รู้จักน้ำอัดลมดีแล้วหรือ?
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 08:54:41 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักน้ำอัดลมดีแล้วหรือ?  (อ่าน 1614 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 08, 2009, 07:10:20 pm »

รู้จักน้ำอัดลมดีแล้วหรือ?
ไม่มีประโยชน์-แพงกว่าน้ำเปล่า 2-3 เท่า

"น้ำอัดลม" เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมประเภทหนึ่งที่นิยมกันทั่วโลกและมักเชื่อกันว่าดับกระหายได้ดีกว่าน้ำเปล่า ทั้งที่ความจริงแล้วหาคุณค่าทางโภชนาการแทบไม่ได้เลย แถมราคายังแพงกว่าน้ำเปล่า 2-3 เท่า แต่หลายคนก็ไม่วายยอมควักกระเป๋าซื้อมาดื่ม บางคนอาจถึงขั้นติดรสชาติน้ำอัดลมจนดื่มได้ทุกมื้อ ทุกวัน

         

น้ำที่เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำอัดลมนั้น ส่วนใหญ่จะผลิตจากน้ำบาดาลที่ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน จากนั้นจึงเติมส่วนประกอบอีก 2 อย่างลงไป คือ สารให้รสหวาน ซึ่งก็คือ น้ำตาลทราย (ซูโครส) นั่นเอง ในอดีตการผลิตน้ำอัดลมชนิดธรรมดาซึ่งไม่ใช่ชนิดจำกัดแคลอรี่ จะใช้น้ำตาลทรายเพียงอย่างเดียว นำมาผสมน้ำ แล้วต้มทำเป็นน้ำเชื่อมและกรอง แต่ในปัจจุบันมีการใช้สารให้ความหวานชนิดอื่นเพิ่มมาเช่น น้ำเชื่อมข้าวโพด Corn syrup) หรือ น้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุคโตสสูง (High fructose corn syrup-HFCS) เพื่อผลิตน้ำอัดลมแคลอรี่ต่ำ

          นอกจากนี้ น้ำอัดลมยังมีส่วนประกอบเป็นสารปรุงแต่งที่เรียกกันว่า หัวน้ำเชื้อ ซึ่งจะเป็นส่วนผสมของสารที่ให้กลิ่นและสีผสมกับกรดบางชนิดที่ใช้ในอาหาร เช่น กรดมะนาว โดยจะใช้หัวน้ำเชื้อผสมกับน้ำเชื่อม จากนั้นทำให้ส่วนผสมทั้งหมดเย็นลง หลังจากนั้นเติมส่วนประกอบสำคัญสุดท้าย คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวทำให้น้ำอัดลมเกิดฟองซ่า โดยจะนำมาอัดลงในน้ำหวานที่ผสมตามส่วนประกอบข้างต้น

          น้ำอัดลมบรรจุขวดหรือกระป๋องที่มีจำหน่ายกันทั่วไปนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน ตามลักษณะเฉพาะของกลิ่นรสและสีของผลิตภัณฑ์ คือ น้ำอัดลมรสโคล่า ซึ่งน้ำอัดลมประเภทนี้มีการปรุงแต่งด้วยหัวน้ำเชื้อโคล่าซึ่งมี "คาเฟอีน" ที่สกัดจากส่วนใบของต้นโคคาอยู่ด้วย ปริมาณของคาเฟอีนในน้ำอัดลมชนิดโคล่าแต่ละยี่ห้องก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่สูตรเฉพาะของแต่ละบริษัท สำหรับสีน้ำตาลเข้มที่มาขอสีน้ำดำนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมาจากสีผสมอาหารที่เป็นสีของน้ำตาลเคี่ยวไหม้

          ส่วนอีกประเภท คือ น้ำอัดลมสีขาวใสที่ปรุงแต่งด้วยหัวน้ำเชื้อเลมอน-ไลม์ ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่ปรุงแต่กลิ่นและรสเลียนแบบน้ำผลไม้ เช่น ส้ม องุ่น มะนาว ลิ้นจี่ น้ำหวานอัดลม พวกน้ำเขียว น้ำแดง และน้ำอัดลมที่มีเหมือนโคล่า แต่ไม่ใช่รูทเบียร์ เป็นต้น น้ำอัดลมเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีคาเฟอีน แต่ก็อาจมีการเติมคาเฟอีนสกัดเล็กน้อยในส่วนผสม เพื่อให้ได้ฤทธิ์กระตุ้นของคาเฟอีนทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเมื่อดื่มตามแต่สูตรของผู้ผลิตซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศด้วย

          สารอาหารที่มีอยู่ในน้ำอัดลมนั้นมีเพียง “น้ำตาล” เท่านั้นที่ร่างกายจะสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ โดยไม่มีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีก ดังนั้น ถ้าดื่มน้ำอัดลมมากและรับประทานอาหารอื่นน้อยก็อาจขาดสมดุลทางโภชนาการ ที่สำคัญคือในเด็กเล็กๆ ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะถ้าปล่อยให้ดื่มแต่น้ำอัดลมไม่ได้ดูแลให้รับประทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ เด็กอาจขาดสารอาหาร บางครั้งถ้าดื่มก่อนหรือในระหว่างรับประทานอาหารมื้อหลัก บางครั้งถ้าดื่มก่อนหรือในระหว่างรับประทานอาหารมื้อหลัก ก็ทำให้อิ่มและทานอาหารได้น้อยลง

          นอกจากนี้ น้ำอัดลมยังอาจทำให้ท้องอืดเพราะเกิดก๊าซในกระเพาะอาหาร และภาวะที่เป็นกรดของน้ำอัดลมก็ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารด้วย ข้อเสียอีกประการหนึ่งเนื่องจากน้ำอัดลมมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก และมีสภาวะเป็นกรดด้วยจึงอาจเป็นสาเหตุให้ฟันผุได้ง่าย

          ทางที่ดี หากเกิดอาการกระหายน้ำซึ่งมีสาเหตุจากการขาดน้ำที่ร่างกายสำรองไว้สำหรับการทำงานของระบบต่างๆ ของอวัยวะภายใน "น้ำเปล่า" จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเมื่อกระหาย

          แม้จะไม่สดชื่นถึงใจในเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวรับรองว่าน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องเรียกหาไม่แพ้อาหาร ดังนั้น หากจะดื่มน้ำอัดลมควรดื่มแค่เพียงครั้งคราว อย่าติดสี ติดกลิ่น ติดรสซ่าและอย่าละเลยน้ำเปล่า...ที่เป็นน้ำเลี้ยงสำคัญของชีวิต

ขอขอบคุณวิชาการดอดคอม


บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!