http://www.youtube.com/v/gJhwPWsPqmk?fs=1&hl=en&fs=1&autoplay=1&loop=1=0xcc2550&color2=0xe87a9f&border=1เพลง รักที่เลือกไม่ได้
ศิลปิน ศรีไศล สุชาติวุฒิ
รหัสเพลง 03603
รักที่เลือกไม่ได้
ศรีไศล สุชาติวุฒิ
..ฉันเกิดมาแล้วก็เหมือนกับคน ทั้งหล้า
มีปรารถนา และมีหัวใจ
...ฉันก็เหมือนหญิง ทั่วไป
หมายมอบกายและดวงใจ ให้คนที่ฉัน ใฝ่ปอง
...ฉันไม่ได้รักผู้ชายคนนี้ สักหน่อย
แม้แต่สักน้อย ไม่เคยเหลียวมอง
...ฉันต้องให้เขาเคียงครอง
ทั้งที่ไม่รักไม่ปอง
เหมือนอยู่กรงทอง แต่นองน้ำตา
โอ้ รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสน ทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธา..มิได้ ดังใจ
...หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
...เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรักไปได้
แม้ชีพสลาย จะรักแต่เธอ
โอ้ รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสน ทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธา มิได้ ดังใจ
...หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
...เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรัก ไปได้
แม้ชีพสลาย จะรัก แต่เธอ
...................
...................
................
ศรีไศล สุชาตวุฒิ หรือ หม่อมศรีไศล วรานนท์ สุชาตวุฒิ นักร้องเพลงลูกกรุง มีผลงานที่เพลงที่มีชื่อเสียงคือ เพลง รักข้ามขอบฟ้า, เก็บรัก, คิดจะปลูกต้นรักอีกกอ, ชั่วฟ้าดินสลาย, จงรัก สมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช
ศรีไศล สุชาตวุฒิ วรานนท์ เคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง เพลงรักเพื่อเธอ (2520) นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี และพิศมัย วิไลศักดิ์
หม่อม ศรีไศล สุชาตวุฒิ วรานนท์ เป็นธิดาคนที่ 8 ในจำนวน 10 คน ของนายสรร และนางถมยา สุชาตวุฒิ มีพี่น้องดังนี้
สมถวิล สุชาตวุฒิ โมรานนท์ สมรสกับ นาย ชำนะ โมรานนท์(เสียชีวิต)
สุชาดา สุชาตวุฒิ นวมรัตน์ สมรสกับ พันเอกพิเศษ วุฒิ นวมรัตน์
พันตำรวจเอก สุรีย์ สุชาตวุฒิ (เสียชีวิต)สมรสกับ นางพาณี สุชาตวุฒิ
พันโท วิสุต สุชาตวุฒิ (เสียชีวิต)สมรสกับ นางชวรัตน์ สุชาตวุฒิ
แพทย์หญิง สมนา สุชาตวุฒิ เอื้อไพบูลย์ (เสียชีวิต)สมรสกับ พลเรือโท นายแพทย์ อรุณ เอื้อไพบูลย์
สุภัทรา สุชาตวุฒิ แอนดรู สมรสกับ นาย จิม แอนดรู
พาสนา สุชาตวุฒิ ชมสาคร สมรสกับ พันตำรวจเอกพิเศษ มนตรี ชมสาคร
ศรีไศล สุชาตวุฒิ วรานนท์ สมรสกับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช (ถึงชีพิตักษัย)
สกล สุชาตวุฒิ
ศุลิน สุชาตวุฒิ
เข้าโรงเรียนศรีอยุธยา พญาไท จนจบ ขณะที่เป็นนักเรียนมัธยมได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดร้องเพลงในงานกาชาด ที่สวนอัมพรและได้รับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพลงที่ร้องชื่อเพลง “ดอกไม้” ประพันธ์โดย ท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์ (หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์)
ปีต่อมาได้รับรางวัลที่หนึ่งจากการประกวดเย็บปักถักร้อยในงาน “ศิลปหัตถกรรมนักเรียน” ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และด้วยความที่รักศิลปะ หลังจากจบการศึกษาในระดับมัธยม ศรีไศล จึงเลือกเรียนสาขาวิชาชีพไม่เลือกเข้ามหาวิทยาลัยเช่นพี่ๆ เข้าเรียนออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าจาก “สปัน” และได้รับการสอนโดยตรงจากคุณสปัน ภายหลังเมื่อจบจึงได้เริ่มทำงานกับ “สปัน” และต่อมาคุณสปันได้เปิดโรงเรียนสอนตัดเสื้อ
คุณสปันเป็นผู้ชักนำเข้าร่วมร้องเพลงในรายการ “ชรินทร์โชว์” ที่ออกอากาศทุกๆเดือนทางโทรทัศน์ช่องบางขุนพรม (ในเวลานั้น) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ศรีไศล สุชาตวุฒิ
ต่อมาได้ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นที่ “โซเอน โตเกียว” และกลับมาเปิดร้านของตัวเอง งานออกแบบที่ถนัดคือชุดวิวาห์และชุดราตรี มีเหล่านักร้อง,นักแสดงชื่อดังที่ชื่นชอบในฝีมือเป็นจำนวนมากเป็นลูกค้าประจำเช่น สวลี ผกาพันธ์ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี รวงทอง ทองลั่นทม จินตนา สุขสถิต รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ลินจง บุญนากริน ตลอดถึงคนในและนอกวงการอีกมากมายหลายท่าน ได้ทำเสื้อประกอบภาพยนตร์ให้คุณดอกดิน กัญญามาลย์ และอัศวินภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง
10 ปีที่แต่งงานและการใช้ชีวิตคู่ของ ศรีไศล กับ คุณไพบูลย์ ลีสุวัฒน์ ต้องจบลงเมื่อตกลงแยกทางกันโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า2-3ปีหลังจากนั้นชีวิตของ ศรีไศล ได้พลิกผลันอย่างไม่น่าเชื่อ
ศรีไศล ได้ก้าวขึ้นเป็นนักร้องชั้นแนวหน้าอันดับ TOP TEN ในยุคนั้นโดยร้องเพลงประจำใน “คอกเทลเลาจน์” ซึ่งในสมัยนั้นเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมและเป็นสถานที่ที่เหล่าบรรดาสุภาพชนนิยมมานั่งฟังเพลง
อาจจะเป็นเพราะลีลาการร้องและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอทำให้เธอได้รับความสนใจจากแฟนๆและจากเจ้าของสถานที่ เธอตระเวนร้องเพลงถึง 3-4แห่งในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่งหกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน แห่งละ1ชั่วโมง
ศรีไศล เคยร้องอยู่โรงแรมแอมบาสเดอร์, ปี๊ปอินน์ , โรงแรมอมพีเรียล, ทิพย์ คอกเทลเลาจน์ สยามสแควร์, โซโห เพลินจิต, มาร์โคโปโล ทองหล่อ, The Green House ทองหล่อ, Your Place สุขุมวิท33, สีทันดร ลาดพร้าว และ โรงแรมแมนดาริน
ศรีไศล เข้าสู่วงการภาพยนตร์โดย คุณเริงศิริ ลิมอักษร ในผลงานเรื่อง “เพลงรักเพื่อเธอ” ร่วมกับ คุณพิศมัย วิลัยศักดิ์ และ คุณสรพงษ์ ชาตรี และผลงานเรื่อง “หนามหยอกอก” ร่วมกับคุณวิฑูรย์ กรุณา ของ คุณเป๋ โปสเตอร์ และ “แก้ว” ร่วมกับคุณทูน หิรัญทรัพย์ และ คุณลินดา ค้าธัญเจริญของ คุณเปี๊ยก โปสเตอร์
ด้านผลงานโทรทัศน์ ผู้ช้กชวนคือ คุณภัทราวดี (ศรีไตรรัตน์) มีชูธน เรื่อง“ความรัก” และ “ประชาชนชาวแฟลต” และมีเรื่องอื่นๆต่อมาอีกหลายเรื่อง เพราะงานการแสดงและร้องเพลงที่มากขึ้นทำให้เธอต้องหยุดกิจการเสื้อผ้าโดยสิ้นเชิง ได้รับคำชมจากคอลัมล์ “ลัดดาซุบซิบ”ว่าเป็นนักร้องหญิงที่แต่งตัวดีที่สุดในจำนวน2-3คนในสมัยนั้น ได้รับคำวิจารณ์จากท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์ ในการให้สัมภาษณ์ของท่านในนิติยสารฉบับหนึ่งว่า “ครั้งแรกๆที่ฟังเพลงของ ศรีไศล ยังไม่ค่อยชอบเพราะเธอร้องไม่ลงกับจังหวะห้องของดนตรี (คือ ล้อกับดนตรี ไปก่อนบ้าง ตามหลังบ้าง) ” ท่านวิจารณ์ต่อว่า “แต่ฟังไปแล้วชักชอบ เพราะเป็น “สไตล” ของเขาเอง, (คือสุดท้ายก็ลงได้พร้อมดนตรี)
เคยมีคนถาม ศรีไศล ว่าไปเรียนร้องเพลงแบบนี้มาจากไหน เธอตอบว่า “ไม่เคยได้เรียนร้องเพลงเลย ฝึกมาด้วยตัวเอง อาศัยชอบฟังเพลงฝรั่งมาแต่เด็กๆเพราะมีพี่ชายคนโตไปเรียนที่ประเทศอังกฤษและกลับมาพร้อมกับแผ่นเสียงเพลงดีของ Frank Sinatra, Ella Fitzgerald, Nancy Wilson, Diane Schuur และอีกมากมาย เธอเริ่มรู้จักเพลง Jazz ตั้งแต่อายุ 13 – 14 ปี ตอนเด็กๆชอบอาษารีดผ้าให้คุณพ่อและคุณแม่เพราะจะได้เปิดเพลงฟังโดยไม่ต้องโดนเรียกไปทำอย่างอื่น
นักร้องไทยที่ชื่นชอบมี คุณสวลี ผกาพันธ์, คุณพูลศรี เจริญพงค์, คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี, คุณชรินทร์ นันทนาคร, คุณสุเทพ วงศ์กำแหง, คุณพิทยา บุญรัตนพันธ์ และอีกหลายท่าน
ในปี 2524 ศรีไศล สุชาตวุฒิ เงีบยหายไปจากวงการอย่างฉับพลันแบบที่แฟนเพลงของเธอพากันงงงัน เธออพยพไป รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพราะเหตุผลทางครอบครัว
ในปี 2527 ศรีไศล ได้สมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และใช้ชีวืตอยู่อ่างสงบที่เมือง Calabasas ทางเหนือของแอลเอ ในระหว่างที่เธอใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขดูแลครอบครัวที่รัก บุตร ธิดา ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียน และเดินทางไปมาระหว่างแคลิฟอร์เนียและลอนดอนเพราะบุตรชายคนเล็กเรียนอยู่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ
ปี 2533 เป็นปีแห่งการสูญเสีย “ท่านพระองค์ชาย” สิ้นชีพพิตักษัย ชีวิตของ ศรีไศล ดำเนินต่อไปกับลูกๆทั้ง 3 พิบูลศรี มัสโท นงนภา แอนเดอร์สัน และสัจจพร ลีสุวัฒน์ และหลานๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลานยาย 3คน ศันสนีย์ (โดมินิค),อินทรีย์ (มาติน) มัสโท และ วสุ (คิลเลี่ยน) แอนเดอร์สัน อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
เพลงที่เป็นผลงานยอดนิยมเช่น เก็บรัก, รักข้ามขอบฟ้า, รักไม่รู้ดับ, รักริษยา, จงรัก, ชั่วฟ้าดินสลาย, รักที่เลือกไม่ได้, เสน่หา, ลมหวล, ลองรัก, รักและคิดถึง, คืนเหงา, ความรักครั้งสุดท้าย, พิษรัก, หยาดเพชร และอีกมากมาย ฟังเพลงได้ทุกประเภทแล้วแต่อารมณ์และสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Chateau ชนบทในแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศสกับ Partner ชาวอังกฤษ และกลับบ้านที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในบางครั้ง
กิกรรมประจำวัน ตื่นเช้า (สาย) เพราะนอนดึก สวดมนต์ ทานอาหารดูโทรทัศน์ปลูกต้นไม้ ชอบกุหลาบและกล้วยไม้เป็นพิเศษ ชอบเลี้ยงสุนัข ตัวสุดท้ายชื่อ Benjamin เพิ่งตายไปได้ 7 เดือน ยังไม่หายคิดถึงและไม่คิดที่จะมีสุนัขอีก
เวลาว่างชอบลองทำอาหารแปลกๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อน ชอบวาดรูป (ยังไม่ได้ดีซักที) ชอบทำงานฝีมือต่างๆอย่างแต่งบ้าน เอาเฟอนิเจอร์เก่าๆมาทำใหม่ และชอบฟังเพลง เคยชอบเรียนภาษาแต่ตอนนี่ความจำไม่ช่วยเลยไม่คิดจะเรียนอีกเพราะเกิดปีวอกเลยเป็นคนว่องไว ไม่อยู่เฉยว่างเมื่อไหร่ท่องเที่ยวเมื่อนั้นทั้งๆที่ตามปกติต้องเดินทางไปดูแลบ้านทั้งประเทศไทย อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส
กลางคืนชอบแช่น้ำร้อนใส่ของหอมๆแล้วอ่านหนังสือ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด เหมือนตอนเด็กๆที่ขอรีดเสื้อผ้าให้คุณพ่อกับคุณแม่เพื่อจะได้ฟังเพลงโดยไม่มีคนมากวน ก่อนนอนสวดมนต์ ทำวัดเย็น สวดพระคาถาชินบัญชรเสร็จแล้วนั่งวิปัสนาทุกคืน
ความรัก มีมาก รักคุณพ่อ คุณแม่ คิดถึงท่านทีไรก็เกิดความรู้ถึงพระคุณ รู้ถึงความรักที่ท่านมีให้เรา แล้วใช้ความรู้สึกนี้ให้ลูกๆและหลานๆ รักพี่รักน้อง รักสัตว์ และที่สำคัญ ไม่ลืมทีจะรักตัวเอง