รุมจวกเมนูโหด"ปลา2แผ่นดิน"
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 09:23:35 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รุมจวกเมนูโหด"ปลา2แผ่นดิน"  (อ่าน 4050 ครั้ง)
ANR
Senior Member
member
*

คะแนน101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« เมื่อ: มีนาคม 01, 2007, 08:46:00 am »

รุมจวกเมนูโหด"ปลา2แผ่นดิน"

สุกครึ่ง-เป็นๆครึ่งเปิดตัวอีกเมนู"ปูไต่"




เมนูโหด- โฉมหน้า "ปลาสองแผ่นดิน" เมนูจานโหดของร้านอาหารริมหาดแม่รำพึง จ.ระยอง โดยนำปลาเก๋าตัวเป็นๆ มาทอดให้สุกแค่ครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนยังดิ้นอยู่ บรรดานักนิยมเปิบพิสดารอ้างช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ แต่ถูกวิจารณ์ว่าสยดสยองเกิน

 
คนแห่ไปลองชิมเมนูสยอง "ปลาสองแผ่นดิน" ทอดปลาทั้งเป็นแค่ครึ่งตัว ยันเป็นอาหารเก่าแก่ของคนจีน ทุกวันนี้ที่ประเทศจีนก็ยังทำกินกันอยู่ เช่นเดียวกับมีรายการทีวีตามไปถ่ายทำถึงก้นครัว เจ้าของร้านถือโอกาสแนะนำเมนูพิสดารอีกอย่าง "ปูไต่" เอาปูตัวเล็กๆ ที่เลี้ยงไว้ ใส่ในถ้วยน้ำปลา เสิร์ฟถึงโต๊ะลูกค้าทั้งเป็นๆ ลูกค้าต้องเอาส้อมจิ้มตัวปูที่ดิ้นรนหนีจากถ้วยน้ำปลา เอาไปคลุกข้าวกินสดๆ ยอมรับไปเดินตลาด โดนคนวิจารณ์มากเป็นการทรมานสัตว์ ทางด้านแพทย์เตือนระวังพยาธิใบไม้ในตับ

จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเมนูสุดวิตถารชื่อ "ปลาสองแผ่นดิน" ที่ปรุงโดยร้านเตชินท์ จ.ระยอง ใช้ปลาเก๋าเป็นๆ มาขอดเกล็ด แล้วใช้ผ้าเย็นห่อที่หัวปลาถึงพุงปลา แล้วก็บั้งตั้งแต่หางจนถึงกลางตัวปลา ก่อนใช้คีมล็อกไว้ที่หัวปลา จุ่มส่วนหางปลาที่บั้งเรียบร้อยแล้วลงไปในน้ำมันร้อนจัด จนหางปลาเหลืองกรอบ แต่ตัวปลาส่วนบนที่ห่อผ้าเย็นยังดิ้นกระแด่วด้วยความเจ็บปวด นำไปเสิร์ฟให้ลูกค้าทันที ซึ่งได้รับคำชมเชยจากลูกค้าว่ากินแล้วสุขภาพดีกว่าเดิม ขณะที่น.ส.อัญชลี ขุนฤทธิ์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอาหารเตชินท์ เผยว่าได้รับสูตรมาจากคุณปู่ที่เป็นคนจีน ทำกินเองเรื่อยมา จนกระทั่งนำมาเป็นเมนูเด็ดของร้าน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ส่วนนายแพทย์วิวัฒน์ วิริยะกิจจา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ทราบมาว่าที่ประเทศจีนเมนูปลาแบบนี้มีกินอยู่แพร่หลาย และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะปลาดิบก็มีการกินกันทั่วไป ส่วนเรื่องสรรพคุณว่าเสริมสมรรถภาพทางเพศนั้น อยู่ที่ความเชื่อ เพราะการกินปลาก็ได้สารอาหารในตัวปลาเท่านั้น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
เมนูวิตถาร- "ปูไต่" อีกเมนูพิสดารที่ร้านเตชินท์ จ.ระยอง โดยเอาปูเป็นๆแช่น้ำปลาคลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆ ส่วนเมนู "ปลาสองแผ่นดิน" เจ้าของร้านเผยถูกชาวบ้านต่อว่าทรมานสัตว์ แต่ยืนยันว่าเป็นสูตรโบราณยังมีคนกินอยู่

 


เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารเตชินท์ พบทีมงานรายการทีวีของช่อง 3 เดินทางไปถ่ายทำเมนู "ปลาสองแผ่นดิน" รวมทั้งลูกค้าจำนวนมากก็ขอเข้าไปดูกรรมวิธีการปรุงถึงก้นครัว นอกจากนี้ยังมีลูกค้าผู้ชายที่ต้องการมาพิสูจน์ว่ากินแล้วเพิ่มพลังจริงหรือไม่ ส่วนใหญ่ก็ทดลองชิมกันอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาสะอิดสะเอียนของลูกค้ารายอื่นที่มานั่งกินอาหารทะเลทั่วไปภายในร้าน

น.ส.อัญชลี ขุนฤทธิ์ เจ้าของร้าน ถือโอกาสนี้ เปิดตัวเมนูเปิบพิสดารอีกอย่างให้ทดลองชิม ชื่อว่า "ปูไต่" บอกว่าเป็นสูตรดั้งเดิมของชาวเลในจ.ระยอง นิยมกินกันมาก โดยทางร้านใช้ปูเนียมที่มีลักษณะคล้ายปูลม แต่เนื้อมีรสชาติที่มันกว่า ก่อนหน้านี้ ทางร้านจ้างชาวประมงจับปูเนียมเป็นๆ นำมาเลี้ยงไว้ในทรายในบ่อปูน พอมีออร์เดอร์จากลูกค้า ก็จับปูเป็นๆ ไปแช่ในน้ำปลาที่ปรุงรสด้วยมะนาว แล้วใส่ในถ้วย ปิดฝาไว้ เสิร์ฟพร้อมผัก พริกขี้หนูสด ข้าวสวยร้อนๆ วิธีการกิน "ปูไต่" ลูกค้าต้องใช้ส้อมจิ้มกลางตัวปูที่พยายามไต่หนีจากถ้วยน้ำปลาด้วยความทุรนทุราย นำมาคลุกกับข้าว แล้วก็ใส่พริกขี้หนูกับผัก กินแล้วจะได้รสชาติความมันของปูเนียมที่ไม่มีความคาวอยู่ในตัว ปัจจุบันเป็นที่นิยมของบรรดาลูกค้านักดื่ม มักสั่งมาเป็นกับแกล้ม

น.ส.อัญชลี กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไปเกี่ยวกับ "ปลาสองแผ่นดิน" ในช่วงเช้าไปเดินซื้อของในตลาดสด ปรากฏว่า มีแม่ค้าและชาวบ้านที่มาซื้อของ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม บางคนก็บอกว่าน่าจะทำให้ตายก่อน แต่ตนขอยืนยันว่าเมนูดังกล่าวนั้นไม่ได้มีเจตนาทรมานสัตว์ หากแต่เป็นเมนูเก่าแก่ และในประเทศจีนก็มีการกินอยู่ เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายจริง ส่วนลูกค้าที่คิดว่าทรมานสัตว์ ก็สั่งอาหารอย่างอื่นที่ทางร้านมีไว้ให้บริการก็ได้ เพราะเมนูดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะมีเฉพาะขาประจำที่มาสั่ง ส่วนเมนู "ปูไต่" ก็เป็นเมนูที่เก่าแก่ของชาวประมงกินกันมาช้านาน

ด้านนายสมชาย วัฒนาพล อายุ 43 ปี ลูกค้าของร้านที่เดินทางมาทดลองชิม "ปลาสองแผ่นดิน" เปิดเผยว่า เคยชิมเมนูดังกล่าวหลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนรุ่นเก่าทำให้กิน ส่วนการมาชิมในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะกินมานานแล้ว ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย มีความคึกคักกว่าเดิม แถมยังอร่อยด้วย เพราะเนื้อปลาจะหวานมาก

นายธีระ เหล่าหิรัญชัย อายุ 36 ปี ลูกค้าอีกราย กล่าวว่า เคยได้ยินเมนูดังกล่าวมานานแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ในอดีตรุ่นบรรพบุรุษก็ทำกินกันเป็นประจำ สามารถใช้ปลาทะเลได้ทุกชนิด บางครั้งก็นำไปลวกกับน้ำร้อนให้สุก ซึ่งเชื่อว่าช่วยทำให้เลือดลมดีและช่วยแก้โรคไขข้ออักเสบ เป็นสูตรของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ยังกินกันอยู่จนถึงปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นไปยังพระครูสาทรธรรมนิเทศก์ ประธานเผยแพร่พุทธศาสนาจังหวัดระยอง กล่าวถึงเมนู "ปลาสองแผ่นดิน" ว่า ตามหลักพุทธศาสนา ถือว่าเป็นบาป เพราะการฆ่าสัตว์มาเพื่อทำอาหารก็ควรจะทำให้ตายไปเลย ไม่ใช่นำมาทรมานแล้วกิน ถือว่าไม่เหมาะสม

วันเดียวกัน น.พ.ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่รับประทานปลาดิบๆ นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรและเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ประโยชน์ เพราะเมื่อเซลล์ของตัวปลาถูกทอดหรือโดนความร้อนแล้วจะทำให้เซลล์ตายหมด ที่บอกว่าจะทำให้บำรุงร่างกายและเซลล์จะทำให้ปึ๋งปั๋งนั้นไม่เป็นความจริง วิตามินต่างๆ ก็เช่นกัน เพราะเซลล์มันตายหมดแล้ว แต่ที่อันตรายเพราะว่ามีส่วนที่ยังดิบอยู่ ถ้าเป็นปลาที่มีเกล็ดชนิดต่างๆ จะมีพยาธิใบไม้ในตับจะเป็นโทษต่อร่างกาย และเป็นการทรมานสัตว์ ควรทำให้สุกตามขั้นตอนก่อนรับประทานจะปลอดภัยที่สุด
มติชน

เมนูโหด- โฉมหน้า "ปลาสองแผ่นดิน" เมนูจานโหดของร้านอาหารริมหาดแม่รำพึง จ.ระยอง โดยนำปลาเก๋าตัวเป็นๆ มาทอดให้สุกแค่ครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนยังดิ้นอยู่ บรรดานักนิยมเปิบพิสดารอ้างช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ แต่ถูกวิจารณ์ว่าสยดสยองเกิน


บันทึกการเข้า

ANR
Senior Member
member
*

คะแนน101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 01, 2007, 08:49:54 am »

เมนูวิตถาร- "ปูไต่" อีกเมนูพิสดารที่ร้านเตชินท์ จ.ระยอง โดยเอาปูเป็นๆแช่น้ำปลาคลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆ ส่วนเมนู "ปลาสองแผ่นดิน" เจ้าของร้านเผยถูกชาวบ้านต่อว่าทรมานสัตว์ แต่ยืนยันว่าเป็นสูตรโบราณยังมีคนกินอยู่
บันทึกการเข้า
deedao
Full Member
member
**

คะแนน9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 20, 2008, 12:17:52 pm »

แล้วถ้าเทียบกับเมนู  " ยำกุ้งเต้น "  ล่ะครับ  ความโหด  ความทรมานสัตว์  ความพิสดาร  ต่างกันกับเมนูกระทู้นี้ไหม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!