วันแห่งความรักแบบชาวพุทธ
นั่นก็คือ วันมาฆบูชา ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 18 ก.พ. ( 2554 )
มาฆบูชา หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือนมาฆะ หรือเดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพราะวันนี้ในสมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้ 9 เดือน ขณะประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา ณ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ พระสงฆ์สาวกที่พระพุทธองค์ได้ส่งไปเผยแผ่พุทธศาสนาตามเมืองต่าง ๆ ได้พร้อมใจกันกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายกันถึง 1,250 รูป ซึ่งถือเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง
การมาของพระพุทธสาวกเหล่านี้ ถือเป็นการมาประชุมพิเศษ ที่ประกอบด้วยองค์ 4 อันเป็นที่มาของการเรียกวันนี้อีกอย่างว่า วันจาตุรงคสันนิบาต นั่นคือ... 1.เป็น วันมาฆปูรมี คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือนมาฆะ (เดือน 3) จึงเรียกว่า วันมาฆบูชา, 2.พระภิกษุที่มาประชุมในวันนั้นมีจำนวนถึง 1,250 รูป, 3.พระภิกษุที่มาประชุมล้วนเป็น พระอรหันต์ ที่สำเร็จ อภิญญา 6 คือเป็นผู้มีความรู้อันยอดยิ่ง 6 ประการ ได้แก่ แสดงฤทธิ์ได้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ ระลึก ชาติได้ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้ และมีญาณหยั่งรู้ในธรรมอันเป็นที่สิ้นแห่งกิเลสทั้งหลาย, 4.พระภิกษุเหล่านี้ล้วนเป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา หมายถึง ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
ในวันดังกล่าวนี้พระพุทธเจ้าทรงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดง โอวาทปาติโมกข์ อันเป็นการประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติในการเผยแผ่พุทธศาสนา ให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม ซึ่งจะเรียกว่าเป็นธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือ หัวใจของพุทธศาสนา ก็ว่าได้
กล่าวสำหรับหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ชี้ว่า....เนื้อหาหลักนั้นว่าด้วยการส่งเสริม ให้มวลมนุษย์ตั้งมั่นในการทำความดี ละเว้นความชั่ว ไม่เบียดเบียนซึ่ง กันและกัน นั่นก็คือ ทรงสอนให้ทุกคนมีความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นรัก ที่ไม่เห็นแก่ตัว เพราะสอนให้รู้จักรัก และเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก
นี่จึงเป็นที่มาของ วันมาฆบูชา-วันแห่งความรัก
ที่มา พลังจิต.คอม