ตั้งชื่อ
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตั้งชื่อ  (อ่าน 4278 ครั้ง)
kogame
member
*

คะแนน60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« เมื่อ: กันยายน 22, 2007, 08:03:16 pm »

 
 
ตั้งชื่อ
วิธีตั้งชื่อที่เป็นมงคล ตามหลักโหราศาสตร์ แบบดูดวงชะตา ที่ใช้ วันเดือน ปี เวลา และจังหวัดที่เกิด มาคำนวณนั้นมีวิธี การตั้งชื่อเพื่อเสริมดวงชะตาแต่โดยทั่วไป จะอาศัยปูมทักษาพยากรณ์เข้าประกอบ โดยเรียงตามลำดับว่า บริวาร อายุ เดช ศรี มูลละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี ความหมายก็คือ


บริวาร หมายถึงมีบารมี มีผู้รับใช้ มีผู้คอยช่วยเหลือ

อายุ หมายถึง อายุขัย

เดช หมายถึง อำนาจ อิทธิพล

ศรี หมายถึง สิ่งที่เป็นศิริมงคล

มูลละ หมายถึง ทรัพย์สมบัติ มรดก

อุตสาหะ หมายถึง มีความขยันหมั่นเพียรพยายาม เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ

มนตรี หมายถึง ผู้อุปการะ ผู้อุปถัมภ์ ผู้ให้คำปรึกษา

กาลกิณี หมายถึง สิ่งที่เป็นอัปมงคล เป็นเสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีที่นำความทุกข์มาให้

โดยที่ภูมิพยากรณ์ในแต่ละวันเป็นดังนี้

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ มี อาทิตย์เป็นบริวาร จันทร์เป็นอายุ อังคารเป็นเดช พุธเป็นศรี เสาร์เป็นมูลละ พฤหัสเป็นอุตสาหะ ราหูเป็นมนตรี ศุกร์เป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันจันทร์ มี จันทร์เป็นบริวาร อังคารเป็นอายุ พุธเป็นเดช เสาร์เป็นศรี พฤหัสเป็นมูลละ ราหูเป็นอุตสาหะ ศุกร์เป็นมนตรี อาทิตย์เป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันอังคาร มี อังคารเป็นบริวาร พุธเป็นอายุ เสาร์เป็นเดช พฤหัสเป็นศรี ราหูเป็นมูลละ ศุกร์เป็นอุตสาหะ อาทิตย์เป็นมนตรี จันทร์เป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน มี พุธเป็นบริวาร เสาร์เป็นอายุ พฤหัสเป็นเดช ราหูเป็นศรี ศุกร์เป็นมูลละ อาทิตย์เป็นอุตสาหะ จันทร์เป็นมนตรี อาทิตย์เป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน(ราหู) มี ราหูเป็นบริวาร ศุกร์เป็นอายุ อาทิตย์เป็นเดช จันทร์เป็นศรี อังคารเป็นมูลละ พุธเป็นอุตสาหะ เสาร์เป็นมนตรี พฤหัสเป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันพฤหัส มี พฤหัสเป็นบริวาร ราหูเป็นอายุ ศุกร์เป็นเดช อาทิตย์เป็นศรี จันทร์เป็นมูลละ อังคารเป็นอุตสาหะ พุธเป็นมนตรี เสาร์เป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันศุกร์ มี ศุกร์เป็นบริวาร อาทิตย์เป็นอายุ จันทร์เป็นเดช อังคารเป็นศรี พุธเป็นมูลละ เสาร์เป็นอุตสาหะ พฤหัสเป็นมนตรี ราหูเป็นกาลกิณี

ผู้ที่เกิดวันเสาร์ มี เสาร์เป็นบริวาร พฤหัสเป็นอายุ ราหูเป็นเดช ศุกร์เป็นศรี อาทิตย์เป็นมูลละ จันทร์เป็นอุตสาหะ อังคารเป็นมนตรี พุธเป็นกาลกิณี

และอักษรที่ประจำปูมทักษาพยากรณ์มีดังนี้

อาทิตย์ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

จันทร์ ก ข ค ฆ ง

อังคาร จ ฉ ช ซ ฌ ญ

พุธ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

เสาร์ ด ต ถ ท ธ น

พฤหัส บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม

ราหู ย ร ล ว

ศุกร์ ศ ษ ส ห ฬ อํ

ขั้นต่อไปให้นับเรียงลำดับพี่น้องที่เกิดตามกันมาในเพศเดียวกัน เช่นมีพี่น้อง 5 คน และเป็นบุตรคนที่ 4 แต่ก่อนหน้านี้ มีพี่สาว 2 คน เมื่อนับเรียงเฉพาะเพศชายก็จะได้ว่าเป็น บุตรชายลำดับที่สองเป็นต้น จะเปรียบเสมือนคล้ายกับคนเกิดวันจันทร์ด้วย เพราะตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ของพระจันทร์

ในการเรียงลำดับที่เกิดตามเพศให้จัดเรียงดังนี้

ลำดับที่ 1 เปรียบเหมือนเกิดวันอาทิตย์

ลำดับที่ 2 เปรียบเหมือนเกิดวันจันทร์

ลำดับที่ 3 เปรียบเหมือนเกิดวันอังคาร

ลำดับที่ 4 เปรียบเหมือนเกิดวันพุธ

ลำดับที่ 5 เปรียบเหมือนเกิดวันเสาร์

ลำดับที่ 6 เปรียบเหมือนเกิดวันพฤหัส

ลำดับที่ 7 เปรียบเหมือนเกิดวันราหู

ลำดับที่ 8 เปรียบเหมือนเกิดวันศุกร์

หากครบ 8 แล้วให้วนไปตั้งต้นที่ 1 ใหม่ และอักษรที่เป็น บริวาร อายุ เดช ศรี มูลละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี ก็ดูได้จากด้านบน เช่นเดียวกับคนที่เกิดในวันนั้น

จากนี้ไปจะอาศัยกฎมาตรฐาน 3 ข้อคือ

1. สำหรับผู้ชาย ให้ใช้อักษรที่เป็น เดช หรือ บริวาร ตามวันเกิดขึ้นต้น และต้องออกเสียงด้วย ส่วนผู้หญิง ให้ใช้อักษรที่เป็น ศรี หรือ บริวาร ตามวันเกิดขึ้นต้น และต้องออกเสียงด้วย

2. ให้งดเว้นอักษรที่เป็น กาลกิณี ตามวันเกิด มาใส่ไว้ในชื่อโดยเด็ดขาด

3. ให้งดเว้นอักษรที่เป็น กาลกิณี ตามลำดับเพศที่เกิด มาใส่ไว้ในชื่อโดยเด็ดขาด

ตัวอย่างเช่นผู้ชาย เกิดวันอาทิตย์ เป็นลูกคนที่ 6 เมื่อนับเรียงในเพศชาย เป็นลูกลำดับที่ 5 เมื่อเป็นดังนี้

อักษรที่ควรใช้

ตามวันเกิด คือ จ ฉ ช ซ ฌ ญ เพราะเป็นเดช และ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ เพราะเป็นบริวาร

ตามลำดับที่เกิดคือ ย ร ล ว เพราะเป็นเดช และ ด ต ถ ท ธ น เพราะเป็นบริวาร

อักษรที่ต้องห้ามคือ ศ ษ ส ห ฬ อํ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิด และ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ กาลกิณีตามลำดับที่เกิด

นอกจากนี้ยังมีการตั้งชื่อเพื่อแก้ไขดวงชะตา หรืออาจเรียกว่า

การตั้งชื่อเพื่อเสริมดวงชะตา วิธีที่ถูกต้อง จำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางโหราศาสตร์ ดูดวง ผูกดวงชะตาขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นต้องคำนวณหาจุดที่ดีเด่น หรือเรื่องที่ดีเด่นในดวงชะตา ของแต่ละคน รวมทั้งเรื่องร้ายที่จะมาคอยบั่นทอนดวงชะตา เมื่อพิจารณาดังนี้แล้วจึงนำมาประกอบร่วมกับหลักการดังกล่าวข้างต้น เพื่อกำหนดตั้งชื่อ ของเจ้าของดวงชะตาให้เด่น และมีท่านภาพขึ้นมาให้สมจริงกับดวงชะตา ส่วนในเรื่องที่ร้ายๆ ที่เกิดจากดาวร้ายต่างๆ ที่ไม่เกื้อหนุนชะตาก็จะเว้นไว้ไม่นำมาประกอบเป็นชื่อโดยเด็ดขาด เช่นเดียวกับเป็นกาลกิณี

การตั้งชื่อด้วยวิธีนี้จะเป็นการช่วยลดข้อผิดพลาดเช่น คนที่ใช้นามเดช แต่เดชในดวงชะตา นั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี ก็ทำให้เป็นคนเอาแต่ใจ เมื่อโตขึ้นก็อาจจะกลายเป็นคนเกเร ชอบใช้อำนาจข่มขู่ ชอบใช้อิทธิพล ไม่เกรงกลัวผู้ใด นำความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว

หรือคนที่ใช้มูลละมาตั้งชื่อ แต่ตำแหน่งของดาวมูลละหรือทรัพย์สมบัติไม่ดี ก็อาจจะทำให้การได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติ มักได้มาในทางที่ผิดทำนองคลองธรรม

ในการหาชื่อที่เป็นมงคล ท่านสามารถหาได้จากหนังสือพจนานุกรม และให้เลือกความหมายของชื่อที่เป็นมงคลเท่านั้น และมีหลักเพิ่มเติมอีกว่าชื่อของ เทวดา พระพรหม นางฟ้า เทพเจ้า หรือหัวใจคาถา ต่างๆ จะไม่นิยมมาตั้งเป็นชื่อ เพราะถือว่าเป็นชื่อที่ต้องห้าม ใช้ได้เฉพาะตัวเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้เข้าใจ แต่เปรียบเสมือนว่าชื่อนั้นๆ ถูกจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้วห้ามใช้ซ้ำนั่นเอง

การตั้งชื่อแบบเลขศาสตร์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ เป็นการนำวิธีการเข้ามาเผยแพร่จากต่างประเทศ โดยมีการกำหนดค่าของตัวเลขซึ่งอ้างอิงให้ตรงกับอักษร แล้วนำผลรวมที่ได้มาตีความ ในช่วงแรกของการเผยแพร่นั้นวิธีการนี้ มีการกำหนดค่าตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งเรียนแบบมาจากความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ ที่เป็นคู่มิตร เป็นกลาง หรือเป็นคู่ศัตรูกัน รวมทั้งท่านลักษณะของดาวเคราะห์ ซึ่งนับเป็นหลักการที่มีการคิดค้นเพิ่มเติมจากวิธีการเดิมที่มีมาแต่โบราณ แต่หากจะให้ดี และมีความแน่นอน ต้องนำผลที่ได้ไปตรวจสอบกับหลักการทางโหราศาสตร์ เพื่อที่จะพิสูจน์ทราบ ท่านภาพของตัวเลขที่ได้นั้นว่า จะดีจริงตามดวงชะตาหรือไม่ ซึ่งการใช้โหราศาสตร์เป็นหลักเปรียบเสมือน ว่าท่านต้องการเลือกเดินทางไปเส้นทางไหน จะเลือกเที่ยวบินอะไร ส่วนการใช้เลขศาสตร์เข้าประกอบ เปรียบเสมือนว่าก่อนขึ้นเครื่องบิน พนักงานต้องตรวจบัตรโดยสารว่าท่านได้ขึ้นเครื่องบินถูกต้องตามที่ต้องการหรือไม่ ซึ่งการมองด้วยโหราศาสตร์ จะทำให้ท่านสามารถเลือกเที่ยวบินที่เหมาะสม กับความต้องการที่จะเดินทางได้มากกว่า มองเห็นทางเลือกได้ชัดเจน ถูกต้องดีกว่า ซึ่งหลังจากวิธีการทางเลขศาสตร์ผ่านการใช้งานมาหลายปี ก็เริ่มเห็นข้อผิดพลาด โดยจะเห็นว่าในปัจจุบัน มีการเขียนตำราออกมาขาย ในลักษณะที่เป็นการตั้งชื่อที่มีการ ผสมผสานหลักการโบราณ กับหลักของเลขศาสตร์มาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่า ในการตั้งชื่อที่ถูกต้องไม่สามารถทิ้งหลักการทางโหราศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณได้ ทั้งนี้เพราะศาสตร์ในการทำนายทั้งหลายมีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์นั่นเอง แต่การที่ใครสังเกตอะไรได้ใหม่ๆ และนำไปสร้างเป็นทฤษฎีใหม่ๆ ขึ้นมา เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องย้อนกลับมาค้นคว้าจากจุดกำเนิดในที่นี้คือการดูดวงด้วยโหราศาสตร์ โดยทำนายจากตำแหน่งการโคจรดวงดาวบนท้องฟ้านั่นเอง

สำหรับค่าตัวเลขที่ใช้เทียบกับอักษร ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ มีดังนี้

เลข 1 ก ด ถ ท ภ า ำ ฤ ฤา สระอุ ไม้เอก

เลข 2 ข ช ง บ ป สระเอ สระอู สระแอ ไม้โท

เลข 3 ฆ ต ฑ ฒ ไม้จัตวา

เลข 4 ค ธ ญ ร ษ สระอะ สระอิ สระโอ ไม้หันอากาศ

เลข 5 ฉ ฌ ณ น ม ห ฎ ฮ ฬ สระอึ

เลข 6 จ ล ว อ สระใอ

เลข 7 ซ ศ ส ไม้ตรี สระอี สระอือ

เลข 8 ผ ฝ พ ฟ ย ไม้ไต่คู้ ( ็)

เลข 9 ฏ ฐ สระไอ การันต์

เลข 1 A I J Q Y

เลข 2 B K R

เลข 3 C G L S

เลข 4 D M T

เลข 5 E H N X

เลข 6 U V W

เลข 7 O Z

เลข 8 F P

ตัวอย่างชื่อวโรตม์ พันทะวงศ์ แทนค่าชื่อ 6+4+4+3+5+9 = 31 สกุล 8+4+5+1+4+6+2+7+9 = 46

เมื่อนำชื่อ และนามสกุลมารวมกันได้เท่ากับ 31+46 = 77

จากนั้นจึงนำเลข 7+7 มาบวกกันได้เท่ากับ 15

และยังสามารถเอาตัวเลข 1+5 มาบวกกันได้อีกเพื่อให้เหลือเพียงหลักเดียวได้เท่ากับ 6

ในการทำนายจะใช้ตัวเลข 31, 77, 15 และ 6 มาใช้อ่านคำทำนาย การคิดค้นลายเซ็น และการดำเนินชีวิต เช่น หากพอใจในการดำเนินชีวิตตามคำทำนายของเลข 77, 15 และ 6 ก็ให้ใช้ลายเซ็นที่มีทั้งชื่อและนามสกุลรวมกัน แต่ถ้าชอบการดำเนินชีวิตแบบคำทำนายของเลข 31 ก็เซ็นแต่ชื่อไม่ต้องใส่นามสกุล

สมมติใช้ลายเซ็นที่มีทั้งชื่อและนามสกุล ให้สังเกตความเป็นไปในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากเอกสารที่ได้ลงนามไป หรือ การดำเนินงานทุกๆ วันที่ 15 หรือวันที่ 6 จะได้รับผลดีจริงหรือไม่ เป็นต้น หรือการที่อยู่ในบ้านเรือน ที่มีผลรวมของเลขเป็น 15 หรือ 6 จะมีผลอย่างไร การทำงานอยู่ในสถานที่เลข 15 หรือ 6 การทำงานอยู่ตึกชั้น 15 หรือ 6 ดังนี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดจะต้องประกอบกับ ดวงชะตาว่าตามดวงชะตา นั้นดาวเคราะห์ที่แทนความหมาย 15 หรือ 6 นั้นอยู่ในสภาพอย่างไร ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดี จึงจะให้ผลดีจริง แต่หากอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี ก็ไม่อาจที่จะรับผลดีดังตามที่คาดหวังไว้ จะเป็นได้ก็แต่เพียงความหวังเลือนลางคลาดเคลื่อนไป คลาดเคลื่อนมาเท่านั้น

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การดูดวงที่แม่นยำจึงเปรียบเสมือนบันไดขั้นแรก ก่อนที่จะนำไปสู่เลขศาสตร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบันไดขั้นท้ายๆ เอาไว้ให้สังเกตผลของดวงชะตานั่นเอง
 
 
 


บันทึกการเข้า

พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 22, 2007, 08:21:24 pm »

อ้างถึง
ากนั้นจึงนำเลข 7+7 มาบวกกันได้เท่ากับ 15

งง มากครับ

ช่วยอธิบายหน่อยครับ

ว่ามันได้ 15 ได้ ไงครับ  Shocked
บันทึกการเข้า

bancha.2518
member
*

คะแนน42
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1066


ลูกสาว ครับ


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 22, 2007, 11:30:55 pm »

สุดยอดเลยครับ อาจารย์เทพ มีความละเอียดมากเลยครับ จขกท คงจะง่วงนอน ปวดหัว ฯลฯ เลยไม่ดูให้ละเอียด ทบทวนให้ถูกต้อง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: