เทคนิคดูแลผิวพรรณลูกช่วงหน้าหนาว

ในที่สุดอากาศหนาวก็มาเยือนจริงๆ ซักที หลังจากฝนหลงฤดูลากยาวมาจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากนั้นก็มีลมหนาวพอให้เย็นชื่นใจพัดผ่านวันสองวัน ก็กลับไปร้อนเหมือนเดิม แต่ครานี้ดูเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาณความหนาวมาเยือนเต็มๆ และทำท่าจะหนาวมากซะด้วย โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานที่กำลังประสบภัยหนาวกันอยู่

ขณะที่ชาว กทม.ก็ต้องสวมใส่เสื้อสองชั้น แฟชั่นหน้าหนาวก็เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ร้อนระอุ ทำให้ความหนาวเหน็บของอากาศส่งผลให้เราร้อนๆ หนาวๆ กับสภาวการณ์ยามไม่ปกติของบ้านเมือง แต่เราก็จำเป็นต้องดูแลสุขภาพด้วย

สิ่งที่ห่วงใยมากเป็นพิเศษก็คือสุขภาพ เพราะช่วงอากาศเปลี่ยน โรคภัยไข้เจ็บก็มักมาเยือนเช่นกัน ฉะนั้น อย่าลืมใส่ใจสุขภาพดูแลตัวเองและคนที่คุณรักด้วยนะคะ โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็ก

เด็กมักจะป่วยง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะภูมิต้านทานที่น้อยกว่า ช่วงนี้คนรอบข้างของดิฉันจึงมักประสบปัญหาลูกป่วยกันเป็นทิวแถว และเมื่อลูกป่วย สมาชิกในบ้านก็พลอยป่วยตามไปด้วย ประมาณว่าติดกันไปมา ทำไงได้ ช่วงไม่สบายจะแยกกันอยู่ได้อย่างไร โอกาสที่คนเป็นพ่อแม่ลูกจะป่วยร่วมกัน ก็เลยกลายเป็นเรื่องปกติ

เจ้าลูกชายคนโตของดิฉันก็มีอาการภูมิแพ้อยู่ก่อน ช่วงอากาศเปลี่ยนก็เลยมักจะเกิดปัญหาสารพัดเช่นกัน

ครานี้จะชวนเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ดูแลผิวพรรณของเจ้าลูกน้อย เพราะช่วงอากาศเย็นแบบนี้ ผิวพรรณของเราเองก็แห้งขอดแตกลายกันเป็นแถว ต้องพึ่งพิงครีมและโลชั่นทาผิวกันจ้าละหวั่น เจ้าตัวเล็กก็เหมือนกัน ต้องการการปกป้องผิวพรรณไม่ต่างจากผู้ใหญ่

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมถึงผิวแห้ง ?

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกาย ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำ น้ำมัน และสารให้ความชุ่มชื้น ตามธรรมชาติที่อยู่ในเซลล์ผิวหนัง ถ้าสิ่งเหล่านี้ลดน้อยลง จะทำให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย หรือมีอาการคันได้บางรายมีอาการผิวหนังอักเสบจากการที่ผิวแห้ง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ มักมีอาการมากขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูอื่นๆ

ฉะนั้น เจ้าตัวเล็กทั้งหลายที่ผิวแห้งลอกเป็นขุย ปากแตกแห้ง บางคนเป็นมาก ก็ถึงขั้นปากแตกเจ็บอีกต่างหาก เชื่อว่าเราๆ ท่านๆ ที่เคยเป็นเด็กก็เคยผ่านเหตุการณ์ช่วงอากาศหนาวกันมาแล้วว่าทรมานขนาดไหน ร่างกายหนาวเราก็สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อให้อบอุ่น แต่ร่างกายภายนอก โดยเฉพาะผิวพรรณที่นานทีปีครั้งจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นสักที ก็เลยมีปัญหาในบัดดล

อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดานะคะ เพราะเมื่อก่อนดิฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องผิวพรรณช่วงหน้าหนาว เพราะเห็นว่าลูกเป็นเด็กผู้ชาย ควรจะปล่อยให้เขาปรับสภาพเอง เด็กๆ ในต่างจังหวัดก็ไม่เห็นต้องดูแลผิวพรรณมากเป็นพิเศษ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย ที่ไหนได้ ยิ่งปล่อยยิ่งลุกลาม จากปากแห้งธรรมดา ก็เริ่มเป็นขุย และลามไปทั่วปากจนเจ็บแดงแตกระเบิด ส่วนผิวพรรณก็เป็นขุยลอก คัน พอยิ่งคันยิ่งเกาก็ไปกันใหญ่

กว่าจะกลับมาตั้งหลักดูแลกัน ก็เรียกว่าต้องได้เห็นเลือดและความเจ็บปวดของเจ้าลูกชายกันก่อน จากนั้นก็เลยต้องกลับมาตั้งหลัก และเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลช่วงสภาพอากาศหนาวกันทุกปี

เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าช่วงอากาศหนาว อุณหภูมิความชื้นจากอากาศ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง ผิวหนังลอกเป็นขุย บางครั้งหากเป็นมาก อาจทำให้เกิดอาการคันได้

แต่ประโยชน์จากอากาศหนาวก็มีไม่น้อยเช่นกัน บ้านไหนที่เคยชินกับการนอนที่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศมาตลอดทั้งปี ลองปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วนอนแบบเปิดหน้าต่างสิคะ ถือซะว่าในหนึ่งปี ได้นอนแบบเปิดหน้าต่างซะบ้าง ไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

ที่สำคัญ เจ้าเครื่องปรับอากาศมีการปรับเฉพาะอุณหภูมิ แต่ไม่ได้ปรับความชื้นควบคู่ไปด้วย ฉะนั้น การอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศเย็น ก็อาจทำให้ผิวแห้ง มีผื่นหรือคัน

วิธีที่จะช่วยดูแลผิวพรรณให้เจ้าตัวเล็กได้อย่างง่ายๆ มีดังนี้

หนึ่ง - ถ้าลูกอยู่ในวัยเด็กเล็กควรอาบน้ำให้ลูกวันละ 1 ครั้งก็พอ แต่ถ้าเด็กโตที่วิ่งเล่นนอกบ้านก็มีความจำเป็นจะต้องอาบวันละสองครั้ง แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำที่ร้อนเกินไป คุณพ่อคุณแม่อาจผสมเบบี้ออยล์เล็กน้อยก็ได้ รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวของลูก หรือใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก และอย่าเช็ด ถู เพื่อทำความสะอาดผิว (แรงเกินไป) การอาบน้ำบ่อยๆ หรือใช้สบู่ จึงเป็นการชะล้างไขมันและสารให้ความชุ่มชื้นออกไป ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำ ผิวลูกจึงแห้ง เกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน

สอง - ภายหลังอาบน้ำ ควรใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวสำหรับเด็กทาบางๆ โดยเลือกครีมทาผิวชนิดที่ลูกใช้แล้วไม่แพ้ และให้ลูกได้สวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิว

สาม - หมั่นให้ลูกดื่มน้ำอุ่น โดยใช้วิธีจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา และเลือกกินอาหารที่มีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื่นได้ เช่น อาหารประเภทไขมัน วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี ควรงดอาหารที่มีรสเค็มหรือขนมขบเคี้ยว เพราะทำให้สูญเสียน้ำในร่างกาย

สี่ – สิ่งสำคัญคือความเข้าใจผิดที่ว่า เมื่อลูกเกิดอาการคันก็มักจะซื้อยาประเภทกลุ่มคาลาไมน์มาทาผิวลูก ทั้งที่จริงจะยิ่งทำให้ผิวหนังแห้งตึงมากขึ้น

วิธีการดูแลและปกป้องผิวพรรณของลูกน้อยเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่เต็มๆ เลยค่ะ ดิฉันเองเคยละเลยด้วยความที่เห็นว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย จะอะไรกันนักกันหนา ท้ายสุดอาการก็ลาม จนกลายเป็นความทุกข์ของครอบครัวในเวลาต่อมา

อย่าคิดว่าเรื่องผิวพรรณของลูกเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องเล่นๆ นะคะ เพราะโรคภัยไข้เจ็บในยุคนี้แฝงมากับโลกยุคโลกาภิวัตน์ ที่มาเร็วและแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

โดย...ผู้จัดการออนไลน์