟ้า การขึ้นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เป็นต้น ซึ่งหากใช้บัตรดังกล่าวรูดกับเครื่องก็จะรู้ได้ทันทีว่าได้รับสวัสดิการดังกล่าวหรือไม่

          - กำลังพิจารณาเรื่องการทำประกันชีวิตให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันรายละ 99 บาทต่อปี คุ้มครอง 5-6 หมื่นบาท และจ่ายชดเชยกรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน

          - เตรียมดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพเพิ่มให้ผู้สูงอายุที่เป็นผู้มีรายได้น้อย กรณีผู้สูงอายุฐานะดี สมัครใจสละสิทธิ์เบี้ยชราภาพ





          ผู้มีสิทธิ์สามารถลงทะเบียนได้ที่...

          - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
          - ธนาคารออมสิน
          - ธนาคารกรุงไทย
          - สำนักงานคลังจังหวัด

          โดยต้องลงทะเบียนเพียงที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำได้หลายแห่ง


         ใช้หลักฐานอะไรในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ?

          ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว


         
จาก www.1009seo.com
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 01, 2017, 08:10:17 am »

ครม. เปิดคุณสมบัติคนจน ผู้มีสิทธิลงทะเบียน
ต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงินเกิน 1 แสนบาท
และต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์
พร้อมไฟเขียวเดินเครื่องโครงการ

3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
รับทราบรายงานโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยแนวทางการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว
ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดสวัสดิการทางสังคม
และการช่วยเหลือของภาครัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน ดังนี้

1.ต้องมีสัญชาติไทย
2.มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยต้องเกิดก่อนวันที่ 16 พ.ค.2542 และ
3.ว่างงาน หรือมีรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2559 ทั้งสิ้นไม่เกิน 1 แสนบาท
4.ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน
สลากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้

หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 1 แสนบาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

5.ต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย
หรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ได้แก่
กรณีที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว ในส่วนของบ้านหรือทาวน์เฮาส์ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
ส่วนห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตาราเมตร
แต่หากเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร
ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดิน
เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

สำหรับการลงทะเบียนในโครงการดังกล่าวจะเป็นรูปแบบสมัครใจ
โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
เช่น รายได้ เงินฝากธนาคาร การถือครองทรัพย์สิน หนี้สิน เป็นต้น
รวมทั้งต้องยินยอมให้นำข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมภาพถ่ายใบหน้าไปใช้
เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลสำหรับการนำไปใช้ในการจัดทำสวัสดิการของรัฐต่อไป
โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่

วันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.2560 ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน

ได้แก่ ธ.ก.ส. ออมสิน บมจ.ธนาคารกรุงไทย กรมบัญชีกลาง

(สำนักงานคลังจังหวัด) และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร


“โครงการนี้จะช่วยทำให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลของผู้มีรายได้น้อย
เนื่องจากการลงทะเบียนจะต้องแสดงข้อมูลรายได้ ทรัพย์สิน
การเป็นหนี้สิน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทราบข้อมูล
และสามารถไปกำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม” นายณัฐพรกล่าว

อย่างไรก็ตาม ครม. ยังรับทราบรายงานผลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2559
โดยมีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 8.37 ล้านราย
เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินโอน 7.71 ล้านราย
และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับเงินโอน 6.6 แสนราย
 เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว ชื่อ-นามสกุลผิด
มีรายได้เกิน 1 แสนบาท เป็นต้น
โดยใช้เงินประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท.


Cr:https://www.thaipost.net/
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 09, 2017, 07:17:04 am »

 แบบฟอร์มโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560

ระหว่างวันที่ 3 เมษายน 2560 – 15 พฤษภาคม 2560

https://www.mof.go.th/home/index.php

https://www.mof.go.th/home/eco/welfare_gov2560.pdf

***************************************************************





................... ................... ................... ................... ...........




บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 09, 2017, 07:39:39 am »

 ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ใครมีสิทธิ์บ้าง ?

          ผู้ที่จะไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย
ต้องตรวจสอบว่าเรามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่

          1. มีสัญชาติไทย

          2. อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (เกิดก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2542)

          3. เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ในปี 2559

          4. ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่
เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล
และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว
จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

          5. ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย
หรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว
จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

          (5.1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
          กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
          - บ้านหรือทาวน์เฮ้าส์ต้องมีพื้นที่ ไม่เกิน 25 ตารางวา
          - ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

          กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดิน
          - เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่
          - เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

          (5.2) ที่ดิน
          กรณีใช้ประโยชน์จากที่ดิน
          - เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่
          - เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

          หมายเหตุ : รายได้ หมายถึงรายได้ของบุคคลที่ลงทะเบียนเท่านั้น
ในกรณีประกอบอาชีพร่วมกันทั้งครัวเรือน (เช่น ทำการเกษตรร่วมกัน)
และไม่สามารถแยกรายได้ออกมาเป็นรายบุคคลได้
ให้ถือว่า รายได้ของครัวเรือนเป็นรายได้
ของหัวหน้าครอบครัวแต่เพียงคนเดียว

          ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ต้องเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง ?

          ผู้ลงทะเบียนจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่ เช่น

          - รายได้ (เงินเดือน/เงินฝากธนาคาร/สลากออมทรัพย์/พันธบัตร/หุ้น ฯลฯ)
          - การถือครองทรัพย์สิน (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง/รถยนต์/จักรยานยนต์ ฯลฯ)
          - หนี้สินคงค้างทั้งหมด (เงินกู้ในระบบ/เงินกู้นอกระบบ/หนี้บัตรเครดิต/
หนี้เพื่อการศึกษา/หนี้เพื่อการเกษตรหรือประกอบธุรกิจ/
หนี้เพื่อการอุปโภค-บริโภค/หนี้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน ฯลฯ)

หลังจากผู้ลงทะเบียนในปี 2560 ได้รับบัตรประจำตัวรอบใหม่นี้แล้ว
ในปีต่อไปไม่ต้องมาลงทะเบียนอีก
เพียงแต่มาอัพเดทข้อมูลเท่านั้น
ซึ่งบางคนอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้น
จนไม่ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยอีกก็ได้

    ลงทะเบียนคนจนรอบ 2 จะได้สวัสดิการอะไรบ้าง ?

          เบื้องต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560)
ทางกระทรวงการคลังระบุว่า
สวัสดิการที่ผู้มาลงทะเบียนคนจนรอบใหม่จะได้รับก็อย่างเช่น

          - บัตรประจำตัวผู้มีรายได้น้อย
โดยอาจให้ใช้สีแตกต่างกันตามระดับรายได้ของประชาชน
เพื่อเตรียมพร้อมไว้รับสวัสดิการที่ทางรัฐบาลจะมอบให้ในอนาคต
เช่น การลดค่าน้ำ-ไฟฟ้า การขึ้นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เป็นต้น
ซึ่งหากใช้บัตรดังกล่าวรูดกับเครื่องก็จะรู้ได้ทันทีว่า
ได้รับสวัสดิการดังกล่าวหรือไม่

          - กำลังพิจารณาเรื่องการทำประกันชีวิตให้ผู้มีรายได้น้อย
โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันรายละ 99 บาทต่อปี
คุ้มครอง 5-6 หมื่นบาท และจ่ายชดเชยกรณีประสบอุบัติเหตุ
หรือเจ็บป่วยเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน

          - เตรียมดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพเพิ่มให้ผู้สูงอายุที่เป็นผู้มีรายได้น้อย
กรณีผู้สูงอายุฐานะดี สมัครใจสละสิทธิ์เบี้ยชราภาพ


    ขั้นตอนการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย

          ก่อนเปิดรับสมัครลงทะเบียน (เดือนมีนาคม 2560)
          1. เตรียมบัตรประชาชนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรวดเร็วในการกรอกแบบฟอร์ม
          2. ขอรับแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่หน่วยรับลงทะเบียนทุกแห่ง
หรือดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง,
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ epayment.go.th

          เปิดรับสมัครลงทะเบียน (3 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2560)
          1. ยื่นแบบฟอร์มฉบับเต็มได้ที่หน่วยรับลงทะเบียนทุกแห่ง
          2. เสียบบัตรประชาชน โดยพนักงานจะกรอกแบบฟอร์มออนไลน์เข้าระบบให้
          3. ตรวจสอบข้อมูลที่พนักงานกรอกให้ถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน และลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน

          หลังลงทะเบียน (เดือนมิถุนายน 2560)
          1. ตรวจสอบชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ในเดือนมิถุนายน ที่เว็บไซต์ epayment.go.th  หรือที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
          2. หากไม่มีชื่อให้ไปติดต่อหน่วยงานที่ได้ลงทะเบียนไว้
          3. เตรียมรับบัตรสวัสดิการประจำตัวผู้มีสิทธิ์ที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการให้

 ping!
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 09, 2017, 07:49:48 am »



หนังสือ มอบอำนาจ ขนาด A 4




 wav!!


บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 08:18:40 am »

คลังร่วมกับ 11 หน่วยงานรับสวัสดิการแห่งรัฐรอบ 2 คาดมีประชาชนลงทะเบียนปีนี้กว่า 14 ล้านราย


       กระทรวงการคลัง จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่า
ด้วยความร่วมมือในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 (พิธีลงนามฯ) ขึ้น
เพื่อประสานความร่วมมือระหว่าง 11 หน่วยงานข้างต้น ในการดำเนินโครงการฯ
ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ได้แก่
การรับลงทะเบียน
การจัดทำฐานข้อมูลของผู้ลงทะเบียน
การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน และ
การประกาศชื่อผู้มีสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการแห่งรัฐ

ให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างราบรื่น ภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการออกบัตรสวัสดิการ โดยเบื้องต้น
จะสามารถนำไปใช้ลดภาระค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโดยสาร เป็นต้น
ทั้งนี้ รูปแบบของการให้สวัสดิการ
กระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไป

นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของผู้ที่จะมาลงทะเบียนในโครงการฯ นั้น
สามารถขอรับแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่หน่วยลงทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศ
หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th
อีเพย์เมนต์ www.epayment.go.th
และเว็บไซต์ของหน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 5 หน่วยงานข้างต้น ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
เพื่อเตรียมกรอกข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียน
โดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูล เช่น

บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง
เลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา มารดา และบุตร
สมุดทะเบียนบ้าน ทะเบียนผู้พิการ ทะเบียนเกษตรกร
เลขที่บัญชีเงินฝาก เป็นต้น
และต้องสำรวจว่าตนเองมีรายได้ เงินฝาก และหนี้สินเท่าใด
หลังจากกรอกแบบฟอร์มครบถ้วน ชัดเจน และถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว
ต้องลงนามรับรองความถูกต้อง
และลงนามยินยอมให้เปิดเผย
และตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนได้

  นอกจากนี้ ในวันลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนต้องมาลงทะเบียนด้วยตัวเอง
ที่หน่วยรับลงทะเบียนที่ใดที่หนึ่งที่ตนเองสะดวก
โดยยื่นแบบฟอร์มที่กรอกพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน
ซึ่งควรเป็นบัตรประชาชนรุ่นใหม่ หรือแบบ Smart Card
เนื่องจากต้องนำรูปบนบัตรประจำตัวประชาชนมาไว้บนบัตรสวัสดิการ
ตลอดจนเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นมาแสดงเพื่อยืนยันตัวตน
และข้อมูลที่กรอกให้กับทางราชการ โดยไม่ต้องให้หน่วยรับลงทะเบียนเก็บไว้

ในกรณีผู้พิการ และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้
ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาแสดงในวันลงทะเบียนด้วย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลของผู้มาลงทะเบียนเข้าระบบคอมพิวเตอร์
ผู้ลงทะเบียนต้องรับเอกสารหลักฐานการลงทะเบียนกลับไป
โดยเจ้าหน้าที่จะฉีกออกจากส่วนท้ายของแบบฟอร์ม
เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า การลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์

 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
สวัสดิการที่รัฐจะให้กับผู้ที่มาลงทะเบียน คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 14 ล้านราย
โดยกระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เห็นชอบสิ่งที่จะดำเนินการ และรูปแบบการให้สวัสดิการ เบื้องต้น
จะช่วยเหลือด้านการเดินผ่าน ผ่านรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำปะปา

ผ่านบัตรสวัสดิการ

คาดว่าจะเริ่มแจกได้ในเดือน มิ.ย.นี้


“มาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ อาจไม่ได้เป็นการแจกเงินเหมือนที่ผ่านมา
เพราะว่าครั้งนี้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว มาตรการมันก็ต้องแตกต่างกันไป
คาดว่าหลังจากลงทะเบียนแล้วจะสามารถแจกบัตรสวัสดิการได้ในเดือน มิ.ย.
ซึ่งในบัตรจะระบุมาตรการที่ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น
เรื่องของค่าน้ำ ค่าไฟ แต่จะสรุปอีกครั้งว่า จะให้ฟรีเลย หรือลด 25-50%
เช่นเดียวกับค่าการเดินทาง ซึ่งที่ผ่านมา
ให้แบบเหวี่ยงแห คนรวย คนจน ได้หมด
แต่ครั้งนี้จะให้สิทธิเฉพาะเลย” นายสมชัย กล่าว


Cr: https://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000027069

5 คน มาให้ข่าว 5 อย่าง ในเรื่องเดียวกัน ชักเยอะ

ก่อนจะถึงวันลงทะเบียน คงมีเรื่อง เงื่อนไข อีก เยอะ เวร เลย

ระบบข้าราชการไทย สมองเหมือน       ี้....ข้า


 
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 03, 2017, 10:47:39 am »

เอกสารในการยื่นรับสวัสดิการ

สำเนาบัตรประชาชน พร้องตัวจริง
สำเนา ทะเบียนบ้าน
กรอก แบบฟอร์ม ให้พร้อม
สำเนาสมุดเงินฝากธนาคารที่ท่านไปลงทะเบียน

แม่ง มึงไม่เคยแจ้งให้ ชาวบ้านเค้ารู้ เล๊ะตุ้มเป๊ะ

ชาวบ้าน ด่ากัน ขรม

ธนาคาร มีแต่รับกับรับ เปิดบัญชี 500 บาท

คนจนไม่มีสมุดบัญชี ต้องเสียเงิน เปิด บัญชี

เจ้าหน้าที่ แบ้งค์ มือระวิง รับเปิดบัญชี รับ ตังค์

มัน ช่วย กระทืบซ้ำคนจน มากกว่า

ขอเวลาอีกไม่นาน มึง เน่า แน่ !!!!

 cry2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2017, 08:08:39 am »

พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วครับ  wav!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2017, 08:56:56 am »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com     

          เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังมีแผนจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ในรอบแรก หรือโครงการลงทะเบียนคนจน โดยจะใช้งบประมาณจำนวน 40,000 ล้านบาท ได้แก่ ช่วยเหลือค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นต้น ซึ่งเป็นสวัสดิการช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้มีรายได้น้อย

          ส่วนมาตรการเพิ่มเติมในรอบสอง เช่น การจ่ายเงินภาษีให้คนจน (Negative Income Tax) โดยให้กับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 3-4 ล้านคน ต้องรอผลการตรวจสอบสิทธิ์ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยว่า จำนวนที่แท้จริงมีเท่าไร ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือ จะเป็นการให้บัตรสวัสดิการแก่ผู้ที่มีสิทธิ์ ที่ใส่วงเงินไว้ให้ประมาณหลักพันบาทต่อเดือน และจะให้เดือนต่อเดือน หากใช้ไม่หมดก็จะตัดไป

           สำหรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการคนจน มีวงเงินในบัตรประมาณ 2,750 บาทต่อเดือน และเป็นแยกประเภทค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น เพื่อขึ้นรถไฟ 1,000 บาท, รถบขส. 800 บาท, รถเมล์ ขสมก. 600 บาท, ค่าไฟ 200 บาท, ค่าน้ำ 150 บาท เป็นต้น โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

          นายสมชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังยังเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ จะได้ไม่ก่อหนี้นอกระบบ ซึ่งจากจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 14.1 ล้านคน พบว่ามีหนี้นอกระบบอยู่ 1.3 ล้านคน มูลหนี้รวมดอกเบี้ย 8 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการลดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้

          ทั้งนี้ ผู้ที่มีหนี้นอกระบบสามารถเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยเริ่มจากการไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ และจัดหารายได้เสริม ฟื้นฟูอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ผู้ที่มีหนี้นอกระบบ รวมทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ เช่น สินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และพิโกไฟแนนซ์ รวมทั้งได้สั่งให้คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เปิดพื้นที่ขายของฟรีจนถึงสิ้นปี เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ขายสินค้าเพิ่มรายได้ให้ตนเอง

          ***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2560
   

บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2017, 08:33:19 am »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com



กพช. มีมติช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โอนเงินผ่านบัตรคนจน ให้ใช้ไฟฟ้าฟรี 200 บาท/เดือน และแอลพีจีฟรี 45 บาท/3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560

          วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบให้ปรับแนวทางช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้านพลังงาน ผ่านระบบสวัสดิการตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 หรือโครงการลงทะเบียนคนจน ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560  ..

โดยการช่วยเหลือจะนำเงินงบประมาณ กระทรวงการคลัง มาใช้ผ่านมาตรการค่าไฟฟ้าฟรี ในวงเงิน 200 บาท/คน/เดือน และก๊าซแอลพีจี จำนวน 45 บาท/คน/3 เดือน ทำให้สามารถขยายฐานการช่วยเหลือเป็น 14 ล้านคน จากเดิม 7 ล้านคน ซึ่งการช่วยเหลือแบบเดิมเป็นการยึดเกณฑ์ผู้ใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน และเกณฑ์ตัดสินผู้รับการอุดหนุนแอลพีจีที่อิงการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย/เดือน

พล.อ. อนันตพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของหาบเร่แผงลอยที่ปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือก๊าซแอลพีจี ประมาณ 120,000 ราย วงเงินช่วยเหลือ 27 ล้านบาท/เดือน ที่ราคา 18.13 บาท/กก. นั้น ส่วนนี้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังจะหารือกันต่อไปว่าจะช่วยเหลือหรือไม่ และกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่อย่างไร เช่น อาจกำหนดราคาอาหารไม่ให้สูงเกินไป เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง แต่หากปฏิบัติไม่ได้ก็อาจจะต้องยกเลิกไป

ด้านนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า ประเด็นเรื่องการลอยตัวก๊าซแอลพีจี มีการประกาศอย่างเป็นทางการหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ โดยคาดว่าราคาขายปลีกจะไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปัจจุบันที่ 20.29 บาท/หน่วย แม้ราคาตลาดโลกเดือนสิงหาคมจะปรับเพิ่มขึ้น 85 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน มาอยู่ที่ 440 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพราะคาดว่า กบง. จะใช้เงินกองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีเข้าอุดหนุน
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2017, 08:24:16 am »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com



..กระทรวงการคลัง เผยตัดสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนรายได้น้อยแล้วกว่า 2 ล้านคน หลังพบรายได้และทรัพย์สินเกินเกณฑ์กำหนด ชี้หากช่วยทั้งหมดงบไม่พอแน่.

วันที่ 9 สิงหาคม 2560 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยถึงมาตรการการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ว่า การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวน 14.1 ล้านคนนั้น ได้ตรวจสอบและตัดสิทธิ์ไปแล้วกว่า 2 ล้านคน หลังพบว่ามีรายได้และทรัพย์สินไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้

นายอภิศักดิ์ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องตัดสิทธิ์ 2 ล้านคนดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลอยากช่วยเหลือบุคคลที่จนจริง ๆ หากช่วยเหลือทั้งหมดจะไม่มีงบประมาณที่เพียงพอ โดยตัวเลขผู้ที่มีสิทธิ์รับสวัสดิการอย่างแท้จริงนั้นจะต้องรอการตรวจสอบต่อไป

  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือด้านสวัสดิการกับผู้ที่มีสิทธิ์นั้น จะพยายามกระจายไปทั่วประเทศ เพราะความต้องการในการดำรงชีพแตกต่างกัน โดยในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการสวัสดิการคนจนเบื้องต้น เช่น ลดค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า, ซื้อสินค้าที่จำเป็นในร้านธงฟ้า, ขึ้นรถไฟฟรี, รถเมล์ฟรี นอกจากนี้ยังเตรียมหารือให้ขยายไปยังบริการรถไฟฟ้าอีกด้วย.
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 15, 2017, 01:25:08 pm »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com



เมื่อตรวจสอบเงื่อนไขเบื้องต้นก็พบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 11,431,681 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 2,744,489 คนนั้นไม่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งถ้าหากเราคือหนึ่งในผู้ที่ลงทะเบียนไว้ แต่สงสัยว่าตัวเองผ่านคุณสมบัติหรือไม่ ..ทางกระทรวงคลังก็ได้เปิดช่องทางให้เราเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ได้แล้ว  เราสามารถตรวจสอบรายชื่อลงทะเบียนคนจนได้ที่นี่..
สำหรับใครที่ได้ไปลงทะเบียนไว้แล้ว ในช่วงก่อนหน้านี้ สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้.

          1. ตรวจสอบรายชื่อด้วยตัวเองหรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ได้แก่
 
          – เว็บไซต์ epayment
          – เว็บไซต์กระทรวงการคลัง
          – เว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
          โดยเพียงแค่พิมพ์เลขประจำตัวประชาชน 13 หลักลงไปในช่องที่กำหนด ระบบก็จะแจ้งผลการตรวจสอบทันทีว่าเรานั้นผ่านคุณสมบัติหรือไม่.
2. ตรวจสอบผ่านสายด่วนของ 6 หน่วยงาน ในเวลาราชการ ได้แก่
 
          – สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 1359
          – ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 02-555-0555
          – ธนาคารออมสิน โทร. 1115
          – ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111
          – กรมบัญชีกลาง โทร. 02-270-6400
          – เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต

          3. ตรวจสอบโดยตรงด้วยตัวเอง ณ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร


ถ้าไม่มีชื่อผ่านคุณสมบัติลงทะเบียนคนจน ทำอย่างไรดี

          กรณีผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และยังอยากได้รับสวัสดิการอยู่ ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยสามารถปฏิบัติได้ตาม 7 ขั้นตอนต่อไปนี้

          ขั้นตอนที่ 1 ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบผลผ่าน 3 ช่องทางไปแล้ว และพบว่าตัวเองไม่ผ่านคุณสมบัติ

          ขั้นตอนที่ 2 เข้าไปตรวจสอบรายชื่อผ่านทางเว็บไซต์ บนหน้าจอแสดงผลตรวจสอบจะระบุคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน และต้องการอุทธรณ์ ให้กดปุ่ม “ยื่นคำขออุทธรณ์”

          ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขออุทธรณ์ โดยหลังจากกดปุ่ม “ยื่นอุทธรณ์” ระบบจะถามวันเดือนปีเกิด เพื่อยืนยันตัวบุคคล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นให้กดปุ่มสีเหลืองด้านล่างของหน้าจอที่เขียนว่า “บันทึกและส่งคำขออุทธรณ์”

          ขั้นตอนที่ 4 หลังจากกดปุ่มบันทึกและส่งคำขออุทธรณ์แล้ว ข้อความบนปุ่มสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็น “อยู่ระหว่างการอุทธรณ์”

          ขั้นตอนที่ 5 หลังจากปิดรับการยื่นขออุทธรณ์ กระทรวงการคลังจะรวบรวมข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป

          ขั้นตอนที่ 6 หน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ และจะส่งผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2560

ขั้นตอนที่ 7 กระทรวงการคลังจะประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ epayment และสายด่วน 6 หน่วยงาน

          ทั้งนี้ หากผลการอุทธรณ์ยังยืนตามผลเดิม คือ ไม่ผ่านคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนก็จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย แต่หากยื่นอุทธรณ์สำเร็จ ผู้ลงทะเบียนจะมีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย โดยจะได้รับบัตรล่าช้ากว่าปกติ 30 วัน และไม่ได้รับสวัสดิการย้อนหลัง

มีรายชื่อแล้วต้องไปรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยที่ไหน

          หากตรวจสอบพบว่าตัวเองมีรายชื่อผ่านคุณสมบัติแล้ว สามารถไปรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย หรือบัตรคนจน ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ตัวเองได้เคยไปลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ซึ่งบัตรที่ได้รับจะไม่สามารถนำไปให้บุคคลอื่นใช้แทนได้ ยกเว้นบุคคลที่ดูแลหรือให้ความช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพ พิการ หรือคนแก่

บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ใช้อะไรได้บ้าง

สำหรับสวัสดิการที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับ จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ

          – ส่วนแรกจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ อย่าง ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตรจากร้านธงฟ้า

          – ส่วนที่สองจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รถ บขส. และรถไฟ

         สำหรับใครที่ได้ยื่นรายชื่อลงทะเบียนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ไปแล้ว ก็อย่าลืมเข้าไปเช็คคุณสมบัติกันล่ะว่าตัวเองผ่านการคัดเลือกไหม ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเสียโอกาสได้รับเงินช่วยเหลือไปฟรี ๆ และใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. หรือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  โทร. 02-273-9020
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 26, 2017, 12:17:38 pm »

คนกรุงรอหน่อย ! เลื่อนแจกบัตรคนจน ใน 7 จังหวัด เป็น 17 ตุลาคม หลังผลิตไม่ทัน

รายงานจากกรมบัญชีกลาง ระบุว่า ขณะนี้ได้เลื่อนกำหนด
การแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 หรือบัตรคนจน 2560
ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยใน 7 จังหวัด ได้แก่
กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา,
สมุทรปราการ, นครปฐม และสมุทรสาคร
จำนวน 1.3 ล้านคน ออกไปเป็นวันที่ 17 ตุลาคม 2560
 จากเดิมกำหนดแจกในวันที่ 21 กันยายน นี้
     อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดผลกระทบของประชาชนที่ได้รับบัตรล่าช้า
กรมบัญชีกลางจะยกยอดวงเงินสวัสดิการที่เหลือจากการใช้ในเดือนตุลาคม
ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือนพฤศจิกายน 2560
เพื่อชดเชยให้ผู้มีสิทธิสามารถใช้วงเงินคงเหลือดังกล่าวได้
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2017, 11:10:41 am »

 หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> www.pohchae.com   



บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ใช้ยังไง แล้วจะนำไปซื้อสินค้าอะไรจากร้านธงฟ้าประชารัฐได้บ้าง มาเช็คกันได้เลย..

หลังจากรัฐบาลเปิดให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน สามารถนำบัตรไปใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ปรากฏว่ามีประชาชนผู้มีรายได้น้อยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก โดยหนึ่งในสิทธิที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับก็คือ วงเงิน 200-300 บาทต่อเดือนสำหรับนำไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด..
สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและสามารถใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจ่ายได้ จากข้อมูลของสํานักจัดระบบราคาและปริมาณสินค้า กรมการค้าภายใน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 มีทั้งหมด 46 รายการ ประกอบด้วย
สินค้าอุปโภค บริโภค 38 รายการ

หมวดอาหารสด

          1. เนื้อสัตว์ทุกชนิด
          2. ไข่สด
          3. ผักและผลไม้

หมวดอาหารและเครื่องดื่ม

          4. ข้าวสาร ข้าวเหนียว
          5. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
          6. อาหารกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง
          7. น้ำปลา
          8. น้ำซีอิ๊ว ซอสถั่วเหลือง ซอสปรุงรส
          9. ซอสหอยนางรม ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก
          10. น้ำส้มสายชู
          11. เกลือ
          12. เครื่องปรุงแต่งรสอาหารสำเร็จรูป
          13. ผงชูรส
          14. น้ำตาล
          15. น้ำมันพืช
          16. นมสด นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง
          17. น้ำผลไม้พร้อมดื่ม
          18. นมข้นหวาน
          19. น้ำดื่ม
          20. น้ำแข็ง

 

หมวดของใช้ประจำวัน

21. สบู่
22. ผ้าอนามัย
23. แชมพู ครีมนวดผม
24. แป้งผงโรยตัว
25. ยาสีฟัน
26. แปรงสีฟัน
27. ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก
28. น้ำยาปรับผ้านุ่ม
29. น้ำยาล้างจาน
30. มีดโกนหนวด/ใบมีดโกน
31. กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า
32. ยากำจัดยุงและแมลง
33. น้ำยาล้างห้องน้ำ
34. น้ำยารีดผ้า
35. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
36. ถ่านไฟฉาย
37. หลอดไฟฟ้า

หมวดยารักษาโรค

          38. ยาสามัญประจำบ้าน จำแนกเป็น

          – ยาบรรเทาปวดลดไข้
          – ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก
          – ยาแก้ไอ ขับเสมหะ
          – ยาดมหรือยาทาแก้วิงเวียน หน้ามืด คัดจมูก
          – ยาแก้เมารถ เมาเรือ
          – ยาแก้ท้องเสีย
          – ยาระบาย
          – ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ แมลงสัตว์กัดต่อย
          – ยาสำหรับโรคผิวหนัง
          – ยาใส่แผล ยาล้างแผล

 

สินค้าเพื่อการศึกษา 5 รายการ

1. เครื่องแบบนักเรียน
          2. เครื่องเขียน เช่น ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น
          3. สมุด
          4. แบบเรียน หนังสือเสริมความรู้
          5. อุปกรณ์การศึกษา

วัตถุเพื่อเกษตรกรรม 3 รายการ

          1. ปุ๋ยเคมี
          2. ปุ๋ยอินทรีย์
          3. เมล็ดพันธุ์พืช

โดยการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อซื้อสินค้าดังกล่าวจะใช้วิธีรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจ่ายกับเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ของร้านค้า ผู้ถือบัตรจะไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าจริง ยกเว้นว่าจำนวนเงินที่ใช้ซื้อสินค้าเกิน 200 หรือ 300 บาท (ตามวงเงินที่ได้รับในแต่ละคน) ผู้ถือบัตรจะต้องจ่ายเงินสดเพิ่มไปให้กับทางร้านค้า

ทั้งนี้ ยังมีสินค้าบางประเภทที่ไม่สามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อได้ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ รวมทั้งบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ provincereport.moc. go.th

ภาพจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand  สปริงนิวส์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรมการค้าภายใน
สํานักจัดระบบราคาและปริมาณสินค้า
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2018, 08:51:25 am »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!  www.pohchae.com         “ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเฟส 2” ก.คลังเผยเริ่ม 1 ก.พ.2561- พร้อมสิทธิประโยชน์คับคั่งอาทิ สิทธิจองซื้อที่อยู่อาศัยราคาถูก  บ้านคนไทย บ้านประชารัฐ.. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.. นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 11.4 ล้านคนทั่วประเทศ เข้ามาลงทะเบียนในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เฟส 2 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป โดยให้ผู้มาลงทะเบียนเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปลงทะเบียนได้ที่ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมถึงตามสถานที่อื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งมีประกาศในชุมชน เช่น ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต เป็นต้น สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนจะได้รับวงเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับวงเงินเพิ่มเป็นเป็นเดือนละ 500 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท/ปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี จะได้รับวงเงินเพิ่มเป็นเดือนละ 300 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 นอกจากนี้ ภาคเอกชนที่เข้าร่วมมาตรการจะได้รับมาตรการพิเศษทางภาษีสามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายที่กำหนด โดยเริ่มรอบเวลาบัญชีวันที่ 1 มกราคม 2561-31 ธันวาคม 2562.. นอกจากนี้ มีทีมหมอประชารัฐสุขใจ (AO) ทั่วประเทศมากกว่า 7,000 คน จากเจ้าหน้าที่ระดับปริญญาตรีที่เปิดรับใหม่ 3,500 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ เกษตรอำเภอ เพื่อคอยให้คำแนะนำแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้มีรายได้น้อย เช่น ประสานจัดหางานในท้องถิ่น แนะนำให้ธนาคารรัฐสนับสนุนสินเชื่อเพื่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือถ้าขาดทักษะอาชีพ ก็จะมีการอบรมช่วยเหลือ ตลอดจนการให้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยมีโครงการช่วยเหลือมากกว่า 36 โครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายจะช่วยผู้มีรายได้น้อยทั้ง 11.4 ล้านคน ให้หลุดพ้นจากความยากจนได้ไม่น้อยกว่า 25% หรือ 2.85 ล้านคน ภายในปีนี้
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2018, 08:37:03 pm »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาและคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!    www.pohchae.com
.
.      -------------------   เงินค่าเช่าบ้านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มโอน 12 ธันวาคม นี้ เป็นงวดแรก ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เดือนละ 400 บาท ใครมีสิทธิ์รีบเช็กเลยเงินเข้าหรือยัง? 12 ธันวาคม 2561 นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางจะเริ่มจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่อยู่อาศัย (ตามข้อมูลลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย) เดือนละ 400 บาท ในวันที่ 12 ธันวาคม นี้ เป็นงวดแรก และจ่ายต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 2562 ให้กับผู้มีสิทธิ์จำนวน 187,384 ราย
โดยเงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านที่โอนเข้ากระเป๋า e-Money จะไม่จำกัดเวลาการใช้จ่าย และไม่มีการดึงเงินกลับในช่วงปลายเดือน แตกต่างจากวงเงินสวัสดิการในการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคเดือนละ 200-300 บาท หรือค่าเดินทาง 500 บาท ที่ต้องใช้เดือนต่อเดือน
นอกจากนี้ ในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 จะเป็นการโอนคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% จากยอดใช้จ่ายช่วงเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นจึงจะเป็นการโอนเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลให้กับผู้สูงอายุ อีกคนละ 1,000 บาท เป็นลำดับต่อไป ..นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าการถอนเงินสดออกมาจากตู้ ATM เป็นเรื่องยุ่งยาก และจะช่วยถอนเงินสดให้โดยคิดค่าบริการเป็นรายคน เพราะผู้มีสิทธิสามารถถอนเงินได้ด้วยตนเองเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น หากพบเห็นผู้ฉวยโอกาสกับเรื่องนี้ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด หรือติดต่อแจ้งเข้ามาที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 02-270-6400
ขอบคุณ https://108kaset.com/farm/2018/12/12/money/  
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!