ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เผย รายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 40,000 – 50,000 บาท

[ปื้น ปากพนัง]

เจ้าของกิจการผักไฮโดรโปนิกส์ เผย รายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 40,000 – 50,000 บาท แจงต้นทุนในการผลิต 8 บาท ต่อ 1 ต้น





ผักไฮโดรโปนิกส์เป็นผักที่ใช้กรรมวิธีการปลูกโดยไม่ใช่ดินแต่จะปลูกโดยใช้น้ำและมีการให้แร่ธาตุที่เหมาะสมแทน จัดเป็นผักปลอดภัยจากสารพิษ

นางสาวปาริชาต ทองใหญ่ ณ อยุธยา เจ้าของกิจการต้นน้ำ กล่าวว่า ผักไฮโดรโปนิกส์นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์  เฉลี่ย 1 กิโลกรัมใช้ผักทั้งหมด 10 ต้น และใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณหกสัปดาห์ ถึงจะสามารถนำไปขายได้ โดยผักที่ปลูกขายมีทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่ Cos, Rocket, Green oak, Batavia, Frillice icebrg, Red oak, Butterhead, Red coral

[ปื้น ปากพนัง]

นางสาวปาริชาต กล่าวต่อไปว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองเอก ซึ่งจะมารับไปขายที่ตลาดเมืองเอกพลาซ่า และตนกำลังจะเปิดร้านสลัดผักไฮโดรโปนิกส์ เน้นขายให้กับชาวบ้าน โดยทางร้านจะทำมิกซ์สลัดขาย ถุงละ 35 บาท และขายผักเป็นต้น ต้นละ 25 บาท ซึ่งรายได้จากการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ในช่วงฤดูหนาว จะได้ประมาณ 40,000 – 50,000 บาทและในช่วงฤดูร้อน จะได้ประมาณ 20,000 บาท โดยรายได้ดังกล่าวนั้นจะต้องหักค่าใช้จ่ายอีก 30%

นางสาวปาริชาต กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผักสวยงามที่สุด ในขณะที่ฤดูร้อนกับฤดูฝน ใบของผักจะเล็กลง ผลผลิตไม่ดี ต้องเปิดสปริงเกอร์ตลอด เนื่องจากผักไม่ได้ปลูกในดิน จึงต้องปรับค่าน้ำ pH และปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยน้ำ ซึ่งเป็นปุ๋ยสังเคราะห์ที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

[ปื้น ปากพนัง]

“เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่ผ่านมาผักไฮโดรโปนิกส์ที่นี่เสียหายหมด ต้องรื้อทำใหม่ ใช้เงินไปเกือบล้านบาท เนื่องจากระบบของผักไฮโดรโปนิกส์ต้องอัดอากาศเย็นเข้าไปใต้ดิน เพื่อให้ความเย็นเข้าไปในถัง เนื่องจากผักไม่สามารถอยู่ในอากาศร้อนได้” นางสาวปาริชาต กล่าว

ทั้งนี้จากนิตยสารธรรมลีลา ระบุว่า ประโยชน์ของการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ คือ การคงคุณประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุดของผักเอาไว้เต็มที่ อาทิ กากใยอาหารช่วยในการล้างลำไส้และช่วยในการขับถ่ายความสะอาดและปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคที่อยู่ในดิน

ขอบคุณ http://www.108kaset.com/