กินอย่างไรให้อายุยืน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 09:46:09 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กินอย่างไรให้อายุยืน  (อ่าน 1887 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2008, 08:11:21 am »

กินอย่างไรให้อายุยืน





ปัจุบันผู้ชายไทยมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 68 ปี ผู้หญิงอยู่ที่ 72 ปี แต่ด้วยเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ (Anti aging

Medicine) จะทำให้คนมีอายุยืนมากขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ทำนายว่า มนุษย์จะมีอายุขัยถึง 120-150 ปี ก่อนที่จะถึง พ.ศ.

2593 หรือในอีก 42 ปีข้างหน้า
 
ผู้อ่านคงจะสงสัยว่า “เวชศาสตร์อายุร วัฒน์”  คืออะไร แล้วจะทำให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นจริงหรือ เกี่ยวกับเรื่องนี้

นพ.กฤษฎา ศิรามพุช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์อายุร วัฒน์ อธิบายว่า

เวชศาสตร์อายุรวัฒน์เป็นศาสตร์ใหม่ทางการแพทย์เพื่ออายุยืนอย่างไม่มีโรค

ปัจจุบันศาสตร์สาขานี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา

เพื่อให้บริการดูแลการถนอมวัยก่อนที่จะเข้าสู่วัยสูงอายุให้มีสุขภาพดี
 
สืบเนื่องจากปัญหาทั่วโลกในอีกไม่กี่ปีนี้จะมีผู้สูงอายุมากขึ้นทั่วโลก ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน

สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดให้ประเทศไทยเข้าสู่โครงสร้างประเทศสูงอายุเหมือนกับแถบยุโรปแล้ว เพราะมีประชากรที่มีอายุ

60 ปีกว่า 10% และประชากรเด็กลดลงเหลือเพียง 20% สัดส่วนประชากรสูงอายุกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ผู้สูงอายุไทยส่วนใหญ่จะมีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง

เนื่องจากขาดการดูแลตั้งแต่ต้น
 
หลักการของเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ คือ การใช้เทคโนโลยีล่าสุด หรือความรู้ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ทุกด้าน

ในการชะลอความชราหรือความเสื่อมออกไป ขณะเดียวกันสุขภาพก็ต้องดีด้วย ความอ้วนทำให้คนเราแก่เร็ว

ศัตรูตัวร้ายที่ทำให้อ้วน คือ แป้งและน้ำตาลขัดขาว หากต้องการลดความอ้วนต้องไม่รับประทานอาหารเหล่านี้จำนวนมาก

ควรกินอาหารธรรมชาติ ผ่านการปรุงแต่งขัดขาวน้อย กินธัญพืชให้มาก คนอ้วนที่พุงเหมือนลูกแอปเปิ้ลมีอันตราย

เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
 
สารอนุมูลอิสระเป็นตัวทำให้เกิดความ ผิดปกติในร่างกายมนุษย์เพิ่มขึ้น เช่น พบมะเร็งเต้านมในผู้ชายเพิ่มขึ้น

เป็นผลมาจากสารซีโนเอสโตร เจนไปกระตุ้นยีนมะเร็งในร่างกายให้ทำงาน โดย สารชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกาย เช่น

การดื่มน้ำเย็นจากขวดน้ำพลาสติก พลาสติกที่ใช้ห่ออาหาร  อาหารกระป๋อง การใช้เครื่องสำอาง ลิปสติก โลชั่นทาผิว

ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของเมทิลพาราเบน รวมไปถึงการใช้ถุงยางอนามัยแบบฆ่าเชื้ออสุจิ
 
ปกติกลไกของร่างกายจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้เอง

แต่ไม่เพียงพอกับการกำจัดสารอนุมูลอิสระจึงทำให้เกิดความเสื่อมของร่างกายทำให้แก่ชรา

เซลล์ขาดความสมดุลเกิดการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรับสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่ม
 
หัวใจของการมีอายุยืนมี 3 ประการ คือ 1. การควบคุมอาหารจำกัดพลังงาน (Health Weight) 2.

กินอาหารสุขภาพที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ (Healthy Diet and Life Style)  เช่น กินอาหารที่ให้เส้นใยสูง แต่ให้พลังงานต่ำ

จำพวกผัก ผลไม้ ควรทานผักอย่างน้อย 5 กำมือ ผลไม้หลากสี 3 กำมือต่อวัน

รวมทั้งการใช้ชีวิตและห่างไกลจากตัวบ่อนทำลายสุขภาพ ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ เหล้า หมาก ยานัตถุ์

เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า

อนุมูลอิสระจะเข้าไปทำลายเซลล์ให้หยุดการทำงานหรือทำงานผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ 3. การมีสุขภาพจิตดี

(Healthy Mind) ไม่เครียด เพราะความเครียดจะทำให้แก่ก่อนวัยทำให้เกิดอนุมูลอิสระสูง
 
สำหรับเมนูอาหารต้านความชราแบบไทย ๆ ที่แนะนำให้รับประทาน เช่น เมี่ยงคำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง น้ำพริกกะปิ

แกงส้มมะรุม  แกงส้มดอกแค แกงเลียง ปลาทู รวมทั้งปลา    เล็กปลาน้อย งาขาว งาดำ โดยเฉพาะอาหารจำพวกผัก ผลไม้

จะทำให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ หรือเส้นใย เมี่ยงคำให้สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ ควรลดอาหารที่ทำลายสารต้านอนุมูลอิสระ

เช่น หอยลาย ปลาร้า ปลาน้ำจืด เพราะอาหารเหล่านี้จะมีน้ำย่อยชนิดหนึ่ง เรียกว่า ไทอะมิเนส ถ้ารับประทานมาก ๆ

จะทำให้วิตามินบี 1 ต่ำลงทำให้เกิดโรคเหน็บชาได้.

suwat_krub@hotmail.com


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!