บุญน้อย บุญมาก
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุญน้อย บุญมาก  (อ่าน 6401 ครั้ง)
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2009, 12:18:56 pm »

สงสัยครับ

ที่ว่า  ทำอย่างนี้ ได้บุญมากกว่าทำอย่างนั้น

สงสัยว่า บุญมีหน่วยวัดปริมาณด้วยหรือถึงเอามาเทียบกันได้ว่ามากกว่า น้อยกว่า


บันทึกการเข้า

พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2009, 12:32:44 pm »

ตามตำราเขาว่ามา
ผมเชื่อผมเลยเอามาให้อ่าน

คุณไม่เชื่อคุณมีสิทธถาม แต่คนตอบไม่ใช่ผม คงต้องไปถามท่านที่เขียน
บันทึกการเข้า

Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2009, 09:43:54 pm »

ใช่ว่าบุญมากหรือน้อย......
บุญที่ทำให้ผลแตกต่างกันไป..........ไม่ว่าจะมากหรือน้อย
ขึ้นอยู่กับอานิสงฆ์ของผลบุญ....เช่น

 ถวายยารักษาโรคให้วัด   , ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์   
อานิสงส์   --- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว   โรคที่ไม่หายจะทุเลา   
              สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า   
              ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา   

 ทำบุญตักบาตรทุกเช้า   
อานิสงส์   --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร   
                ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน   ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์   

 ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน   
อานิสงส์   --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง   ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาถยศ   
              สรรเสริญ ปัญญา   และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้   
              ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน   

 สร้างพระถวายวัด   
อานิสงส์    --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง   
                สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง   แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข   
                ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป   

 แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป   
อานิสงส์    --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่   
                ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร   
                สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป   ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา   
                จิตเป็นกุศล   

 บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์   --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ   
                ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา   
                ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า   ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง   

 ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ   
อานิสงส์   --- ช่วยต่ออายุ   ขจัดอุปสรรคในชีวิต   
              ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น   
              หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด   ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส เป็นอิสระ   

 ให้ทุนการศึกษา, บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ, อาสาสอนหนังสือ   
อานิสงส์   --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา   
              ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้   สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

 ให้เงินขอทาน, ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)   
อานิสงส์   --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า   ไม่ตกทุกข์ได้ยาก   
              เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน   ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง   
              จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน   

รักษาศีล 5 หรือศีล  8
อานิสงส์   --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก   
              ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง   
               กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม   ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา   



อานิสงฆ์มากที่สุด คือ การสร้างบุญบารมี ( ทาน, ศีล, ภาวนา )
    
บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 06:11:55 am »


สงสัยว่า บุญมีหน่วยวัดปริมาณด้วยหรือถึงเอามาเทียบกันได้ว่ามากกว่า น้อยกว่า

ด้วยปัญญาที่มีอยู่ ของผมขอตอบหน่อย

บุญ นั้น ไม่มีหน่วยวัด  หากแต่มักใช้การประมาณเอา เช่น


   น้ำในบ่อ  ย่อมน้อยกว่าน้ำในบึงอันกว้าง

   น้ำในบึงอันกว้าง  ย่อมน้อยกว่าน้ำในทะเลสาบ

   น้ำในทะเลสาบ   ย่อมน้อยกว่าน้ำในมหาสมุทร  เปรียบเปรยอย่างนั้น


ส่วนที่ มีสมาชิกตอบเสริมว่า " อานิสงฆ์มากที่สุด คือ การสร้างบุญบารมี (ทาน,ศีล,ภาวนา) "
อันนี้ยังไม่ตรงนัก

   ทาน เป็น การละ  สละ ไม่ยึดเอา ไม่ถือเอา ถือทานนั้นเป็นประโยชน์  แต่ยังไม่ใช่แก่น (ดั่งในทศชาติชาดก  อันนี้ยาวไม่ขอกล่าว)
   
   ศีล  เป็น  เครื่องกั้น เครื่องเกลา ให้กาย วาจา ใจ  ศีลมีหลายระดับ   

   ภาวนา อันนี้ว่าเป็นแก่น แกน เป็นบุญสูงสุด มี ๒ อย่าง คือ ๑ สมถภาวนา ๒ วิปัสนาภาวนา 
ลองหาอ่านในวิธีสร้างบุญบารมี โดย สมเด็จพระสังฆราช


เคยเห็นใน TV59 เคยเอามาลง แต่ตอนนี้หายไปแล้ว 
     
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 06:34:01 am »


 Lips Sealed  Lips Sealed  Lips Sealed    
 HAPPY2!!  HAPPY2!!  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 07:44:25 am »

เวปนี้ก็มีครับ ลงไว้นานแล้ว  http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=41172.0

ส่วนที่ TV59 ลงแล้วก็เอาออกเพราะถูกเวปโป้รบกวน กำลังหาทางแก้อยู่  คือว่าพอเปิดห้องนั้นขึ้นมา เหมือนไปเปิดประตูหลังบ้านไว้ให้มันเข้ามาโฟสรูปโป้ ผมต้องมานั่งลบทุกวัน และดูไปดูมา 2สิ่งนี้ไม่เข้ากัน เลยเอาออกครับ ไว้แก้ได้แล้วก็จะลงใหม่ครับ
บันทึกการเข้า

deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 07:56:29 pm »

ผมสงสัยครับ  จึงมาถาม  ที่มาถาม ณ ที่นี้  ด้วยหวังว่า  อาจจะมีผู้ใดไขข้อสงสัยผมได้
หากว่าต้องไปถามเฉพาะท่านผู้เขียนข้อความนั้นแล้วจึงจะได้คำตอบละก็   
ถ้าไม่มีโอกาสได้พบท่านผู้นั้น  ผมก็จะมิได้คำตอบที่ผมสงสัยอย่างแน่นอน
หรือถ้ามีโอกาสได้พบและถามท่านผู้เขียนข้อความนั้นแล้ว
หากท่านแจ้งต่อผมว่า พระศาสดาบอกมา ต้องไปถามพระศาสดา 
ย่อมแปลว่า ผมไม่มีโอกาสได้รับคำตอบที่ผมสงสัยอย่างแน่นอน

ส่วนที่ท่าน e21fnw ได้กรุณาไขความสงสัยแก่ผม ผมพิจารณาแล้ว คิดว่า
ตัวอย่างที่ยกมาคือน้ำ ซึ่งเป็นรูปธรรม  มองเห็นได้ มีรูป มีตัวตนจริง
นั้นสามารถวัดปริมาณเปรียบเทียบกันได้จริง
ทำให้สามารถ ประมาณเอาได้ ดังที่ว่า  น้ำในบึง มีมากว่าน้ำในบ่อ

แต่หากสิ่งที่เป็นนามธรรมแล้ว  ไม่มีตัวตน ไม่มีรูปให้มองเห็นได้
แล้วจะวัดปริมาณได้อย่างไร
นามธรรมนั้นมีปริมาณหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบครับ

แต่ที่ผมได้พิจารณาสิ่งที่ทุกท่านได้ยกตัวอย่างมาให้แล้ว
เพียงแต่ได้ข้อสรุปของตนเองว่า
เมื่อเราทำความดีแล้ว จะได้ประโยชน์แก่ตนเอง หรือ และผู้อื่นตามผลของการกระทำนั้น
ผลอีกอย่างอาจเป็นความพึงพอใจ ความเป็นสุขในใจของเราเอง
แต่ถ้าหากผมกระทำสิ่งไม่ดีขึ้นมาแล้ว ย่อมจะทำให้เกิดโทษแก่ตัวผมเอง หรือ และผู้อื่นตามผลของการกระทำนั้น
รังแต่จะทำความเดือดร้อนไปเท่านั้น
จึงควรทำความดี เพราะผลของการทำความดี
อย่างน้อยที่สุดก็เสมอตัว จะไม่เกิดโทษขึ้นมาต่อใครๆ

ส่วนจะได้บุญมากหรือน้อย  เป็นสิ่งตอบแทนมา หรือสะสมไว้นั้น ผมขอไม่ถือเป็นสาระที่ผมจะทำความดีครับ



บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 08:35:37 pm »

   ผมเชื่อ วัดได้ แต่ผมพาคุณไปดูไม่ได้ ผมจึงไม่รู้จะตอบคุณอย่างไร 

ผู้ที่เก่งแล้ว มองเห็นบุญได้ แต่ผมยังมองไม่เห็น หรือต่อให้ผมเห็นผมก็ไม่รู้จะเอามาให้คุณดูอย่างไร 

***ผู้ที่มองเห็นบุญ คือพวกผีทั้งหลาย แต่เราก็คุยกับเขาไม่ได้  เมื่อหลายปีก่อน มีผีตนหนึ่งเขามาอยู่ในร่างคน และได้คุณกับคนได้ แต่คนที่เขาคุยด้วยก็ได้ส่งผีตนนั้นกลับบ้านไปแล้ว เลยอดถามเลย 

http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=56086.0

ลองดูนะ หรือจะไปถามเขาดูก็ได้นะ 

จริงๆและในรายการตีสิบ ได้เอาเรื่องแบบนี้มาออกหลายครั้งมาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ยอมตั้งเจ้าที่ เจ้าที่เลยดึงขาเขาตรงจากชั้น บน (ชั้นลอย) ลงมาที่ชั้น 1 และเขาก็ได้ไปนรกและก็ได้กลับมาอีกครั้ง ด้วยผลบุญที่ได้สร้างไว้  เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องบอกได้ว่าตัวบุญมีจริง เมื่อมีก็ต้องมีหน่วยวัดได้ ว่าบุญมากหรือน้อย เป็นต้น

ก็อย่างที่บอก ผมเชื่อของผมแบบนี้ คุณไม่เชื่อผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้คุณเห็นเชื่อ

http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=55460.0

หรือถามคนนี้ก็ได้นะ เพราะคนนี้เขาพูดชัดเจนว่าเขามีบุญมาก เมื่อมีบุญมากก็ต้องมีบูญน้อย เมื่อมีบุญมากและะบูญน้อย ก็ต้องมีหน่วยวัดใช่เปล่า?
บันทึกการเข้า

supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2009, 12:00:55 am »

1. บุญ  คือ เครื่องชำระสันดาน,ความดี, กุศล, ความสุข, ความประพฤติชอบทางกาย วาจาและใจ, กุศลธรรม
2. บุญกิริยาวัตถุ สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ, เรื่องที่จัดเป็นการทำบุญ, ทางทำความดี,
        หมวด ๓ คือ
       ๑. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ ปัน
       ๒. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลและประพฤติดี
       ๓. ภาวนามัยทำบุญด้วยการเจริญภาวนา  คือการฝึกอบรมจิตใจ
            หมวด ๑๐ คือ
       ๑. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ ปัน
       ๒. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
       ๓. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา  คือฝึกอบรมจิตใจ
       ๔. อปจายนมัย ด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
       ๕. เวยยาวัจจมัย ด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
       ๖. ปัตติทานมัย ด้วยการเฉลี่ยส่วนความดีให้ผู้อื่น
       ๗. ปัตตานุโมทนามัยด้วยความยินดีความดีของผู้อื่น
       ๘. ธัมมัสสวนมัย ด้วยการฟังธรรม
       ๙. ธัมมเทสนามัย ด้วยการสั่งสอนธรรม
       ๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ ด้วยการทำความเห็นให้ตรง
หมายเหตุ :-
1.  ภาวนา  หมายถึง  การทำให้มีขึ้นเป็นขึ้น,การทำให้เกิดขึ้น, การเจริญ, การบำเพ็ญ  ไม่ใช่  การท่องบ่น  หรือการอ้อนวอน
2.  ดูเพิ่มเติมและประกอบ  ได้ที่
       2.1  http://dharma.school.net.th/cgi-bin/dict.pl?word=%BA%D8%AD
    2.2  ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก -> http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html
    2.3  ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ  ->  http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
    2.4  http://www.84000.org/tipitaka

บุญคืออะไร
สนฺตานํ ปุนาติ วิโส เธ ตีติ ปุญญํ   สิ่งที่ชำระสันดานให้บริสุทธิ์สะอาดชื่อว่าบุญ
ภาษิตเกี่ยวกับบุญอื่นๆ
สุโขปุญฺญสฺส  อุจฺจโย                    การสั่งสมบุญนำสุขมาให้ 
กร  ปุญฺญมโหรตฺตํ                        จงทำบุญตลอดวันตลอดคืน

ความเห็นส่วนตัว ดังนี้

บุญ***เป็นนามธรรม***มีในคำสั่งสอนทุกศาสนา
ผลบูญ***เป็นรูปธรรม  สามารถวัดได้ด้วยปัญญาของผู้ศึกษาศาสนาด้วย ศรัทธาที่คงมั่น
ผลบุญ***ไม่สามารถวัดได้ด้วยปัญญาของผู้ไม่ศรัทธา หรือศรัทธาคลอนแคลน
การวัดบุญ***ไม่สามารถวัดได้ด้วยเครื่องวัดใดๆ
การวัดปริมาณบุญ***วัดด้วยศรัทธาและปัญญาของผู้กระทำ**บุญเอง**จึงรู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น
เช่น**ความสุข**และความทุกข์**
หากเปรียบบุญ เป็นความ **สุข** ถามต่อไปว่า เอาอะไรมาวัดความสุข ละ....สุขน้อย  สุขมาก  คือ อะไร เท่าไหร   คนที่รู้ว่าตัวเองสุข วัดได้ก็ตัวเองเท่านั้นที่รู้
ในทางตรงกันข้าม หากเปรียบ **บาป**เป็นความ**ทุกข์** เอาอะไรมาวัด....ทุกขฺ์มาก ทุกข์น้อย***
พุทธศาสนา***สอนให้กระทำความดี ละชั่ว และ ทำใจให้ผ่องใส***
ไม่ได้สอนการวัดการกระทำความดี วัดใครเลว และ วัดใครนั่งสมาธิภาวนานานมากน้อย
แต่สอนให้ วัด ใจตัวเอง  ดูตัวเอง ล้วนๆ แล้วเอาตัวเอง สอนตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง  ให้ดี ให้ประเสริฐ ก่อนไป บอกคนอื่นหรือสอนคนอื่น
นี้คือ คำว่า **บุญ**ตามหลักทางศาสนาพุทธ
แต่หากมองอีกแง่หนึ่งซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรม ของการวัดบุญ  ระดับบูญทางผู้ชำระกิเลสมากน้อย จะมีตำแหน่งจำแนก เช่น
ปุถุชนธรรมดา ยาจก เศรษฐี มหาเศรษฐี ชนชั้นต่ำ กลาง สูง  .....ปริมาณ วัดกันพอได้
พระสงฆ์ธรรมดา พระสัคกคามี พระโสดาบัน พระอรหันต์.....ใช้บุญวัดได้ ด้วยตัวท่านเอง และผู้รู้แจ้งอย่างพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่วัดกำหนดได้
เราๆท่านๆ....อย่าไปค้นหาเครื่องวัด***บุญ**เลย  หาทั้งชาติก็ไม่เจอ  หากยังไม่รู้ใจตัวเองว่าสุขหรือทุกข์มากน้อยเท่าใด
บันทึกการเข้า
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2009, 12:05:52 am »

แต่หากสิ่งที่เป็นนามธรรมแล้ว  ไม่มีตัวตน ไม่มีรูปให้มองเห็นได้
แล้วจะวัดปริมาณได้อย่างไร
นามธรรมนั้นมีปริมาณหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบครับ

บัดนี้ ผมได้คิดไปอีกอย่าง เป็นการเปรียบเทียบในปริมาณนามธรรม ดังนี้ครับ

ผมชอบรับประทานสับปะรดหวานๆ มากกว่า รับประทานมะขามเปรี้ยวดิบๆ

ความชอบ ความพึงพอใจ เป็นความรู้สึก เป็นนามธรรม แต่เรารู้สึกว่ามาก-น้อยได้

ด้วยเหตนี้  บุญซึ่งเป็นนามธรรม ก็ควรจะมีมาก-น้อยได้  

เหตุผลนี้  ชอบแล้วหรือไม่ สมควรแล้วหรือไม่  ถูกต้องแล้วหรือไม่


และ ความชอบแล้ว ถูกต้องแล้ว ในสิ่งต่างๆนั้น  เป็นจริงหรือไม่  ได้อย่างไร  สิ่งใดจะเป้นตัวตัดสิน

โอยยิ่งคิดยิ่งงงครับ  
บันทึกการเข้า
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2009, 12:32:01 am »

ขออภัยอย่างยิ่ง ที่ตอบแสดงความคิดเห้นขอผมก่อนนี้โดยไม่อ่านความคิดเห็นของท่าน supoj007  ทั้งที่ระบบได้เตือนแล้ว

เมื่อพิจารณาตามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน supoj007  แล้ว ผมรู้สึกเห็นชอบด้วยครับ

ขอขอบพระคุณที่ได้กรุณาไขข้อสงสัยของผม ทำให้ได้เข้าใจและหายสงสัย

หวังว่า หากผมมีข้อสงสัยในข้อเกี่ยวข้องกับหมวดกระทู้นี้อีก ก็จะขอมาเรียนถามอีกนะครับ

ขอขอบพระคุณเป้นอย่างสูงครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: