พรุ่งนี้รถร่วมหยุดวิ่ง ยื่น 3 เงื่อนไขให้รัฐช่วย

นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าววันนี้ (28 พ.ค.) ว่า วันนี้ รถร่วมบริการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถร่วม ขสมก.) ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 8,000-10,000 คัน และรถมินิบัส ร่วม ขสมก. บางส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทุเลาการปรับขึ้นค่าโดยสาร รถร่วม ขสมก. ของ ศาลปกครองกลาง ได้เริ่มหยุดให้บริการแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังประชุมร่วมกันทุกสมาคมรถร่วม ขสมก. ได้มติว่า พรุ่งนี้เช้า จะไปขอความเห็นใจจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า รถร่วม ขสมก. ที่ใช้น้ำมันดีเซล ทั้งหมด ไม่สามาถให้บริการประชาชนได้อีกต่อไป เนื่องจากต้นการให้บริการสูงกว่ารายได้ที่รับเข้ามา

นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวต่อว่า รถมินิบัส ร่วม ขสมก. เริ่มหยุดให้บริการบ้างแล้ว แต่พรุ่งนี้ เชื่อว่า รถร่วม ขสมก.ส่วนใหญ่ ประมาณ 8,000-10,000 คัน เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อคำสั่งดังกล่าวอย่างแสนสาหัส เพราะมีรถร่วม ขสมก. ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีแล้วประมาณ กว่า 1,700 คัน รับกระทบสาหัส เท่านั้น

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า กล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้ประกอบการสมาชิกของสมาคม รถร่วม ขสมก. ว่า ผู้ประกอบการมีมติที่จะยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย ขอให้รัฐบาลเข้ามาชดเชยภาระน้ำมัน เหมือนกับที่รัฐบาลแบกรับภาระให้ ขสมก. ผู้ประกอบการจะจัดตั้งทีมทนาย เพื่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาชั่วคราวของศาลปกครองกลาง ที่ระงับการขึ้นค่าโดยสารของรถร่วมบริการ รวมทั้งขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่มีปริมาณก๊าซเอ็นจีวี และสถานีเติมก๊าซเอ็นจีวีไม่เพียงพอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะนี้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการกลุ่มต่างๆ อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน เพื่อยื่นหนังสือถึงภาครัฐให้ออกมาตรการช่วยเหลือ และในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ค.) มีรายงานว่า จะมีผู้ประกอบการรถร่วมบริการนำรถกว่า 200-300 คัน ไปชุมนุมปิดล้อมกระทรวงคมนาคม เพื่อกดดันตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อด้วย