"หมีน้ำ"อสูรกายสุดเจ๋ง

[nongtop]

ถ้าพูดถึงความสามารถพิเศษของสัตว์ตัวนี้แล้ว หลายคนอาจจะอ้าปากค้างเลยก็ได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นลองไปดูกันเลยครับ 

[nongtop]

- หมีน้ำถูกค้นพบครั้งแรกโดย Johann August Ephraim Goeze ในปี 1773
- มีอีกชื่อว่า Tardigrades มีความหมายว่า เจ้าตัวเดินช้า( Slow Walker )
- ส่วนชื่อ หมีน้ำ ( Water Bear ) นั้นมาจากท่าทางการเดินของพวกมัน
- เมื่อโตเต็มที่มีขนาดเพียง 1.5 มิลลิเมตร ส่วนตัวที่เล็กที่สุดมีขนาดเพียง 0.1 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงตัวอ่อนมีขนาดเพียง 0.05 - มิลลิเมตร
- หมีน้ำมีมากกว่า 1000 สายพันธุ์ โดยมากเป็นพวกกินพืช ส่วนน้อยกินแบคทีเรีย และกินสัตว์
- หมีน้ำสามารถพบได้ทั่วโลก ตั้งแต่ที่ยอดเขาหิมาลัย(Himalayas) ที่ความสูงกว่า 6,000 เมตร จนถึงในทะเลลึกถึง 4,000 - เมตร ไม่ว่าจะเป็นที่ขั้วโลก หรือในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
- หมีน้ำชอบอาสัยอยู่ที่ต้นมอส และพวกเห็ด รา ต่างๆ แต่ยังสามารถพบได้ตาม ทราย ชายหาด ดิน แร่ธาตุ และในตะกอนน้ำ
- ร่างกาย เป็นท่อน 4 ท่อน(ไม่รวมส่วนหัว) ในแต่ละท่อนมี 2 ขา ในแต่ละขามีเล็บ

[nongtop]

1. หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -272.8°C (ได้ประมาณ 1 นาที ) และที่ -200°C ( อยู่ได้ประมาร 1 วัน )
2. หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 151 °C
3. สามารถทนรังสีได้มากกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า
4. เมื่อปราศจากน้ำพวกมันจะอยู่ในสภาพจำศีลได้กว่า 100 ปี และเมื่อได้รับน้ำพวกมันสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นได้อีกครั้ง
5. มันอยู่ได้ในที่ที่มีแรงดันสูงถึง 6,000 atm (ทนต่อแรงกดดันได้มากกว่าแรงกดดันที่ก้นบึ้งมหาสมุทรเสียอีก)
ุ6. สามารถอยู่ได้ในสภาพนอกโลก (จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์เมื่อปี 2007 เจ้าหมีน้ำจำนวนหนึ่งได้โดยสารไปพร้อมกับ FOTON-M3)

ขอขอบคุณที่มาดีๆ จาก animals.spokedark.t v และ oknation.net

[nongtop]

เป็นไงบ้างครับกับความน่าทึ่งของมัน เขาบอกว่ามันมีชีวิตอยู่ก่อนยุคไดโนเสาร์อีกต่างหากครับ (เอ๊ะ หรือมันมาจากนอกโลกครับ อิๆ)