สินค้าแพงธ.ค.เงินเฟ้อ3%
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 11:25:17 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สินค้าแพงธ.ค.เงินเฟ้อ3%  (อ่าน 1714 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 05:56:54 am »




คุยปี 53 ตามคาด 3.3% จี้จับตาน้ำมัน-ค่าเงิน

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) เดือน ธ.ค. 53 เท่ากับ 108.92 เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 52 และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 53 สูงขึ้น 0.16% ทำให้เงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี ม.ค.-ธ.ค. 53 เทียบกับปี 52 สูงขึ้น 3.3% เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้ และถือเป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย ที่จีดีพีปี 53 จะขยายตัวประมาณ 7.5%
   
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.0% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน มาจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 5.6% ได้แก่ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งเพิ่มขึ้น 8.3% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น 4% ไข่และผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้น 3.2% ผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 20.7% เครื่องประกอบอาหารเพิ่มขึ้น 5.% อาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนดัชนีหมวดอื่น ๆไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 1.6% ได้ แก่ หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสารเพิ่มขึ้น 2% เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงขึ้น หมวดเคหสถาน เพิ่มขึ้น 2% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา เพิ่มขึ้น 0.7%
   
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อทั้งปี 53 เพิ่มขึ้น 3.3% มาจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 5.4% จากสินค้าหมวดข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่มขึ้น 10.1% ผักและผลไม้ เพิ่มขึ้น 24.1% ส่วนดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 2.1% จากน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 13.9% ส่วนเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 0.18% จากราคาสินค้าอาหารสดบางรายการมีราคาลดลงต่อเนื่อง เช่น ผักและผลไม้ ลดลง 5.96% ดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.36% สินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 3.05%
   
“เงินเฟ้อปีเสือกระทรวงฯคาดการณ์ ไว้ที่ 3-3.5% และเมื่อการแถลงข่าวเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ประเมินไว้ทั้งปีจะอยู่ที่ 3.3% และตอนนี้ออกมาตรงเป๊ะ ไม่มีแทงโต๊ด พาณิชย์แทงหวยเต็ง ถูกตรง ๆ สมมุติ ฐานก็ตรง น้ำมันดิบดูไบคาดไว้ 70-88 ดอล ลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เฉลี่ย 77.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 31-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ย 31.87 บาท  ต่อดอลลาร์สหรัฐ มาตร การลดค่าครองชีพของรัฐบาล คาดว่ารัฐบาล จะต่อ รัฐบาลก็ต่อ”
   
ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศ คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 300 รายการ คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และกลุ่มพลังงานจำนวน 117 รายการ คิดเป็น 24% ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยเงินเฟ้อพื้นฐาน ธ.ค. เท่ากับ 104.21 เทียบกับ พ.ย.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.35% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อนสูงขึ้น 1.4% และเฉลี่ยทั้งปี 2553 สูงขึ้น 1.0% สาเหตุที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ธ.ค. เทียบ พ.ย. สูงขึ้น 0.35% ผลจากราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นและลดลง สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นได้แก่ ค่าเช่าบ้านและสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด ขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ค่าน้ำประปา และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล
   
นายยรรยงกล่าวว่า เงินเฟ้อปี 54 คาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 3.2-3.7% ภายใต้สมมุติฐาน ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 78-88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 28-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และรัฐบาลยังคงมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดว่าจะขยายตัว 3-4.5% ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาด 3-5% สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาด 2.5-3.5%
   
“ที่คาดเงินเฟ้อปีนี้ 3.2-3.7% โดยมีช่วงห่างแค่ 0.5 จุด เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีเสถียรภาพเหมือนเดิม โดยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง ก็คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง ยืนยันว่าเงินเฟ้อทั้งปีน่าจะอยู่ในกรอบนี้”
   
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคาร  แห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 54 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดย ธปท.ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไว้ที่ระดับ 3-5% แต่ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 12 ม.ค.นี้ จะต้องนำปัจจัยเสี่ยงทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าพิจารณาใน  ที่ประชุมด้วยว่าจะปรับประมาณการจีดีพีในปีนี้หรือไม่...



วันพุธ ที่ 05 มกราคม 2554 เวลา 9:00 น


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!