แก้คอมอืด10ประการ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 26, 2024, 11:24:31 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แก้คอมอืด10ประการ  (อ่าน 30808 ครั้ง)
Q9404017
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 03, 2009, 06:25:19 pm »

ประการที่ 1 ลงโปรแกรมไว้มากล้น   

          เคยมีการสำรวจแล้วพบว่า กว่า 70% ของปัญหาที่ทำให้คอมพ์เกิดอาการรวน แฮงก์ เดี้ยง หรืออืดนั้น มาจากซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ อย่างที่หลายคนเข้าใจ และกว่า 50% ของปัญหาที่เกิดจากซอฟต์แวร์นั้น มาจากการที่ผู้ใช้ทำการติดตั้งโปรแกรม เอาไว้มากเกินไป และมีโปรแกรมที่ทำงาน ซ้ำซ้อนกันหลายตัว

เริ่มสำรวจด่วนเลยครับ ว่าปัญหาของเราเข้าข่ายนั้นหรือเปล่า? โดยกดคลิ้กเข้าไปที่ Control Panel และไปตรวจสอบที่ Add or Remove Programs ว่าเรานั้น ได้ทำการ Install โปรแกรมต่างๆ ไว้เกินความจำเป็นหรือไม่? มีโปรแกรมอะไรบ้างที่ทำงานซ้ำซ้อนกัน มีโปรแกรม ประเภท Media Player ทั้งหลายนี้ แหละครับ ไม่ว่าจะเป็น RealPlayer, Quicktime, iTunes, WinAmp หรือแม้แต่ WinDVD กับ PowerDVD เองก็ตาม โปรแกรมเหล่านี้ มักมีความสามารถเหมือนๆ กัน มีความแตกต่างกัน ในความสามารถที่จะรองรับไฟล์เฉพาะ บางตัว จึงทำให้หลายคนต้องลงโปรแกรมเหล่านี้ ลงไปในคอมพิวเตอร์พร้อมกัน

ไฟล์นามสกุล rm, rmvb, mov, avi, divx, wmv และ mpeg ถือเป็นฟอร์แมตมาตรฐานสำหรับไฟล์วีดีโอ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะ avi และ divx ที่ได้รับความนิยม อย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อย่างที่กล่าวมาข้างต้นครับ โดยปกติหากต้องการให้เครื่องของเรานั้น สามารถเล่น ไฟล์วีดีโอ เหล่านี้ให้ได้ครบทุกตัว อาจต้องลงโปรแกรมถึง 4-5 ตัวทีเดียว อันที่จริงหากเราลอง Search ดูจากในอินเทอร์เน็ต จะพบว่า เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นก็ได้ เพราะจะมีโปรแกรมบางตัว ที่เราอาจไม่คุ้นหูนัก สามารถรองรับไฟล์เหล่านี้ได้ครบถ้วน แถมยังฟรีอีก ต่างหาก อย่างโปรแกรม K-Lite Codec Pack(http://www.ziddu.com/download/4126433/klmcodec417.exe.html) ที่ได้มีการรวบรวม codec สำหรับไฟล์มีเดียต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ไว้อย่างครบถ้วน แถมยังมีตัว Media Player Classic เอาไว้สำหรับเล่นไฟล์มีเดีย เหล่านั้นอีกด้วย เรียกว่าลงโปรแกรมเดียว รองรับไฟล์มีเดียได้ครบทุกฟอร์แมตกันเลย

โปรแกรม K-Lite Codec Pack
ดาวน์โหลดฟรี : http://www.ziddu.com/download/4126433/klmcodec417.exe.html

ประการที่ 2 ดูแลรักษาและจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์กันหรือยัง ?   

          หากพูดถึงการจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์เชื่อว่าหลายคน จะนึกถึงการใช้ยูทิลิตี้ที่ชื่อว่า Disk Defragmenter ที่มาพร้อมกับตัวระบบ ปฏิบัติการ Windows ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นวิธีที่ใช้จัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ที่ดี และควรทำวิธีหนึ่งเช่นกัน และผมแนะนำให้ทำอย่างน้อย เดือนละครั้งครับ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่พูดถึงเฉพาะการทำ Disk Defragment เท่านั้นนะครับ เพราะการจัดระเบียบให้กับฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็ว ในการทำงานนั้น ยังมีอะไรนอกเหนือจากนั้นอีก เริ่มต้นตั้งแต่คุณ ได้ซื้อฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่กันเลยทีเดียว

ในปัจจุบันขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก แถมราคาก็ถูกลง จะเห็นได้ว่าในท้องตลาดตอนนี้ ขนาดความจุต่ำสุดจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 80 กิกะไบต์ หรือ 100 กิกะไบต์กันแล้วโดยเฉพาะผู้ที่ซื้อมาเพื่อทำการอัพเกรดคอมพ์ตัวเก่านั้น หลายคนไม่ได้ทำการถอดเอา ฮาร์ดดิสก์ตัวเก่าทิ้งไป หากแต่ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ลงไปให้ทำงานคู่กันกับตัวเก่าเลย

คำแนะนำในการติดตั้งของผมก็คือ ให้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่เป็น Master และให้นำตัวเก่ามาทำเป็น Slave โดยให้ทำการฟอร์แมตระบบ ปฏิบัติการวินโดวส์ ในลูกเก่าออกเสีย และติดตั้งใหม่ลงบนฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่แทน อีกสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด ก็คือการแบ่งพาร์ทิชัน ให้กับฮาร์ดดิสก์ของคุณ

ส่วนระบบ Files System นั้น ผมแนะนำให้ใช้ NTFS แทน FAT32 เพราะในการทำงานกับฮาร์ดดิสก์ความจุสูง ๆ NTFS นั้นจะทำงานได้ รวดเร็วกว่าแบบ NTFS นั้นจะทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบ FAT32 ที่เราคุ้นเคยกันอยู่ พร้อมกันยังมีระบบการทำงานที่ดีกว่า

โปรแกรมช่วยจัดเรียงข้อมูลDisk Defragmenter
ดาวน์โหลดฟรี : http://www.ziddu.com/download/4126199/disk-defrag-setup.exe.html


ประการที่ 3 ทำความสะอาด Registry กันเถอะ   

          Registry คืออะไร? หลายคนยังไม่ทราบ ผมจะอธิบายคร่าวๆ แล้วกัน Registry คือฐานข้อมูลของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ที่รวบรวมข้อมูล การตั้งค่าของตัวระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมต่างๆ ในการทำงานร่วมกันกับตัวระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมใดๆ ลงบนคอมพ์ ตัวระบบปฏิบัติการ ก็จะทำการเขียน Registry ขึ้นมา เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการกำหนดการทำงานโปรแกรมนั้นๆ แต่หลายครั้งที่การเขียน Registry ขึ้นมาของ ระบบปฏิบัติการนั้นกลับสร้างปัญหาให้ระบบปฏิบัติการเสียเอง รวมถึงเมื่อเราทำการถอน การติดตั้งโปรแกรมใดๆ ออกไป ข้อมูล Registry ที่เกี่ยวข้องนั้น กลับไม่ได้ถูกลบออกไปจากระบบด้วย ทำให้หลายเครื่องมีข้อมูล Registry ที่ไม่มีประโยชน์คั่งค้างอยู่ในเครื่องเป็นจำนวนมาก

ผมขอแนะนำโปรแกรมเล็กๆ ที่จะสามารถช่วยคุณจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณไม่ต้องแปลงร่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านโปรแกรมเมอร์ แต่อย่างไร โปรแกรมเล็กและฟรีตัวเก่งตัวนี้คือ CCleaner (http://www.ziddu.com/download/4126200/ccsetup215.exe.html) โดยความสามารถ ของโปรแกรมเล็กๆ ตัวนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตรวจสอบ สถานการณ์ทำงานของ Registry และลบทิ้งเท่านั้น มันยังสามารถตรวจสอบ หาไฟล์ขยะ หรือไฟล์ที่ไม่จำเป็นในเครื่องของคุณ และทำการลบออกได้อีกด้วย รวมถึง Internet Temporary Files, History และ Cookies ที่ได้จากการท่องเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตของคุณอีกด้วย ปัญหาข้อนี้แก้ไขง่ายๆ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปากช้างเลย ...ว่างั้นมั้ยครับ?

โปรแกรมccleaner ช่วยแก้ปัญหาRegistry
ดาวน์โหลดฟรี : http://www.ziddu.com/download/4126200/ccsetup215.exe.html


ประการที่ 4 วัยร้าย ไวรัส โอ้ว...ไม่นะ!   

          นี่ถือเป็นสาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนต้องนอนก่ายหน้าผาก และถือเป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้คอมพ์ตัวเก่งของเราทำงาน อย่างที่ไม่มีเสถียรภาพ และทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ผมอยากจะบอกความจริงอันน่าสะพรึงกลัวว่าการที่คุณติดไวรัสให้ทราบคือ ไม่มีโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวใด ที่สามารถกำจัด และป้องกันไวรัสได้ 100% โดยเฉพาะการป้องกัน และกำจัดภัยคุกคามที่เรียกกัน โดยทั่วไปว่า Trojan และ Spyware

คำแนะนำคือให้การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยให้กับคอมพ์ของคุณ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดของผมคือ ให้เลือกติดตั้งโปรแกรม แอนตี้ไวรัสสักหนึ่งตัว พร้อมกับติดตั้งโปรแกรมตรวจจับและกำจัดสปายแวร์ไปด้วยอีกหนึ่งตัว

อีกหนึ่งวิธีในการป้องกันไม่ให้ทั้งเจ้าไวรัสตัวร้าย และสปายแวร์ ตัวป่วนมาเยี่ยมเยียนคอมพ์ของคุณ ก็คือพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต ของคุณนั่นเอง โปรแกรมบราวเซอร์อย่าง Internet Explorer นั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการโดยโจมตีด้วยสารพัดวิธีของสปายแวร์ การเปลี่ยนไปใช้บราวเซอร์ ที่มีความปลอดภัย สูงกว่าอย่าง Opera หรือ Firefox ก็ถือเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง

นอกจากนี้การเข้าเวปไซต์ที่ไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตา และการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า จะไม่มีของแถม อันไม่พึงประสงค์ติดมาด้วย

สำหรับผู้ที่ใช้โปรมแกรมประเภท Outlook ในการรับ-ส่งอีเมล์นั้น ควรตั้งค่าให้มีการสแกนไวรัสก่อนรับอีเมล์เสมอ เพื่อป้องกันอีเมล์ จากผู้ประสงค์ร้าย ไม่ให้สามารถมาคุกคามคอมพ์ของคุณได้นั่นเอง...เรียกว่าเพียงใส่ใจในรายละเอียด และใช้ความรอบคอบสักเล็กน้อย ในการเป็นคนช่างสังเกต ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากกับปัญหาของไวรัส และสปายแวร์แล้วละครับ


ประการที่ 5 วินโดวส์เจ้าปัญหา!   

          ถ้าหากนำระบบปฏิบัติการทุกตัวที่มีการใช้งานในปัจจุบันมาเปรียบเทียบกัน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ก็ถือเป็นระบบปฏิบัติการ ที่มีช่องโหว่ และมีบั๊ก มากที่สุดเลยก็ว่าได้ และด้วยความนิยม และมีจำนวนผู้ใช้สูงสุดนี่เอง ทำให้ช่องโหว่เหล่านั้น กลายเป็นเป้าโจมตี ของบรรดาผู้ไม่หวังดีมากที่สุดเช่นกัน

อันที่จริงไมโครซอฟท์เองก็ไม่ได้นิ่งเฉยต่อช่องโหว่ต่างๆ ที่เกิดขึ้น พวกเขาหมั่นที่จะออกตัวอัพเดทสำหรับแก้ไขช่องโหว่และบั๊กต่างๆ อยู่เป็นประจำ และเราๆ ท่านๆ ที่เป็นผู้ใช้ก็ต้องหมั่นคอยตรวจสอบ และอัพเดตตัวแก้ไขปัญหาห่างๆ เหล่านั้นด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกเบื่อหน่าย ที่ต้องมาคอยตามอัพเดตกันทุกวี่วัน ก็มีหลายคนได้ทำการรวบรวมตัวอัพเดตต่างๆ เอาไว้ และปล่อยให้ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ภายในครั้งเดียว อาทิ ชุดอัพเดตอย่าง AutoPatcher (http://www.autopatcher.com) เป็นต้น ซึ่งจะมีการรวบรวม และออกชุดรวมการ อัพเดตต่างๆ ของไมโครซอฟท์ออกมาทุกเดือน ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลด ไปติดตั้งได้ฟรี แถมไม่ต้องคอยล่าตามอัพเดตทุกวันอีกด้วย

สำหรับการเพิ่มความเร็วในการทำงานให้กับเจ้าวินโดวส์ตัวเก่งนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งโปรแกรมประเภท Tweak ตัวไหนเลยก็ได้ครับ

ขั้นแรกให้จัดการกับเอฟเฟ็กต์ฟุ่มเฟือยเสียก่อน โดยคลิ้กขวาที่ My Computer เลือก Properties ไปที่ Advanced เลือก Setting ภายใต้หัวข้อ Performance จากนั้น ภายในหัวข้อ Visual Effects ให้ติ๊กเอาเครื่องหมายถูกหน้าข้อที่ขึ้นต้นด้วย Animate, Fade และ Slide ออกให้หมด หลังจากกด Apple และ OK เพื่อเป็นการยืนยัน

ขั้นต่อมาให้จัดการกับโปรแกรมในส่วนของ Startup ด้วยการคลิ๊กที่ Start เลือกไปที่ Run แล้วพิมพ์คำว่า msconfig ให้กด Enter เมื่อได้หน้าต่างของ System Configuration Utility ขึ้นมา ให้เลือกไปที่ Startup โดยจะเป็นส่วนที่รวบรวมโปรแกรมที่จะรันขึ้นมา อัตโนมัติเมื่อวินโดวส์เริ่มทำงาน ซึ่งหลายโปรแกรมนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มทำงานทันที่เมื่อเข้าสู่วินโดวส์ โดยให้คุณเลือก โปรแกรมที่ไม่ค่อยจำเป็นออกซะ แล้วอย่าลืมกด Apply และ OK เหมือนเดิม แค่สองวิธีง่ายๆ นี้ก็ช่วยให้วินโดวส์ของคุณ ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้นทีเดียวนะครับ


ประการที่ 6 อะไรนะ? คอมพ์มองไม่เห็นแรมเหรอ!   

ปัญหาที่พบบ่อยมากกับแรมนั้น คือการที่คอมพ์มองไม่เห็นจำนวนแรมของเรา ได้อย่างครบถ้วน บางคนใส่แรมเข้าไป 2 แถว แถวละ 256 เมกะไบต์ ซึ่งรวมเป็น 512 เมกะไบต์ แต่คอมพ์กลับมองเห็นเพียง 256 เมกะไบต์เท่านั้น

ปัญหาแบบนี้สันนิษฐานได้สองข้อหลักๆ คือ แรมอาจจะเสีย หรือสล็อตเสียบแรมมีปัญหา วิธีตรวจสอบคือ ให้ทำการใส่แรมทีละตัว ลงบนสล็อตทีละอัน หากแรมที่ใส่ลงไปนั้นคอมพ์ ไม่สามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะใส่ลงบนสล็อตใดก็ตาม แสดงว่าแรมแผงนั้น มีปัญหาแน่นอน ให้ลองทำความสะอาด หน้าสัมผัสทองเหลือง ด้วยการนำยางลบมาถูจนคราบสีดำหลุดออกไป และนำไปลองใส่ดูอีกครั้ง

ถ้าหากคอมพ์ยังไม่สามารถมองเห็น นำไปเคลมหรือซื้อใหม่ได้เลยครับ แต่หากคอมพ์สามารถมองเห็นแรมนั้นได้บนบางสล็อต ให้นำ ลูกยางเป่าลม มาเป่าไล่ฝุ่นออกจากสล็อตที่มีปัญหา หรือจะนำสำลีมาปัดทำความสะอาดก็ได้และหากยังไม่สามารถใช้งานได้ คงต้องซ่อม หรือเคลมเลยครับ


ประการที่ 7 ซีพียู มันสมองของคอมพิวเตอร์   

          ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับซีพียู ก็คือเรื่องของความร้อนในการทำงานที่มีความร้อนสูง บางครั้งสูงมากจนเครื่องแฮงก์ ซีพียูไหม้คาเคสไปเลยก็มีมาแล้ว โดยปกติเวลาเราซื้อซีพียูสักตัว ในกล่องหรือแพ็กเกจก็จะมีชุดระบายความร้อนแถมมาให้ด้วยอยู่แล้ว แต่ชุดระบายความร้อนนั้น ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพสูง อะไรมากมายนัก เป็นชุดระบายความร้อนที่สามารถรองรับการทำงานทั่วๆ ไป ในสภาพแวดล้อมปกติ แต่เมืองไทยนั้นเป็นเมืองร้อนครับ และหลายคน ก็ไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ภายในห้องแอร์ ทำให้โอกาสที่ซีพียู จะมีความร้อนสูงกว่าปกติ และทำให้ชุดระบายความร้อนที่แถมมานั้น ไม่สามารถรองรับ การระบายความร้อนได้เพียงพอจึงเป็นไปได้มาก ทางออกของปัญหาคงไม่พ้นเรื่องของการ หาซื้อชุดระบายความร้อนมาเปลี่ยนนั่นเอง โดยเฉพาะ คนที่นิยมชมชอบ ในเรื่องของการ โอเวอร์คล็อกซีพียูนั้น ยิ่งต้องมีความพิถีพิถันในการเลือก ชุดระบายความร้อนมากเป็นพิเศษ

คำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อชุดระบายความร้อนสำหรับซีพียูนั้นควรดูหน้าสัมผัสของชุดระบายความร้อนให้ดี ควรจะมีหน้าสัมผัส เป็นทองแดง เพราะทองแดง มีคุณสมบัติในการดูดซับ และกระจายความร้อนได้ดีกว่าเหล็กหรืออะลูมิเนียม ที่นิยมใช้กับชุดระบาย ความร้อนทั่วๆ ไป

สำหรับใครที่เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ ที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่ๆ ของ AMD ไม่ว่าจะเป็น Athlon64 หรือ Athlon X2 ควรติดตั้งไดร์เวอร์ สำหรับซีพียูด้วย โดยดาวน์โหลด และตรวจสอบไดร์เวอร์ได้ที่ http://www.amd.com ทั้งนี้ก็จะทำให้ประสิทธิภาพ และเสถียรภาพ ในการทำงานร่วมกับระบบปฎิบัตินั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้ซึ่งปัญหากวนใจนั่นเอง


ประการที่ 8 สารพันปัญหาฮาร์ดแวร์   

          นอกจากปัญหาที่มักเกิดกับแรมและซีพียู อย่างที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นคอมพ์ สักเครื่องนั้น ก็ใช่ว่าจะทำงาน ราบรื่นไม่เคยก่อปัญหาเสียเมื่อไหร่ อย่างการ์ดแสดงผลตัวเก่งสำหรับชาวเกมเมอร์นั้น ก็ชอบงอแง อยู่บ่อยครั้ง อาทิ การสามารถรันเกมบางเกมได้ ทางแก้ง่ายๆ คือพยายามอัพเดทไดรเวอร์กันอย่างสม่ำเสมอ (Nvidia เฉลี่ยออกไ้ดร์เวอร์ ทุกๆ 7-14 วัน ขณะที่ ATI เฉลี่ยการอัพเดตไดร์เวอร์ สำหรับการ์ดแสดงผล ของพวกเขาโดยเฉลี่ยเดือนละหนึ่งครั้ง) ทั้งนี้รวมถึงฮาร์ดแวร์ ทุกชิ้น ในคอมพ์หมั่นคอยตรวจสอบดูว่ามีการอัพเดตไดรเวอร์ จากผู้ผลิตหรือไม่? ถ้าหากมีก็อย่าลืม ที่จะไปดาวน์โหลดมาติดตั้งด้วยนะครับ

นอกจากการ์ดแสดงผลแล้วตัวออฟติคอลไดรฟ์อย่าง CD, DVD หรือแม้แต่ CD Writer, DVD Writer เองก็มักพบปัญหาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการไม่สนับสนุน แผ่นที่อ่านและเขียน บางครั้งเรานำแผ่น CD ใส่เข้าไปตัวอย่างเช่น เจ้าไดรฟ์ตัวเก่งกลับงอแง ไม่ยอมอ่านแผ่นซะอย่างนั้น

คำแนะนำคือให้ลองทำความสะอาดหัวอ่านด้วยการหาซื้อชุดทำความสะอาดหัวข้อมาลองดูก่อน หากยังไม่สำเร็จ หรือจะเป็น DVD Writer ที่เพิ่งซื้อมากับ ไม่สามารถ เขียนข้อมูลลงบนแผ่น DVD เปล่าบางยี่ห้อได้ คำแนะนำคือ ให้ลองทำการอัพเดตเฟิร์มแวร์ของตัวไดรฟ์ก่อนครับ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยๆ แต่กลับไม่ค่อยมีใครทราบวิธีแก้ไข คือเรื่องของถ่านเมนบอร์ดเสื่อม วิธีสังเกต คือเมื่อใดที่คุณเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แล้วนาฬิกาบอกเวลา ในวินโดวส์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือผิดเพี้ยนไปมาก อาทิ เปิดใช้งานแต่วันที่กลับแจ้งวันเวลาเป็นของเดือนที่แล้ว หรือสัปดาห์ก่อน สันนิษฐานไว้ก่อนเลยนะครับ ว่าตัวแบตเตอรี่ของเมนบอร์ดนั่น น่าจะเริ่มเสื่อมแล้ว ทางออกก็เพียงแค่ซื้อถ่านมาเปลี่ยนครับ ก้อนหนึ่งเพียง 50-70 บาทเท่านั้นเอง


ประการที่ 9 Phishing และ Pharming   

          การวางเหยื่อล่อที่แฮกเกอร์นำมาตบตาสำหรับผู้ที่ชอบใช้บริการ E-Banking หรือแม้แต่ชอปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกนั้น ความสำเร็จที่เกิดขึ้น มักจะอยู่ที่ความ ไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ใช้บริการประเภทนี้ มากจนเกินไป แน่นอนว่ารวมถึงขาดการสังเกต ในสิ่งรอบตัว แฮกเกอร์ใหม่ยอมลงทุนเสียเวลา ทำเว็บปลอมให้เหมือน ของจริงมากที่สุด ซึ่งเป็นการลงทุนลงแรง ที่ได้ผลตอบรับ ดีเสียด้วย เพราะสามารถหลอกลวงให้เหยื่อมาติดกับได้หลายคน เมื่อแฮกเกอร์ ทำเว็บปลอมได้ เหมือนขนาดนี้ เราจะรู้ได้อย่างว่าอันไหน คือของจริงกันแน่ วิธีตรวจสอบก็ไม่ยากครับโดยหลักการของ Phishing และ Pharming มีจุดประสงค์ ต้องการข้อมูล ส่วนตัว ของคุณเป็นหลัก ดังนั้นหน้าเว็บที่ทำปลอมขึ้นมาจะพยายามให้คุณกรอกข้อมูลให้มากที่สุด โดยเฉพาะพาสส์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต หรือข้อมูล ที่จะช่วยให้แฮกเกอร์ สามารถสั่งโอนเงินจากบัญชีของคุณได้ หากไม่แน่ใจจริง ๆ ให้คุณติดต่อกับทางธนาคารโดยตรงเลยว่า มีการขอข้อมูลแบบนี้ ผ่านเว็บไซต์จริง ๆ หรือไม่?

อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถตรวจสอบได้เองคือ ให้เปิดหน้าเว็บนั้นขึ้นมาบ่อย ๆ เพื่อตรวจสอบดูว่าแท้ที่จริงแล้ว ในระหว่างที่เว็บบราวเซอร์ กำลังวิ่งไปตามที่อยู่ของ URL นั้น มันวิ่งไปที่เดิมตลอดหรือไม่? เพราะหากเราไปเจอกับวิธีการ “ตอบสนองก่อน แสดงผลก่อน” โอกาสที่หน้าเว็บของจริงจะตอบสนองขึ้นมาก่อน เว็บปลอมก็มีเช่นกัน เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่แฮกเกอร์นำมาใช้ เพื่อให้เว็บปลอม ที่สร้างขึ้นแสดงผลขึ้นมาก่อน และมักจะ Active อยู่ด้านหน้าเว็บจริงอยู่เสมอ อันที่จริงหากคุณลองหดเว็บไปมา ก็อาจจะพบว่ามีหน้าเว็บ อีกอันหนึ่ง ซ่อนอยู่ด้านหลัง หรือถูกเรียกขึ้นมาในระหว่างนั้นด้วย


ประการที่ 10 อินเทอร์เน็ตยุคเต่าคลาน และปัญหาเน็ตเวิร์กชวนปวดหัว   

          หลายคนออกอาการเซ็ง เมื่อความเร็วในการเล่นอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ค่อยทันใจคนรุ่นใหม่วัยไอที ทั้งๆ ที่หลายคนลงทุน เปลี่ยนจากเดิม เคยใช้ Modem Dial-up 56k มาเป็น Hi-Speed Internet แล้ว ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ผู้ให้บริการหลายๆ เจ้า ปรับเปลี่ยนแบนด์วิดธ์กันไม่ทันต่อจำนวนผู้ใช้

อีกสิ่งหนึ่งคือให้ลองสำรวจถึงช่วงเวลาการใช้งานของคุณด้วย อินเทอร์เน็ตก็เปรียบเสมือนการจราจรในกรุงเทพมหานครของเรานี่แหละครับ มันมีช่วงเวลาเร่งด่วน อยู่เหมือนกัน นั้นก็ คือช่วงเวลา 17.00-24.00 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตกันมากที่สุด หากคุณ ต้องการดาวน์โหลดไฟล์อะไรละก็ ผมแนะนำให้ดาวน์โหลดทิ้งไว้ใน ช่วงเวลาที่นอกเหนือจากเวลาดังกล่าว นอกจากความเร็ว ในการโหลดจะสูงกว่าปกติ ในช่วงนั้นโอกาสที่ การเชื่อมต่อจะถูกตัด ก็มีน้อยกว่าด้วย

อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของสายโทรศัพท์ที่ใช้ ลองตรวจสอบดูครับว่ามีสัญญาณรบกวนมากหรือเปล่า? ทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการนำ โทรศัพท์ พื้นฐานมาต่อเข้ากับ สายโทรศัพท์ที่เราใช้ในการต่ออินเทอร์เน็ต และลองยกหูโทรออกดู หากมีเสียงซ่าเข้ามาเป็นระยะๆ หรือมีเสียงแทรก ระหว่างการสนทนานั้น นั่นแสดงว่า สายโทรศัพท์เส้นนั้นมีสัญญาณรบกวนอยู่

ทางแก้อาจจะต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์ ให้เขามาตรวจสอบการเดินสายภายในที่พักของเรา ว่ามีส่วนใดช่วงไหนที่ชำรุด เสียหายหรือไม่? การทำให้สายโทรศัพท์มีสภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยให้การท่องเข้าไปยังโลกอินเทอร์เน็ตของคุณ นั้นราบรื่น และรวดเร็วได้เหมือนกัน

สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตนั้นทำได้กันอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะใช้สาย Cross ต่อ LAN หรือจะทำ Wireless LAN เองก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะเมื่อคุณซื้ออุปกรณ์ สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตเหล่านี้มา เขาก็จะมีตัวคู่มือสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ และเซตอัพให้อยู่แล้ว สำหรับการแชร์ไฟล์นั้นในระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ เอ็กซ์พีเองก็มีตัวช่วยในการเซตอัพการแชร์เน็ตเวิร์กกันอยู่แล้ว เพียงแค่คุณ เลือกไดรฟ์ หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการจะแชร์ แล้วคลิ้กขวาเลือก Sharing and Security และทำตามขั้นตอนที่วินโดวส์ บอกไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง

ปัญหาหนึ่งที่พบกันบ่อยครั้งในการแชร์ไฟล์หรือการแชร์อินเทอร์เน็ต คือการที่เครื่องในวงเน็ตเวิร์กนั้น ไม่สามารถมองเห็นไฟล์ ของอีกเครื่องหนึ่งได้ รวมถึงการ ที่ทำการแชร์อินเทอร์เน็ตแล้วขึ้นคำว่า Connection has limited or no connectivity ในปัญหา ของการที่เราไม่สามารถมองเห็นเครื่องอื่นในวงเน็ตเวิร์กนั้นได้ อันดับแรก ให้ตรวจสอบชื่อของ Workgroup ว่าถูกต้องหรือไม่? รวมถึงการตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าถึงข้อมูลในเครื่องนั้นๆ ด้วยว่ามีการตั้งสิทธิ์ไว้อย่างไร

สำหรับปัญหา Connection has limited or no connectivity นั้น พบได้บ่อยกันระบบเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ สาเหตุใหญ่อย่างหนึ่ง คือบางครั้ง


มีการเข้าใช้งาน ในเครื่องข่ายพร้อมๆ กันจำนวนมาก ทำให้ตัว DHCP Server นั้นๆ ไม่สามารถจ่ายหมายเลขไอพีได้อย่างเพียงพอ ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น รวมถึงปัญหาเกิดปัญหาหมายเลขไอพีค้าง คือได้มีเครื่องทำการเชื่อมต่อ และถอนการเชื่อมต่อออกไปแล้ว แต่เซิร์ฟเวอร์กลับ ไม่ดึงหมายเลขไอพีกลับมา โดยยังคงค้างหมายเลข ไอพีนั้นอยู่ ทำให้ไม่สามารถจ่ายหมายเลขไอพี ให้กับเครื่อง ที่มาต่อใหม่ได้

ทางแก้ที่ดีที่สุดคือการรีสตาร์ตตัวเซิร์ฟเวอร์หรือเราเตอร์เสีย เพื่อให้มีการรีเชตหมายเลขไอพี ก็จะทำให้ตัวเซิร์ฟเวอร์สามารถจ่ายเลขไอพี ได้ตรงตามจำนวนเครื่องที่เข้ามาเชื่อมต่อภายในเน็ตเวิร์กได้อีกครั้ง

สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตแล้ว ไม่อยากให้ความเร็วตกลงไปมากนั้น มีข้อควรพึงปฏิบัติคือ ตรวจสอบไม่ให้มีการใช้งานโปรแกรม ที่ดึงแบนด์วิดธ์ส่วนมากไป เช่น การดาวน์โหลด Bit Torrent การใช้โปรแกรมแชตบางประเภทอย่าง Skype หรือแม้แต่ Yahoo Messenger ที่ได้มีการเชื่อมต่อเว็บแคมเอาไว้ และที่สำคัญป้องกันไม่ให้มีการเล่นเกมออนไลน์ ภายในวงเน็ตเวิร์กด้วย เพราะ นอกจาก จะสูญเสียแบนด์วิดธ์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ยังจะเสียงานอีกด้วย


บันทึกการเข้า

Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 09:17:01 am »

    Lips Sealed  Cheesy  Lips Sealed 
บันทึกการเข้า
taoybb
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 03:34:45 pm »

ิเหมือนจะผิดห้องนะครับ
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 04:33:43 pm »

ไม่เหมือนจะผิดห้องครับ.......ผิดห้องเลย............. 
บันทึกการเข้า
wanwanngom
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 14, 2012, 06:26:18 pm »

เหมือนจะผิดห้องนะครับ
บันทึกการเข้า
abcd204
member
*

คะแนน5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2012, 03:10:25 pm »

ชอบคุณครับผม ที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทานครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!