ไปพระนิพพานได้ แต่ไม่ยอมไป..! โดย หลวงพี่เล็ก
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไปพระนิพพานได้ แต่ไม่ยอมไป..! โดย หลวงพี่เล็ก  (อ่าน 2796 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 06:08:40 am »



ไปพระนิพพานได้ แต่ไม่ยอมไป..!

ถาม : ผมรู้จักเด็กคนหนึ่งที่ลพบุรี มีความรู้สึกว่าเขาปฏิบัติได้ดีกว่าผม ไปได้ไกลกว่าผม แต่ว่าทำไมเขายังอยากที่จะเกิดอยู่ ?
ตอบ : กำลังใจมีอยู่ ๒ ประเภท ๆ หนึ่งเรียกว่าพระโพธิสัตว์ อีกประเภทหนึ่งก็คือ สาวกภูมิ

สาวกภูมินั้น ถ้าหากว่าเคยเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านได้ละความปรารถนาแล้ว จะตั้งหน้าตั้งตาทำความดีจนเข้าถึงที่สุดไปเลย

ท่านที่อยากเกิดอีกส่วนใหญ่จะเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านยังมีภาระหน้าที่ที่ท่านจำเป็นต้องทำอยู่ ท่านจึงขอเกิดใหม่ ฉะนั้น..ถึงกำลังใจท่านจะสูงกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไปนิพพานเลย

ถาม : ลักษณะอย่างนี้ก็น่าแปลกใจ คืออยู่ในลักษณะที่ไปนิพพานได้ แต่ไม่ยอมไป ?
ตอบ : คือถ้าไป เขาไปได้ง่ายกว่าเรา แต่ว่าของเขาเองจริง ๆ แล้วส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเมตตามาก ตั้งใจจะสงเคราะห์คนอื่นเขาอย่าง พระกษิติครรภโพธิสัตว์ นั่นคนจีน เรียก ตี่จั๊งผู้สัก

ท่านอธิษฐานไว้ว่า ถ้าตราบใดที่อบายภูมิยังมีดวงจิตเหลืออยู่แม้แต่ดวงเดียว ท่านก็จะยังไม่ยอมเข้านิพพาน ท่านจะสงเคราะห์ก่อน ก็เลยไม่เห็นที่สุดเลยว่าองค์นี้ท่านจะไปนิพพานเมื่อใด เพราะในอบายภูมินี่มันเหลือจะคณานับ

ส่วนใหญ่แล้วท่านประกอบไปด้วยเมตตามากเหลือเกิน ในเมื่อเมตตามากเหลือเกิน เราไม่ต้องไปแปลกใจหรอก สิ่งที่สมควรแท้ ๆ ท่านเองท่านกลับคิดว่าจะเป็นการเอาตัวรอดคนเดียว ท่านคิดแต่จะช่วยคนอื่นให้รอดด้วย

ถาม : แล้วอย่างนี้ ฟังแล้วมีหลายดวงจิตที่คิดอย่างนี้เหมือนกัน ก็เหมือนกับว่าต้องแข่งกัน ?
ตอบ : ลักษณะเป็นอย่างนั้น ถึงได้มีลำดับของการบรรลุ ตรัสรู้ก่อนหลังกัน

แล้วทำไมต้องเป็นพระศรีอริยเมตตรัย ทำไมไม่เป็นองค์อื่น อย่างนี้ก็มีก่อนมีหลังตามลำดับการสร้างบารมีมา

แต่ว่าบางองค์ถึงสร้างก่อนก็ตาม แต่ว่ากำลังใจหย่อนยานไปหน่อย บรรลุทีหลังก็มี

ถาม : แล้วท่านเกิดมาสงเคราะห์คนนี่ อารมณ์ของรัก โลภ โกรธ หลง จะยังมีอยู่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : มีเต็ม ๆ เลย เพราะท่านไม่ใช่พระอริยเจ้า จนกว่าจะชาติสุดท้ายที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น ถึงจะบริสุทธิ์เป็นพระอรหันต์ไป

ถาม : อย่างนี้เรียกว่าพลาดได้เหมือนกันใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่เรียกว่าพลาดได้เหมือนกัน มีโอกาสพลาดได้เกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ...(หัวเราะ)...

แต่ว่าท่านยอมเสี่ยงเพื่อความสุขของชนหมู่มาก เพื่อความสุขของส่วนรวมแล้ว ท่านเห็นแล้วว่าคุ้มค่า ท่านก็เสี่ยงตัวเอง จะลำบากแค่ไหนไม่ว่า ถ้าส่วนรวมมีความสุข

ถาม : แล้วคนที่ท่านสงเคราะห์นั้นส่วนใหญ่แล้วจะต้องเคยมี ....?
ตอบ :เคยอธิษฐานตามกันมา เคยต้องการจะเป็นบริวารท่านมา


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔

ที่มา: http://board.palungjit.com


บันทึกการเข้า

b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 09:18:36 am »

ตอบอย่างนี้เรียกว่ารู้จากตำราเรียน ยังห่างธรรมของพระพุทธเจ้าอีกไกลนัก เมตตาไม่ใช่เครื่อง
เหนี่ยวรั้งจิต มีแต่จะส่งเสริมให้เห็นทุกข์ ทำให้ตาสว่าง ปัญญาเกิด มุ่งสู่นิพพานได้ ไฉนจึง
มองไม่เห็น น่าเวทนายิ่งนัก(แต่อยากหลุดพ้นก็ต้องไม่ใส่ใจ เห็นก็สักแต่เห็น รู้ก็สักแต่รู้ จึงจะเข้า
ถึงแก่นแท้) แค่นี้และไม่ได้เป็นพระ ยังวลเวียนเหมือนกันแต่มองเห็น Cheesy
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: