ประวัติ เจ๊เกียว หรือ สุจินดา เชิดชัย เจ้าแม่รถทัวร์ไทย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 09:58:41 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติ เจ๊เกียว หรือ สุจินดา เชิดชัย เจ้าแม่รถทัวร์ไทย  (อ่าน 34318 ครั้ง)
หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 10:38:20 am »


เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง ภาพ ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์   สถานที่  โรงแรม โฟร์ ซีซันส์ ราชดำริ

"เจ๊เกียว" สุจินดา เชิดชัย 
จากแม่ค้าสู่มหาเศรษฐีพันล้าน


            ทุกครั้งที่น้ำมันขึ้นราคา สุจินดา เชิดชัย หรือ "เจ๊เกียว" ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง และเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์และบริษัทเดินรถ เชิดชัย ที่ถือเป็นบริษัทประกอบรถทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ มักจะเข้าพบฝ่ายรัฐเพื่อขอขึ้นราคาอยู่เสมอ ๆ ด้วยบุคลิกพูดจาดุดันตรงไปตรงมานี้เอง แต่หลายคนอาจมองเธอเป็นผู้ที่มีอิทธิพล หรือระดับมาเฟียก็คงไปห้ามความคิดใครไม่ได้ หรือความดุดันของเธออาจมาจากการปกครองลูกน้องกว่า 3,000 คน ซึ่งเป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด

    วันนี้”เจ๊เกียว”อายุ 72 ปีแล้ว เพื่อให้ชีวิตในบั้นปลายมีความสุขจึงอยากเป็นผู้ให้ ดังนั้น เธอได้เตรียมตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนจน แล้วเวลาบ่ายโมงตรงเรามีนัดพูดคุยกันที่บริษัท เชิดชัย ที่ ร.พ.คามิลเลียน ถ.สุขุมวิท 55 หลังจากมาตรวจสุขภาพเธอได้พาไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหารของโรงพยาบาลทำให้เราได้เห็นการใช้ชีวิตแบบสมถะของ”เจ๊เกียว” ที่มีเงินเป็นพันล้าน แต่กินข้าวแกงก็อิ่มได้เหมือนกัน เมื่อท้องอิ่มเธอยิ้มแล้วได้เริ่มต้นเล่าถึงฉากชีวิตแม่ค้าก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน
 


นักวิทยาศาสตร์ คือความฝันในวัยเด็ก


     เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2สงบได้เข้าเรียนที่ อ.เนินสูง ห่างจากโคราช 19 กิโลเมตร แต่พอเรียนจบ ป.4 มีความใฝ่ฝันว่าอยากเรียนต่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นคนชอบคำนวน ชอบสร้างจินตนาการ และชอบวางเป้าหมาย ทุกเรื่องที่คิดจะเป็นเรื่องอนาคต เคยคิดสักวันจะขึ้นไปดูพระจันทร์กับดวงดาว แต่ความฝันก็ต้องสะดุดลงทันทีเมื่อพ่อแม่ไม่ยอมให้เรียน เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงไม่ต้องเรียนมากก็ได้ วันนั้นจึงได้บอกกับตัวเองว่าไม่ได้เรียน ก็จะขอเป็นคนดีที่สุด


“ตอนที่แม่บอกไม่ให้เรียนฉันเสียใจมาก เลยบอกแม่ไปว่าถ้าไม่ให้ฉันเรียนไม่ต้องมาเลี้ยงฉัน โดยฉันจะหาเลี้ยงตัวเอง ขอแค่อาศัยบ้านอยู่ก็แล้วกัน ตอนที่จบป.4 อายุ 11 เอง แต่ฉันเริ่มเป็นแม่ค้าตอนอายุ 9 ขวบ ขายน้ำตามสถานีรถไฟ ด้วยการซื้อกระป๋องนมมาใส่น้ำขาย แต่พอเขากินทิ้งเสร็จแล้วก็จะเก็บมาล้างเพื่อใช้ต่อ แล้วก็ยังขายเรียงเบอร์เป็นเล่มๆ ทำอยู่หลายปีจนได้ย้ายกลับเข้ามาอยู่โคราช” เธอทำเสียงแบบน้อยใจพ่อแม่ที่ไม่ยอมให้เรียน


เปิด ร.ร.สอนตัดเสื้อ

    
หลายอาชีพที่เธอได้ทำไปนั้น เรียกว่ามาจากแรงกายที่ต้องการแสดงให้แม่เห็นว่า เป็นผู้หญิงก็สามารถยืนด้วยลำแข่งตัวเองได้ จากนั้นอายุ 15 ปี ได้เปลี่ยนอาชีพไปเรียนตัดเสื้อ แล้วหันมาเปิดร้านตัดเสื้อที่ห้องแถว ความเป็นอยู่ของตัวเองก็เริ่มดีขึ้น สมัยนั้นค่าจ้างตัดเสื้อตัวละสองสามบาท แต่ค่าจ้างตัดสูงสุดก็จะไม่เกิน 7 บาท ระหว่างนั้นก็เปิดโรงเรียนสอนตัดเสื้อเก็บค่าเรียนประมาณ 350 บาท ขณะเดียวกันเธอได้สร้างตำราขั้นพื้นฐานให้ผู้มาเรียนให้ด้วย


“ช่วงที่รับตัดผ้ากลัวไม่รวย ก็ยังทำขนมขายหน้าร้านอีก เช้าก็ขายขนมครก แล้วก็ขายขนมหวาน เผือกบวช ฝักทองบวช ข้าวเหนียวเปียก เม็ดสาคู ทำเสร็จแล้วยังเอาไปส่งให้กับแม่ค้าในตลาดด้วย เชื่อไหมว่าตอนนั้นฉันว่าฉันก็รวยเหมือนกันนะ(หัวเราะ) เพราะมีเงินซื้อทองมาเก็บไว้ตั้งแต่บาทละ 314 บาท ฉันหาตังค์ได้ฉันก็ซื้อแต่ทองเส้นละบาท พอซื้อได้ 25 ข้อ ก็จะนำไปเปลี่ยนเป็นเข็มขัดทองหนัก 26 บาท บอกตามตรงว่ามันเป็นความภูมิใจมากๆ” นี่เป็นจุดเริ่มต้นกองมรดกพันล้านของเจ๊เกียว


“เจ๊เกียว” สู่“เจ้าแม่รถทัวร์”

  
ชีวิตของผู้หญิงเก่งในนามเจ๊เกียวเริ่มเข้าสู่ธุรกิจรถทัวร์เมื่ออายุย่าง 19 ปี เมื่อได้แต่งงานกับสามี(กิมไซ-วิชิต เชิดชัย) ที่อายุมากกว่า 10 ปี โดยมีกิจการอู่ต่อรถบรรทุก จากนั้นทำให้ชีวิตเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเจ๊เกียวจะเป็นผู้บริหารงานและวางแผนแทนสามีทั้งหมด กระทั่งกิจการอู่ต่อรถที่เป็นของกงสีสถานการณ์เริ่มไม่ดี สามีก็ชวนไปอยู่ที่ภาคใต้ แต่เธอปฏิเสธ


“เธอจะไปก็ไปเถอะแต่ฉันไม่ไป ถ้าเธอไปก็เลิกกันแล้วไปหาเมียใหม่เลย แล้วสามีฉันบอกว่า หากเขาไปแล้วฉันจะอยู่ยังไง ฉันก็บอกว่าไม่ต้องห่วง ตอนนั้นมีลูกสาวคนเดียวยังไงก็เลี้ยงได้ แล้วฉันตอนนั้นเพิ่งอายุยี่สิบกว่าหาผัวใหม่ได้ แต่แล้วสามีก็ไม่ไป ที่ฉันมีความเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะแม่ได้นำดูหมอทำนายดวงเอาไว้ว่าวันหนึ่งฉันจะรวย” เธอทำเน้นเสียงเข้มแล้วก็ยิ้มหวังสักวันคงต้องรวย

http://www.1009seo.com/


บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 10:50:32 am »




ธุรกิจพันล้านเกิดจากความขยัน


  ..จากนั้นไม่นานได้ขยายธุรกิจอู่ต่อรถไปสู่การเดินรถโดยสาร โดยเป็นจุดเริ่มต้นวิ่งรถสัมปทานไปต่างจังหวัดเพียง 2 คัน จนกลายมาธุรกิจใหญ่โตมีรถวิ่งนับพันคัน ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีสัมปทานเดินรถใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเครืออู่เชิดชัย มี 6 บริษัทคือ..

1.อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม ประกอบตัวถังรถยนต์โดยสาร,

2.เชิดชัยมอเตอร์เซลล์ จำหน่ายรถโดยสาร ตัวถังรถยนต์โดยสารอีซูซุ วอลโว่,

3.ราชสีมายานยนต์ บริการรถรับส่งผู้โดยสารระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกกับภาคเหนือโดยรับสัมปทานจากบริษัทขนส่งจำกัด


4.เชิดชัยกู้ดแลนด์ ตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง,

5.เชิดชัยคาร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในนครราชสีมา,


6.เชิดชัย แมคคินา ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์ในนครราชสีมา

 ทรัพย์สินในเวลานี้ของ“เจ๊เกียว” หากประเมิน ก็คงมีตัวเลขเป็นพันล้านอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ๆ เธอมีที่ดินนับหมื่นไร่ทั่วประเทศ แล้วชีวิตมีวันนี้ได้เธอบอกว่า “ชีวิตประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ก็เพราะรู้จักใช้ของประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย แล้วก็มีความขยัน ด้วยแนวคิดที่ฉันมีมาตลอดคือ ต้องลงทุนด้วยชีวิต กำหนดจุดหมายปลายทางไว้ให้สูง แล้วบินไปให้ถึง”


หลักดำเนินชีวิต 3 ประการ 


  ..แม้หลายคนมองว่าเป็นเจ้าแม่หรือเป็นมาเฟีย เธอไม่สนใจกับคำพูดเหล่านั้น เพราะรู้ดีว่าทุกก้าวของชีวิตกำลังทำอะไรให้กับสังคม โดยเธอมีหลักในการดำเนินชีวิตเอาไว้อย่างน่าสนใจกับองค์ประกอบ 3 ประการ คือ ..

1.สัจธรรม คือ คำพูดต้องเป็นสัจจะ ทำอะไรไม่ต้องเซ็นสัญญาก็ได้ แต่ต้องมีสัจจะ

2. คุณธรรม คือ จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงบุญคุณเป็นใหญ่ แล้วจะทำอะไรก็แล้วต้องตอบแทนบุญคุณให้ คุณธรรมที่ว่าต้องทำแต่สิ่งที่ดีๆ เช่น อยู่แผ่นดินไทยก็ต้องรักแผ่นดินไทย

3.พุทธธรรม คือ ไม่สร้างบาป ไม่โกงใคร และไม่โกหกใคร ถ้าบอกว่าให้ก็คือให้ แต่ถ้าบอกไม่ให้ก็คือไม่ให้ แล้วเป็นคนไม่กลัวใครด้วยและความเป็นคนตรงพูดจริงและทำจริง


“เจ๊เกียว” เค็มจริง?


  ..หลายคนคงเห็นเจ๊เกียวในลักษณะของความเป็นเจ้าแม่ที่จะถูกค่อนขอดด้วยสายตาว่า เป็นคนขี้เหนียว หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นคน “เค็ม” เมื่อได้ยิงคำถามนี้ เธอยอมรับว่า “ใช่ฉันเป็นคนเค็มจริงๆตามที่เขาว่ากัน เพราะถ้าไม่เค็มก็ไม่ใช่เจ๊เกียวแน่นอน ความเค็มที่ติดตัวมา เพราะเคยลำบากมาก่อน ทำให้รู้คุณค่าของเงิน


“มาถึงวันนี้ก็ทำให้เธอเป็นคนกลัวความจน เพราะคิดเสมอว่าเงินทองเป็นของหายาก แต่ถ้าเราเป็นนายมันคือ วันหนึ่งเราจะเป็นเศรษฐี เราก็จะมีเงินใช้เยอะ เพราะถ้าเราปล่อยให้เงินเป็นนายเราในที่สุดเราจะไม่เหลือเงินเลย”

ก่อนตาย สุจินดา เชิดชัย หรือ "เจ๊เกียว" เตรียมตั้งมูลนิธิ”เกียวไซ” เพื่อช่วยเหลือคนจน และนี่คงบทเรียนชีวิตที่น่าจะเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังท้อได้เป็นอย่างดี 


http://www.1009seo.com/
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 11:02:19 am »


   บนเส้นทาง 50 ปี ในบทบาทของ เจ๊เกียว ผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของสัมปทาน ธุรกิจรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีรถโดยสารในแบรนด์เชิดชัยทัวร์ อยู่ราวหนึ่งพันคัน มีพนักงานกว่า 3 พันคน เป็นธุรกิจที่ซือเจ๊ผู้นี้ยังนั่งสั่งการอยู่ โดยยังไม่มีใครรู้ว่า เธอจะวางมือลงวันไหน
       
          อีกบทบาทสำคัญของเจ๊ผู้นี้ คือ การนั่งเป็นนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร เป็นบทบาทของเธอ ที่กล่าวกันว่า ยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลสูงมากในการกำหนดราคาค่าตั๋วรถโดยสารของประเทศ
       
          ยิ่งในช่วงน้ำมันแพงขึ้น เจ๊เกียวจะปรากฏตัวขึ้นทุกครั้งในการเข้าไปพบกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพื่อขอขึ้นค่าโดยสารรถทัวร์ ใครจะว่าใดๆก็ตาม แต่เจ๊เกียว บอกว่า เธอต้องทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่จะทำอย่างมีคุณธรรมไม่เอาเปรียบผู้ใช้บริการ
       
          เจ๊เกียว บอกว่า  ยังทำงานทุกวันตื่นนอนตั้งแต่ 7 โมงเช้า ทำงานถึงดึก บางวันถึงตี 3 เพราะยังรักและสนุกกับงาน แต่มีหน้าที่หนึ่งที่เธอ ย้ำว่า กลายเป็นหน้าที่หลักไปแล้ว คือ เป็น “ประธานเผาศพ” เรียกว่าเกือบทุกสัปดาห์ ต้องมีอย่างน้อย 1 งาน
       
          ประธานเผาศพ เป็นงานที่เจ๊เกียว ปฏิบัติมานานนับสิบๆปี แต่ช่วงนี้เจ๊เกียว ให้ลูกชายทั้งสองคนของเธอ แบ่งเบาภาระไปทำบ้าง เพราะบางวันเธอ บอกว่า ติดต่อกันเกือบทุกวัน
       
          “แต่ฉันก็วางอนาคตคร่าวๆว่า อาจจะวางมืออีกปีสองปี เพราะตั้งใจจะตั้งมูลนิธิเกียวไซ ขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม 2552 เป็นมูลนิธิ ทำงานเพื่อบุญกุศล เป็นงานหลักของฉันในช่วงบั้นปลายของชีวิต ส่วนธุรกิจก็จะให้ลูกๆดูแล”
       
          หลัก 3 ข้อที่ เจ๊เกียวให้ลูกๆยึดถือไว้เสมอ คือ

 1.ขยัน
 2.ประหยัด และ
 3. คุณธรรม โดยเฉพาะประหยัด ต้องเข้าขั้น “เค็ม” ได้ก็จะดี แต่ต้องเลือกเค็มกับสิ่งที่ควรเค็ม
       
          ขณะเดียวกัน หลักสำคัญในการดูแลลูกน้อง จะต้องรักลูกน้องให้เหมือนลูกของเรา เหมือนญาติ ดูแลครอบครัวของเขาด้วย แต่ถ้าลูกน้องคนไหนไม่ดี ต้องเด็ดขาด ไม่เลี้ยงไว้

       เกียวดีไซน์   
       
       เจ๊เกียว ไม่ใช่ผู้หญิงดูแข็งกระด้าง เธอเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามมากคนหนึ่ง เกือบทุกครั้งที่สื่อมวลชนจะนัดสัมภาษณ์ เจ๊เกียวจะบอกทุกครั้งว่า “ฉันขอแต่งตัวสวยๆก่อน ไปแต่งผมก่อนนะจะได้รูปออกมาดีๆ”
       
       ภาพของทรงผม ทรง “คุณนาย” แบบดันผมให้สูงขึ้น ฉีดสเปร์อย่างดี หน้าตาที่พิธีพิถันกับการแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ทำให้เจ๊เกียวดูดีเสมอในยามออกงานสังคม และดูไม่แก่เท่าอายุ 71 ปี
       
       ใช่ , เจ๊บอกว่า เธอเป็นคนรักสวยรักงามคนหนึ่ง เสื้อผ้าที่เจ๊เกียวแต่งออกงานเกือบทุกชุด เธอจะมักเป็นคนออกแบบเอง หรือ ให้ไอเดียกับช่างตัดเย็บ นั่นเพราะเจ๊เกียว เคยทำงานเป็นช่างตัดเย็บเสื้อ สมัยสาวๆแรกรุ่น เธอชอบการออกแบบเสื้อผ้ามาก
       
       “ฉันชอบแต่งตัว ฉันอายุ 71 แล้ว แต่หลายคนบอกว่าฉันไม่แก่ ส่วนหนึ่งเพราะ ฉันเป็นคนอารมณ์ดี ชอบคุยเรื่องตลก ไม่ได้เป็นคนเครียด เพราะถ้าชีวิตเรามีธรรมะ ยึดติดในใจแล้วย่อมจะเข้าใจว่า ทุกคนมีบุญและกรรมติดตัวมาทุกคน”
       
       เจ๊เกียว ทิ้งท้ายว่า ชีวิตของเธอ ในบั้นปลายคือ การทำบุญกุศล การเข้าวัด เจริญจิตใจให้ผ่องใส ไม่อาฆาตมาตร้ายใคร มองทุกอย่างเป็นเรื่องของบุญกรรม ที่คนเราเกิดมามีไม่เท่ากัน ต้องชดใช้กันไป ตามแรงบุญและแรงกรรมของแต่ละคน
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 11:07:00 am »

เจ๊...ที่ใครหลายคนเรียกว่าเฮียเกียว
       
          “ใครจะเรียกฉันว่า มาเฟีย ฉันไม่ถือสา ไม่โกรธ แต่ฉันจะจุดธูปบอกเง็กเซียนฮ่องเต้ ให้ผู้นั้น มีความวิบัติ ล่มจม กับสิ่งที่เขาว่าฉัน” เจ๊เกียว บอกกล่าวถึง คำที่คนชอบเรียกเธอว่า มาเฟีย
       
          อาจด้วยลีลาของผู้หญิง สไตล์ดุดัน เด็ดขาด ในการปกครองลูกน้องและส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างผู้ชาย จึงมีใครหลายๆคนเปรียบเธอว่า ผู้หญิงคนนี้ น่าจะเรียกว่า “เฮียเกียว” มากกว่า เจ๊ เพราะอำนาจบารมีของเธอ ไม่แตกต่างผู้ชายอกสามศอก
       
       เจ๊เกียว เล่าว่า คำว่าเจ๊เกียวมาจากคำว่า “คาเกียว” เป็นชื่อที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่มาเปลี่ยนชื่อเป็นสุจินดา ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แต่ผู้คนก็มักติดปากกับคำว่า เกียวมากกว่า ถึงขนาดที่บางคนแทบไม่รู้จักเลยว่าเจ๊คนนี้ชื่อจริงว่า สุจินดา เชิดชัย
       
          ถึงวันนี้ บารมีของเจ๊เกียว ในเมืองโคราช ยังเข้มแข็ง มีมากพอที่จะทำให้ผู้กว้างขวางหลายๆคน ต้องหนาวๆร้อนกัน ยิ่งเธอส่งลูกชาย สุรวุฒิ เชิดชัย ดูแลการเมืองท้องถิ่นด้วยแล้ว นับว่า ใครก็ยากยิ่งจะเข้ามาหาผลประโยชน์ ในถิ่นฐานของเธอได้



ชาวเน็ตขอแซว ! ถามเจ๊เกียวเงินเยอะ สนใจเปิด "เชิดชัย แอร์ไลน์ส" ไหม จะได้ไม่ต้องมีปัญหากับสายการบินโลว์คอสต์

             วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่เลยทีเดียว กรณีที่ เจ๊เกียว หรือ นางสุจินดา เชิดชัย ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง และเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์และบริษัทเดินรถ "เชิดชัย" ที่ออกมาโอดครวญบอกว่าถูกสายการบิน "โลว์คอสต์" แย่งผู้โดยสารไปซะหมด เนื่องจากราคาค่าตั๋วเครื่องบินนั้น นับวันยิ่งมีโปรโมชั่นแรง ๆ ลดราคาแทบทุกสายการบิน บางสายการบินไป-กลับ กระบี่ หาดใหญ่ อุบลฯ ราคาไม่ถึงพันบาทเท่านั้น !!  ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก พร้อมวอนให้กระทรวงคมนาคมจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้ออกมาขอให้สายการบินโลว์คอสต์ช่วยปรับราคาลงมาไม่ต่ำเกินไป จนกระทบกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่น 

            อย่างไรก็ดี ประเด็นดังกล่าวถูกยกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย โดยส่วนมากระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับทางกระทรวงคมนาคมที่ออกมาขอให้ทางสายการบินโลว์คอสต์ต้องปรับราคาขึ้น ถึงแม้จะไม่มีอำนาจควบคุมราคาก็ตาม แต่ก็ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้โดยสาร

           นอกจากนี้ ชาวเน็ตจากเพจ T-Pageant ก็ขอทำภาพแบบฮา ๆ แนะนำเจ๊เกียวเบา ๆ ว่า เจ๊เกียวก็มีเงินเยอะ น่าจะเอาเงินมาลงทุนเปิด "เชิดชัยแอร์ไลน์ส" จะได้เลิกมีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับสายการบินโลว์คอสต์สักที !! พร้อมทั้งทำภาพเป็นหน้าของเจ๊เกียวอยู่บนตัวเครื่องบินและหางเครื่องบินด้วย ให้เหมือนกับรถทัวร์ของเจ๊เกียวที่มีหน้าตัวเองติดหราอยู่ งานนี้ชาวเน็ตกดไลค์ แชร์กันเพียบเลยล่ะ

http://www.1009seo.com/
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 11:20:11 am »

เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้ว

คนจีน เค้าเรียก โหงวเฮ้ง

面相

เมี่ยน เซี่ยง


 
บันทึกการเข้า
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 16, 2015, 12:51:26 pm »

เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้ว

คนจีน เค้าเรียก โหงวเฮ้ง

面相

เมี่ยน เซี่ยง


 

น่าเชื่ออย่างที่ว่า "พระเจ้าไม่ให้ทั้งหมดกับทุกคน" หน้าตาต้องไปวัดตอนสายๆ (คนอื่นกลับบ้านกันหมดแล้ว) แต่ทำธุระกิจประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคนไปวัดตอนเช้า+555
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!