เจาะใจ "อริยะ พนมยงค์" ผู้บริหารกูเกิลไทย กว่าจะเป็น Googley....
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 02:36:38 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจาะใจ "อริยะ พนมยงค์" ผู้บริหารกูเกิลไทย กว่าจะเป็น Googley....  (อ่าน 2405 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 05:13:10 pm »



"อริยะ พนมยงค์" ขึ้นแท่นผู้บริหารดูรายได้-ทิศทางธุรกิจ กูเกิลไทย เผยยุทธศาสตร์ออนไลน์สำคัญ ในสไตล์ Googley หรือบุคลิกแบบคนกูเกิล


กูเกิล "ผงาด" เปิดออฟฟิศในไทยครั้งแรก พร้อมดัน "อริยะ พนมยงค์" ลูกหม้อทรู ขึ้นแท่นผู้บริหารดูรายได้-ทิศทางธุรกิจ เสริมทัพทีมงานคนไทยคาดปี 55 ทีมพร้อมลุยเกือบ 20 ชีวิต เปิด 4 ยุทธศาสตร์หลักกุมฐานลูกค้าไทย เดินหน้าชูนวัตกรรมใหม่ ปั้นคอนเท้นท์ไทยเร่งเจาะตลาด โดดลุยตลาดโฆษณาออนไลน์เต็มสูบหลังเห็นโอกาสยังสูง หวังชิงส่วนแบ่งให้ได้เทียบชั้นตปท.ที่รวบตลาดออนไลน์ได้กว่า 50%

นายอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ บริษัทกูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า กูเกิลได้เปิดสำนักงานประจำประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ดูทิศทางธุรกิจ ลูกค้า รวมถึงการรับรู้รายได้ของกูเกิลในเมืองไทย และยังต้องรายงานตรงไปยัง กูเกิล สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ที่ดูแลลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหลังจากนี้บทบาทการทำธุรกิจกูเกิลในไทยจะชัดเจน มีทิศทางที่เป็นของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดของโฆษณาออนไลน์
 
"ตอนนี้การใช้จ่ายในสื่อโฆษณาที่เป็นออนไลน์ในไทยยังน้อยมาก ตัวเลขของผมคือไม่ถึง 1% ดี ซึ่งยังมีโอกาสอีกกว่า 99% ที่เราจะสามารถเจาะเข้าไปได้ เป้าของผมในส่วนของตลาดโฆษณาออนไลน์ คือ ถ้าต่างประเทศเขาทำได้ อย่างในอังกฤษมีการใช้จ่ายในสื่อออนไลน์เกือบ 50% อเมริกา 30% ตลาดไทยเองก็ไม่น่าจะมีเหตุผลที่จะทำไม่ได้ คือ เขาทำได้เท่าไหร่ เราก็น่าจะทำได้ กูเกิลไม่ได้มองที่ 1% แต่เรามองที่ 99% ที่จะเป็นโอกาสมากกว่า"
 
นายอริยะ กล่าวว่า จากนี้กูเกิลจะเน้น 4 ยุทธศาสตร์ทิศทางธุรกิจกูเกิลในไทย ได้แก่ 1.เน้นให้คนไทย เข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเขาให้ได้มากที่สุด หรือเสิร์ช เอ็นเจิ้น  2.เน้นนำเสนอนวัตกรรมใหม่เพื่อคนไทย ยกตัวอย่างแคมเปญโฆษณาโครม ครั้งแรกของกูเกิลในไทย แคมเปญธุรกิจไทย โก ออนไลน์ และจะมีนวัตกรรมอื่นๆ ตามมาอีก 3. เน้นสนับสนุนสร้างเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยให้มากขึ้น และ 4.กูเกิลจะเข้าไปช่วยให้ธุรกิจทุกระดับ ตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ กระตุ้นรายได้ของลูกค้าผ่านสื่ออนไลน์ ที่จะเน้นการเข้าไปให้คำปรึกษาโดยตรง แนะนำวิธีการลงทุน
 
"ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีกูเกิลในไทย การทำธุรกิจอาจยังไม่ค่อยคล่องตัว เพราะลูกค้าเองก็อาจต้องติดต่อผ่านไปยังสิงคโปร์ และถ้าจะให้ผู้บริหารสิงคโปร์บินมาไทยทุกสัปดาห์ ก็คงไม่ไหว ทีมงานที่เราจะมีในไทย จะมีทั้งทีมฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายปฏิบัติการที่ทำหน้าที่รวมดูแลลูกค้า อาจมีคอลล์เซ็นเตอร์ ลูกค้ากูเกิลในไทย ก็จะติดต่อเราได้ง่ายขึ้น"
 
ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ทีมงานคนไทย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการคัดเลือก โดยในช่วงแรกน่าจะมีทีมงานเข้ามาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 คน และคาดว่าในปีหน้าพนักงานน่าจะเพิ่มเป็น 20 คน
 
 อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการบริหารของกูเกิลในไทย ยังมีลักษณะเป็นองค์กรแนวราบ โดยตำแหน่งของตน และของนางสาวพรทิพย์ กองชุน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อยู่ในระดับที่เท่ากัน โดยแต่ละฝ่ายจะต้องรายงานตรงต่อผู้บริหารของสิงคโปร์ที่กำกับดูแลธุรกิจในแต่ละส่วน
 
"ผมจะเน้น ในเรื่องอื่นที่กูเกิลยังทำได้ไม่เต็มที่ เช่น การขาย สนับสนุนกลุ่มลูกค้า ที่ยังมีอีกมากที่กูเกิลยังไม่ได้เข้าไปคุย เบื้องต้นก็น่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่สามารถนึกชื่อออกได้ทันที ซึ่งไม่ใช่แค่องค์กรขนาดใหญ่ แต่เราจะเน้นเข้าไปทุกกลุ่มลูกค้าในเชิงของการให้คำปรึกษา" 
 
นายอริยะ อธิบายว่า เขามีสิทธิที่จะเสนอแนวทางการทำธุรกิจในไทย หรือคอนเซปต์ในเชิงธุรกิจ กลยุทธการเข้าหาลูกค้า เสนอไปยังกูเกิล ที่สิงคโปร์ได้เพราะกูเกิล เป็นบริษัทเปิด และมักใช้คนในโลคอล สะท้อนมุมมอง หรือเสนอสิ่งที่ต้องการไป
 
"จากนี้ไป กูเกิลไทย จะเน้นสร้างธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักให้แข็งแกร่งขึ้นในไทย ทั้งในเรื่องของเสิร์ชเอ็นจิ้น อีคอมเมิร์ซ คิดว่ากูเกิลยังคงต้องเอ็ดดูเคท ตลาดค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนนี้ทุกคนมุ่งตรงไปที่ออนไลน์กันอยู่แล้ว แต่มีคำถามว่า เราจะไปอย่างไร นี่เป็นหนึ่งในวิชั่นกูเกิล ที่จะช่วยลูกค้า ผ่านสินค้า บริการที่เรามีอยู่หลากหลาย"
 
นายอริยะ ยังได้เล่าถึงประสบการณ์ การไปอบรมเพื่อให้รับรู้ถึงวัฒนธรรม และการทำงานในกูเกิลที่สำนักงานกูเกิล ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ซึ่งรับรู้ตั้งแต่การที่กูเกิล ติดต่อไปเพื่อให้โอกาสมาร่วมงานแล้ว ซึ่งใช้เวลาในการอบรมที่ซิดนีย์ประมาณ 1 สัปดาห์
 
"ตอนที่กูเกิล ติดต่อมาตอนแรก ผมก็ลังเล เพราะเราอยู่ทรูมานานพอสมควร แต่เหตุผลที่หลักที่ตัดสินใจมากูเกิล เพราะถือเป็นโอกาสสำคัญที่หาไม่ได้ง่ายๆ แล้วเชื่อว่า คงมีหลายคนอยากมาทำงานกับกูเกิล ยิ่งผมอยู่ในวงการโทรคม ผมก็นับถือกูเกิลอยู่แล้ว เป็นความชอบส่วนตัว ผมก็เลยไม่อยากพลาดโอกาสนี้ และที่สำคัญ มันเป็นโอกาสที่ได้มาปักธงในเมืองไทย โอกาสแบบนี้ มีที่ไหน เราถือว่าเป็นสตาร์ทอัพ เราได้เสน่ห์ของความเป็นสตาร์ทอัพ และเสน่ห์ของธุรกิจกูเกิลในเวลาเดียวกัน"
 
นายอริยะ ยังได้เล่าถึง ประสบการณ์การสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการคัดเลือกเข้าทำงานที่กูเกิลด้วยว่า คำถามที่ถูกถาม จะเป็นเรื่องของทัศนคติ ที่กูเกิลต้องทราบว่าคนที่กำลังจะมาร่วมงานด้วยนั้นมีลักษณะ หรือบุคคลิกสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของกูเกิลหรือไม่
 
"คำถามที่ผมชอบมาก และผมก็ชอบในคำตอบที่ผมตอบไป คือ เขาถามผมว่า ถ้าให้คุณประเมินว่า ชั่วโมงนี้ ณ เวลานี้ มีคนใช้โทรศัพท์มือถือโทรหากันกี่คนในโลก คุณจะประเมินอย่างไร ผมก็บอกว่า ผมก็เสิร์ชกูเกิลเอา ซึ่งเขาก็พอใจ แล้วก็ยิ้ม ซึ่งผมมองว่า คำถามที่เขายิงมาแต่ละคำถาม จะเน้นให้เราได้แสดงบุคคลิก แนวคิด ทัศนคติของเราออกมา ว่าสามารถทำงานเข้ากันกับคนในองค์กรได้แค่ไหน" นายอริยะ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!