กล้องดิจิตอลสามารถติดไวรัส/สปายแวร์เหมือน USB แล้วลามไปเครื่องอื่นเมื่อเราเสียบ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 09:52:05 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กล้องดิจิตอลสามารถติดไวรัส/สปายแวร์เหมือน USB แล้วลามไปเครื่องอื่นเมื่อเราเสียบ  (อ่าน 3950 ครั้ง)
BMW
วีไอพี
member
***

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 401


ทานตะวัน


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 19, 2007, 10:01:12 pm »

กล้องดิจิตอลสามารถติดไวรัส/สปายแวร์เหมือน USB แล้วลามไปเครื่องอื่นเมื่อเราเสียบได้รึเปล่าครับ

อีกอย่าง เวลาเครื่องติดไวรัสเห็นคุณวินัยและคุณท่องทางแนะนำให้ไปสแกนในเซฟโหมดบ่อยๆ ทำไมต้องไปทำในนั้นครับ ทำข้างนอกไม่ได้เหรอ ผมถนัดเรื่องทีวีนะครับ แต่เรื่องคอมประมาณ ป.1 อย่าว่ากันนะครับ ขอบคุณมากๆครับ


บันทึกการเข้า

TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2007, 01:22:43 am »

ปกติในกล้องเห็นติดแต่ใน Memory นะครับ ในเครื่องยังไม่เคยเจอ

ก็สแกนใน Safemode มันละเอียดกว่าครับ
อยากรู้เดี๋ยวท่านวินัยมาเล่าให้ฟัง  Tongue
บันทึกการเข้า
winai4u-LSV team
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน673
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3025



« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2007, 08:52:27 am »

ตัวกล้องเอง มันจะเป็นพาหะ เชื้อโรคไปสู่คอมพิวเตอร์อื่น ๆ ผ่านทาง Memory card ครับผม รวมถึง memory ในตัวกล้องเองด้วย แต่มันไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับตัวกล้องครับ เหมือนกัน ๆ กับยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกแน้วนำมาสู่คนนั่นแหละครับ ยุงไม่ได้ตายเพราะเชื้อนั้นแต่จะนำมาสู่คนได้

แล้วทำไมถึงแนะนำให้ ทำการ scan ใน safe mode นั้น อธิบายได้ดังนี้ครับ

เพราะเนื่องจาก การทำงานของโปรแกรม Spybot Search & Destroy และ Ad-aware จะใช้วิธีค้นหาสปายแวร์ที่อยู่ในเครื่องของคุณโดยดูจากไฟล์รวมรายชื่อ adware และ spyware โดยโปรแกรมจะสามารถลบไฟล์ต่างๆ ภายใต้สิทธิ์ที่ได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้ แต่ในกรณีที่ไฟล์ (ซึ่งอาจหมายถึง Spyware) ที่กำลังทำงานอยู่ โปรแกรมจะไม่สามารถลบไฟล์พวกนี้ออกไปได้
แต่เมื่อคุณเริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Safe Mode ระบบปฏิบัติการ Windows จะโหลดไดรเวอร์ และไฟล์อื่นๆ ให้น้อยที่สุด ซึ่งการรันโปรแกรม Ad-aware และ Spybot ในกรณีนี้จะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า เนื่องจากมันจะสามารถกำจัดสปายแวร์ที่อาจจะเคยทำงานก่อนหน้านี้ออกไปได้
ก่อนหน้านี้ ผมเคยกำจัด Spyware ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานคนหนึ่งในบริษัท ซึ่งพบว่า มีอยู่หลายไฟล์ทีเดียวที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยโปรแกรม Ad-aware และ Spybot แต่เมื่อเข้าสู่ Safe Mode ผมก็สามารถลบพวกมันออกไปได้
ปกติคุณสามารถบู๊ตเครื่องให้เข้าไปใน Safe Mode ได้ด้วยการกดปุ่ม F8 ระหว่างที่คอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน แต่ถ้าไม่เวิร์ก ให้ลองกดปุ่ม Ctrl ระหว่างบู๊ต หรือตรวจสอบคู่มือเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ (ซึ่งมักจะหาไม่เจอ)
อันที่จริงแล้ว จากประสบการณ์ผมสามารถกำจัด Spyware ที่อยู่ในเครื่องได้ด้วยการบู๊ตเครื่องปกติ น้อยครั้งมากที่พบว่า ต้องใช้ Safe Mode ในกรณีนี้ ผมแนะนำให้คุณรันโปรแกรม Ad-aware และ Spybot ด้วยการบู๊ตปกติ ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น จึงค่อยใช้วิธีบู๊ตเข้า Safe Mode ก่อนรันโปรแกรมพวกนี้
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญนั่นคือ คุณควรจะอัพเดตโปรแกรม Spybot และ Ad-aware บ่อยๆ ก่อนใช้พวกมันด้วย การดาวน์โหลดโปรแกรมทั้งสองมาติดตั้ง ไม่ได้หมายความว่า มันได้รับการอัพเดตแล้ว ดังนั้นคุณควรสั่งให้มันอัพเดต Spyware ก่อนรันจะดีกว่าครับ

http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=125.0
บันทึกการเข้า
BMW
วีไอพี
member
***

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 401


ทานตะวัน


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2007, 08:48:05 pm »

ขอบคุณมากครับ Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!